Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 514

ตอนที่ 514

บทที่ 514 ก็เป็นไปตามคาด

ไม่กี่วันถัดไป มู่วี่สิงยังคงพักอยู่ที่การ์เด้นมูเจียวาน ราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เริ่มฟื้นตัวขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด อาจเป็นเพราะ วิดีโอแสดงความรักของมู่วี่สิง ที่ได้รับความนิยมทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต

แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังคงเป็นมังกรที่ขาดหัว กลุ่มผู้บริหารระดับสูงร้องด้วยความกระวนกระวายใจ และมู่วี่สิงยังคงนิ่งเงียบ

วันสัมภาษณ์ของเวินจิ้งเป็นวันศุกร์ เธอต้องไปประเทศF และในวันนั้นมู่วี่สิงเป็นวันเปิดการรักษา เวินจิ้งจึงไม่ให้เขาไปด้วย

“คุณอยู่หนานเฉิงรอฉันนะคะ คุณไปด้วย……ฉันต้องกังวลมากแน่ๆ”

“จิ้งจิ้ง”ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“คุณรีบไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ จะสายแล้วนะ……”

“คืนนี้ผมจะไปรับคุณ”มู่วี่สิงยังคงพูดต่อ

เมื่อเสร็จจากการตรวจรักษา เขาถึงจะไปประเทศF

“ไม่ต้อง ไม่ต้องค่ะ พรุ่งนี้เช้าฉันก็กลับมาแล้วค่ะ”

“ไม่ได้ ถ้ายังพูดอีก ผมจะไม่ให้คุณไปสัมภาษณ์นะ”มู่วี่สิงตั้งใจทำใบหน้าโกรธ

เวินจิ้งบุ้ยปาก ไม่กล้าพูดอีก

เธอรู้ว่า มู่วี่สิงทำตามที่พูดตลอด

เมื่อมาถึงสนามบิน หลินเวยก็มารอเธอก่อนแล้ว

เธอยืนกรานที่จะไปกับเวินจิ้งด้วย เวินจิ้งไม่สามารถขัดเธอได้

การสัมภาษณ์เป็นช่วงบ่าย เวินจิ้งเมื่อลงจากเครื่องบิน ก็ตรงไปที่มหาวิทยาลัย คณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยF มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก มีนักศึกษาหลายพันคน ที่เข้าร่วมการสัมภาษณ์ในวันนี้ รายชื่อของเวินจิ้งอยู่ด้านหลัง

ในขณะนั้น ก็มีร่างหนึ่งที่คุ้นเคย ผ่านหน้าเธอไป เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น สายตาก็สบเข้ากับดวงตาลึกของโจวเซิน

ฝีเท้าของเขา หยุดลงด้านหน้าของเวินจิ้ง“คุณเตรียมตัวมาเป็นยังไงบ้าง?”

“ฉันเตรียมตัวมาดีแล้วค่ะ”เวินจิ้งตอบเบาๆ

เธอรู้สึกว่าตอนนี้ของตัวเอง เป็นสถานะที่ดีที่สุด

“คำถามที่อาจารย์ที่จะปรึกษาจะถาม ค่อนข้างจะยุ่งยากเล็กน้อย ซึ่งต้องแสดงศักยภาพมากหน่อย”โจวเซินเตือน

เมื่อพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องเรียน

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และไม่ได้รับผลกระทบจากคำพูดของโจวเซิน เธอยังคงมั่นใจในความสามารถของตัวเอง

แต่เมื่อตรงหน้า ค่อยๆ มีนักเรียนที่เดินเข้าไปทีละคน แต่ก็ต้องคอตกกันออกมา เวินจิ้งได้รับผลกระทบแล้ว

เธอบีบเอกสารที่อยู่ในมือแน่น จนมีคนเรียกชื่อเธอ

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วเดินเข้าไปข้างในห้องเรียน

ผู้ที่สัมภาษณ์เธอ เป็นศาสตราจารย์หญิงท่านหนึ่ง อายุประมาณสี่สิบปี ถัดจากเธอเป็นโจวเซินที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว

เวินจิ้งตั้งอกตั้งใจ ฟังคำถามของศาสตราจารย์ให้จบ ถึงแม้มันจะยุ่งยาก เหมือนกับที่โจวเซินได้บอกไว้ แต่ก็เป็นความรู้ทั้งหมด ที่มู่วี่สิงเคยสอนเธอ และเธอก็จำมันได้เหมือนสายน้ำตั้งแต่แรก

บวกกับความคิดเห็นของตัวเองเข้าไป เธอก็เห็นการแสดงออกจากสีหน้าของศาสตราจารย์ถึงความชื่นชม

อย่างไรก็ตาม คำถามสองสามข้อถัดไป เป็นโจวเซินที่ถามคำถาม

มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เวินจิ้งได้เรียนมา ดังนั้นเธอจึงตอบตะกุกตะกัก

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็จัดระเบียบภาษาของเธอใหม่ แต่จู่ๆ เธอก็สูญเสียความมั่นใจ

เมื่อออกมาจากห้อง ก็รู้สึกหดหู่ใจมาก

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า โจวเซินจะถามคำถามเกี่ยวกับเภสัชกรรม เธอไม่เคยเรียนวิชาเอกนี้มาก่อน ก็เป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถตอบได้

เวินจิ้งได้แต่ปลอบใจตัวเองด้วยวิธีนี้ แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ

ลำดับรายชื่อจะประกาศในวันนี้ ดังนั้นเวินจิ้งจึงยังไม่ได้ไปไหน

เธอยืนอยู่ที่ระเบียง และต้องการโทรหามู่วี่สิง แต่นึกขึ้นได้ว่า วันนี้เขามีตรวจรักษา แล้วก็วางโทรศัพท์ลง

ในเวลานั้น ด้านหลังเธอก็มีเสียงฝีเท้า เดินเข้ามาหา

กาแฟแก้วหนึ่งก็ยื่นไปอยู่ตรงหน้าเธอ เวินจิ้งมองไปที่ใบหน้าที่แสนเย็นชาของผู้ชายคนหนึ่ง และไม่ได้รับมันมาถือ

“โกรธอยู่เหรอ?”โจวเซินขมวดคิ้ว

“ไม่ค่ะ”เวินจิ้งหันหน้าหนี เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการที่จะพูดอะไรกับโจวเซินไปมากกว่านี้

“คิดว่าการแสดงออกของตัวเองเป็นยังไงบ้าง?”

“ฉันค่อนข้างที่มั่นใจในตัวเองค่ะ”เวินจิ้งพูดอย่างตรงไปตรงมา

เมื่ออยู่ต่อหน้าโจวเซิน เธอไม่ต้องการที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา

เมื่อได้ยิน โจวเซินเม้มริมฝีปากบาง แล้วเอนหลังพิงราวบันได จ้องไปที่เวินจิ้ง“การสัมภาษณ์ในครั้งนี้มีศาสตราจารย์2500คน แต่มีเพียงสามท่านเท่านั้น ที่ผ่านเข้ามา”

การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด

ปลายนิ้วของเวินจิ้งค่อยๆ บีบแน่น

“อย่าเพิ่งหมดหวังสิ ถึงแม้ถ้าคุณจะสอบไม่ผ่านมหาวิทยาลัยF มู่วี่สิงก็ต้องให้คุณไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นอยู่ดี”

“ฉันพึ่งพาความสามารถของตัวเองมาตลอด!”น้ำเสียงของเวินจิ้งเย็นชาขึ้น

“ใช่เหรอ?เธอสามารถใช้ทางลัดได้ โดยไม่ต้องไปเบียดเสียด กับคนจำนวนมากผ่านเส้นทางที่ยากลำบาก”

“ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่าฉันไม่ผ่านแล้ว ใช่ไหมคะ?”เวินจิ้งมองไปที่ผู้ชายตรงหน้า

ตอนที่อยู่ในห้องเรียน เธอก็รู้มาบ้างแล้ว ตำแหน่งของโจวเซินมีความสำคัญมาก ศาสตราจารย์ท่านนั้น เห็นได้ชัดว่า ก็ให้ความสำคัญกับเขามาก หลังจากนั้น เธอก็ได้ยินความคิดเห็น ของผู้เข้าร่วมสัมภาษณ์จำนวนมาก เกรงว่าคนที่คัดเลือกในครั้งนี้ จะเป็นการคัดเลือกจากโจวเซิน

“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ถ้าคุณแสดงความอ่อนแอต่อหน้าผม ผมก็อาจจะช่วยคุณก็ได้นะ”โจวเซินจงใจพูด

เวินจิ้งกัดฟันด้วยความโกรธ ผู้ชายคนนี้กำลังข่มขู่เธอ ทำไมเธอถึงมองไม่ออกนะ

“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”เวินจิ้งหันไปมองอย่างเย็นชา

ถ้าเธอสอบไม่ผ่านมหาวิทยาลัยF เธอก็แค่ไปมหาวิทยาลัยอื่น

“จุ๊จุ๊ ยังคงยืนหยัดเหมือนเดิม”มุมปากของโจวเซินค่อยๆ ยิ้มลึก วางแก้วกาแฟลง แล้วร่างสูงของเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งมองดูเวลา และไม่ได้คาดหวังว่าจะผ่านการคัดเลือก จึงออกจากมหาวิทยาลัย

หลินเวยรอเธออยู่ที่รถตลอดเวลา เมื่อเห็นลูกสาวออกมา ก็ถามด้วยความงุนงง“ไม่ใช่ต้องรอให้ประกาศผลก่อน ถึงไปออกมาไม่ใช่เหรอ?”

“กลับกันเถอะค่ะ”เวินจิ้งส่ายหน้า

เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของลูกสาว หลินเวยก็ถามอย่างห่วงใย“เสี่ยวจิ้ง อย่าเพิ่งหมดหวังสิ แม่เชื่อว่าหนูต้องสอบผ่าน”

“หนูไม่เชื่อในตัวเองแล้วค่ะ”เวินจิ้งถอนหายใจ

บางที ถ้ารู้ว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของโจวเซิน จะมาสัมภาษณ์เธอตั้งแต่แรก เธอก็จะไม่ต้องมาแต่แรก

ผู้ชายคนนั้น ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เธอเหรอ?

“เสี่ยวจิ้ง แม่จะอยู่รอกับหนูอีกสักหน่อย ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง ผลประกาศก็จะออกแล้ว”

หลินเวยยังคง เชื่อมั่นใจตัวลูกสาวของตัวเอง

เวินจิ้งไม่พูดอะไรต่อ แล้วมองออกไปด้านนอก อาคารเรียนของมหาวิทยาลัยF ถูกออกแบบด้วยอิฐ โดยสถาปนิกชื่อดัง มีเอกลักษณ์ที่พิเศษ สวยงามและสดใส

แต่ในเวลานี้ เธอไม่มีอารมณ์ที่จะมาชื่นชมมัน

จนกระทั่ง โทรศัพท์ก็มีเสียงเตือนของข้อความดังขึ้น เวินจิ้งเปิดดู ในที่สุดดวงตาของเธอก็สว่างวาบขึ้นอย่างช้าๆ

เธออ่านข้อความนี้ หลายต่อหลายครั้ง เธอ……เธอผ่านแล้ว?

แต่สิ่งที่โจวเซินพูดตอนนั้น หมายถึงอะไร เห็นได้ชัดว่ามันเป็นแบบนั้น

หลินเวยก็เห็นแล้วเหมือนกัน“เสี่ยวจิ้ง แม่รู้ว่าลูกต้องสอบผ่านแน่นอน”

“แต่ว่า……”เวินจิ้งยังไม่กล้าที่จะเชื่อมัน

สิ่งที่โจวเซินพูด มันก็เหมือนกับการปฏิเสธอย่างชัดเจน

ไม่ใช่ข้อความถูกส่งมาผิดหรอกนะ?

วินาทีต่อมา เธอก็ผลักประตูรถ แล้วลงรถทันที เตรียมที่จะไปสำนักงานของมหาวิทยาลัย เพื่อยืนยัน

ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก โจวเซินก็ถูกกลุ่มนักศึกษาหญิงล้อมรอบ เมื่อเห็นเวินจิ้ง เขาก็เดินตรงเข้ามาหาเธอ

เขามองลึกไปที่ใบหน้าของความเวินจิ้ง ที่เต็มไปด้วยความสุข

“ผลลัพธ์ออกมาแล้วเหรอ?”เขาถามอย่างรู้ทัน

เวินจิ้งหยุดฝีเท้าลง มองไปที่ชายหนุ่มหล่อที่อยู่ตรงหน้า และไม่พูดอะไรสักพัก

“ยินดีด้วยนะ”โจวเซินพูดอย่างไม่แยแส และไม่หยุดให้เธอตอบ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และไม่สนใจอารมณ์ของโจวเซิน ตรงไปที่สำนักงานของมหาวิทยาลัย เพื่อยืนยันการประกาศผล ถึงจะรู้สึกโล่งใจได้

เธอผ่านการทดสอบแล้วจริงๆ

เธอรีบโทรหามู่วี่สิงในทันที แต่เมื่อเธอกำลังหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา สายจากมู่วี่สิงก็โทรเข้ามา

“มู่วี่สิง ฉัน……ฉันผ่านการรับเข้าแล้ว!”

มู่วี่สิงยิ้มอย่างผ่อนคลาย“อืม ก็เป็นไปตามคาด”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท