Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 525

ตอนที่ 525

บทที่ 525 สังเกตได้ว่าเขาโกรธ

“เหยาเหยา แกเลิกดื่มได้แล้ว ตอนนี้ร่างกายของแกดื่มเหล้าไม่ได้นะ!” เวินจิ้งดันเหล้าทุกแก้วออกไปห่างๆ

แต่หลิงเหยากลับขัดขืน โดยการโถมตัวเข้าไปผลักเวินจิ้งออก

โชคดีที่มู่วี่สิงที่อยู่ข้างหลังรับเธอเอาไว้ได้ทัน นัยน์ตาสีดำขลับดุดัน จากนั้นเขาก็เอ่ยสั่งเกาเชียนว่า “พาคุณหลิงเหยากลับ”

“ฉันไม่กลับ….ฉันจะกินเหล้า ฉันกำลังอกหักนะ! เวินจิ้ง แกมาดื่มเป็นเพื่อนฉันสิ!” ดวงตาที่แยกนัยน์ดำกับนัยน์ตาขาวออกจากกันอย่างชัดเจนของหลิงเหยามองมาที่เวินจิ้ง

เวินจิ้งยิ่งรู้สึกสงสารยิ่งกว่าเดิม

เธออยากเดินไปหา แต่มู่วี่สิงกลับโอบเอวเธอไว้แน่น เธอจึงเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มที่กำลังกรุ่นโกรธอยู่ข้างกาย

“เรากลับกันเถอะ” มู่วี่สิงจะพาเธอกลับโดยไม่ปล่อยให้เธอได้พูดอะไร

แต่เวินจิ้งกลับไม่อยากกลับ “ฉันทิ้งหลิงเหยาเอาไว้ไม่ได้”

เธอนอนซบอยู่กับเคาน์เตอร์บาร์ ด้วยดวงตาแดงช้ำ ดูเสียใจและเจ็บปวดเอามากๆ

มู่วี่สิงขบริมฝีปากแน่น เมื่อมองไปทางเวินจิ้ง สายตาคาดหวังของเธอก็มักจะทำให้เขาใจอ่อนได้เสมอ

“แล้วคุณอยากได้แบบไหน?” เขาพยายามข่มความโกรธเอาไว้

เวินจิ้งพูดออกมาอย่างกังวล “ฉันอยากพาหลิงเหยากลับการ์เด้นมู่เจียวานด้วย”

ถ้าให้เธอกลับไปที่มหาลัยในสภาพนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่

วินาทีต่อมา มู่วี่สิงก็ต่อสายหาหลิงอี้

แต่ว่า หลิงอี้กลับประเทศC เพราะเรื่องงานตั้งแต่เมื่อบ่ายแล้ว……..

“มู่วี่สิง เหยาเหยาเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันไม่สนใจเธอไม่ได้” เวิ้นจิ้งดิ้นออกจากอ้อมกอดของมู่วี่สิง

แล้วเข้าไปประคองหลิงเหยา หลิงเหยาพิงอยู่ในอ้อมแขนของเวินจิ้งอย่างเมามาย สายตาก็ไม่รู้ว่าจดจ้องไปยังที่ใด น้ำตาถึงได้ค่อยๆไหลลงมา

เวินจิ้งโอบเธอเอาไว้ ตบไหล่เธอเบาๆแล้วพูดปลอบว่า “เหยาเหยา ฉันจะพาแกกลับ แกอย่าร้องนะ…..”

บนรถ มู่วี่สิงนั่งตรงเบาะข้างคนขับ ส่วนเวินจิ้งกับหลิงเหยานั่งเบาะหลัง

จนเมื่อกลับมาถึงการ์เด้นมู่เจียวาน มู่วี่สิงก็เงียบมาตลอดทาง

บอดี้การ์ดและเวินจิ้งช่วยกันประคองหลิงเหยาเข้าไปในห้อง ส่วนมู่วี่สิงจัดการเรื่องงานอยู่ในห้องหนังสือ

เมื่อต้มชาแก้แฮงค์ให้หลิงเหยาดื่มเสร็จ เวินจิ้งก็เปลี่ยนชุดนอนสบายๆให้เธอใส่จากนั้นถึงได้ออกจากห้องไป

ไฟในห้องหนังสือยังสว่าง เวินจิ้งจึงเคาะประตูแล้วเดินเข้าไป

มู่วี่สิงนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

“ให้หลิงเหยาอยู่ที่นี่กับเราไปสักระยะ ได้ไหม?” เมื่อเวินจิ้งมองมู่วี่สิง ก็สังเกตได้ว่าเขากำลังโกรธ

แต่ว่าหลิงเหยาเพิ่งจะแท้งมา เธอไม่สบายใจถ้าต้องปล่อยให้เพื่อนอยู่คนเดียวจริงๆ

“คุณคือนายหญิงของที่นี่ คุณก็ตัดสินใจเอาเถอะ”

“ตอนนี้ฉันยังไม่ใช่สักหน่อย” เวินจิ้งพูดเสียงเบา

ความสัมพันธ์ของเธอกับมู่วี่สิงในตอนนี้ไม่ใช่สามีภรรยาแล้ว

ที่นี่คือที่ของมู่วี่สิง

“การ์เด้นมู่เจียวานคือสมบัติของคุณ” จู่ๆมู่วี่สิงก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เวินจิ้งนิ่งอึ้ง ผ่านไปนานถึงได้ค่อยๆเข้าใจความหมายในประโยคนี้ของมู่วี่สิง

“ว่าไงนะ?”

มู่วี่สิงหยิบเอาโฉนดฉบับหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก แล้วยื่นไปตรงหน้าของเวินจิ้ง

บนโฉนด เธอไปเป็นเจ้าของตั้งแต่เมื่อไหร่……..

“ที่นี่คือบ้านของคุณนะ…….” เวินจิ้งพูดอย่างสั่นระริก

แม้ว่าตอนนั้นมู่วี่สิงจะบอกว่าที่นี่คือเรือนหอของทั้งสองคน แต่ว่าเธอไม่เคยออกเงินด้วยเลยแม้แต่นิด เธอคิดมาตลอดว่าเจ้าของคือมู่วี่สิง……..

“จิ้งจิ้ง ที่นี่คือบ้านของคุณ ถ้าคุณยอมแต่งงานกับผม มันก็จะเป็นบ้านของเรา” มู่วี่สิงเดินเข้ามากอดเธอเอาไว้แน่น

ขอบตาของเวินจิ้งร้อนผ่าว สะอื้นออกมานิดๆ

มองชื่อของตัวเองบนโฉนด ที่ตรงนี้ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ทั้งยังเป็นตึกสูง แม้ว่าการออกแบบจะดูเรียบง่าย แต่เป็นฝีมือของนักออกแบบที่มีชื่อเสียง อิฐและกระเบื้องทุกอันต่างเป็นวัสดุชั้นดี…..

พอได้คำนวณดู ก็พบว่าเป็นราคาที่เธอใช้คืนไม่ไหวจริงๆ…..

ตอนนี้เธอคือลูกสาวของตระกูลหลิน มีหุ้นที่คุณตาเหลือไว้ให้เธออยู่ในมือ ถ้าขายหุ้น ก็คงต้องเอาเงินไปให้มู่วี่สิงทั้งหมด……

“จิ้งจิ้ง อย่าคิดว่ามันคือหนี้เลย ยังไงในอนาคตเราก็ต้องแต่งงานและเป็นสามีภรรยากันนะ” มู่วี่สิงรู้จักเวินจิ้งดี

เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอคงไม่ยอมรับเอาที่แห่งนี้ไปแน่ๆ เขาถึงไม่ได้บอกเธอมาตลอด

เวินจิ้งทำปากจู๋ ส่งเสียงฮึดฮัดออกมา

“มู่วี่สิง ต่อไปนี้ถ้าจะตัดสินใจทำอะไร ต้องบอกฉันก่อนนะ” เวินจิ้งช้อนตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างจริงจัง

“ขอดูสถานการณ์ก่อน” มู่วี่สิงกระตุกริมฝีปาก

“ดูสถานการณ์อะไรเล่า! คุณจะปิดบังฉันทุกอย่างไม่ได้นะ!” เวินจิ้งหน้านิ่ง

ความรู้สึกที่ไม่ว่าเรื่องอะไรตัวเองก็รู้เรื่องเป็นคนสุดท้ายตลอดน่ะ มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีหรอกนะ

“จิ้งจิ้ง ถ้ามันเป็นเรื่องที่ทำให้คุณเสียใจ ผมยอมไม่บอกให้คุณรู้ตลอดไปยังจะดีกว่า” มู่วี่สิงพูดเสียงหนัก

เมื่อเห็นเธอเสียใจ เขาก็ยิ่งเสียใจมากกว่า

“มู่วี่สิง…….” เวินจิ้งดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขา “ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ……”

“คุณเป็นเด็กน้อยของผมตลอดนั่นแหละ” มู่วี่สิงกุมหน้าของเธอเอาไว้ จากนั้นก็ประทับจูบดูดดื่มลงไป กอดเอวบางของเธอเอาไว้ แล้วดันเธอไปอยู่ตรงข้างๆโต๊ะ จากนั้นไฟราคะก็เริ่มติดขึ้นมา

นอกประตูที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ครึ่งหนึ่ง สายตาคู่หนึ่งมองมาสองคนที่อยู่ภายในห้อง ความเกลียดชังก็ยิ่งลุกลามไปทั่วดวงตา

วันรุ่งขึ้น แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกใสเข้ามา

เวินจิ้งชินกับการตื่นเช้า แต่กลับถูกมู่วี่สิงกดทับให้นอนอยู่ข้างกายครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อลุกขึ้นมาก็ใกล้จะสิบโมงแล้ว

เมื่อมาที่ห้องของหลิงเหยา กลับไม่พบเธอ แต่เวินจิ้งมาเห็นเธออยู่ในห้องครัวแทน

“เหยาเหยา” เมื่อเวินจิ้งเห็นเธอทำอาหารเช้า ก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

หลิงเหยาที่เธอรู้จัก ไม่เก่งเรื่องงานบ้านเลยสักนิด

“ตื่นกันละเหรอ เวินจิ้ง เมื่อวานฉันคงวุ่นวายน่าดูเลยสิท่า” หลิงเหยาพูดขึ้นมาอย่างเสียใจ

“ต่อไปก็อย่าดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้นอีกนะ โชคดีที่ฉันกับมู่วี่สิงหาตัวแกเจอ” ถ้าเมื่อวานหลิงเหยาอยู่ร้านเหล้าคนเดียว ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลย

“ฉันแค่รู้สึกไม่ดี…..” หลิงเหยาหลุบตาลง ในน้ำเสียงไม่สามารถปกปิดความเศร้าโศกได้เลย

“ฉันขออยู่ที่นี่สักระยะได้ไหม? ฉันทำเรื่องลากับมหาลัยไปแล้วเดือนหนึ่ง และฉันก็ไม่อยากกลับบ้านด้วย”

เวินจิ้งชะงัก นึกไปถึงใบหน้าเคร่งขรึมของมู่วี่สิงเมื่อวาน เขาต้องไม่เห็นด้วยแน่เลย

“ฉันขออยู่แค่อาทิตย์เดียว ช่วงนี้ซือซือมีสอบ ฉันไม่อยากรบกวนเธอ รอให้เธอกลับมาก่อน แล้วเดี๋ยวฉันไปอยู่กับเธอก็ได้” หลิงเหยาพูดขึ้นมา

“ได้สิ งั้นอาทิตย์นี้ให้ฉันดูแลแกนะ แกเพิ่งแท้งมา ร่างกายยังอ่อนแออยู่ แล้วก็ห้ามดื่มเหล้าอีกเด็ดขาดเลยนะ” เวินจิ้งพูดกำชับขึ้นมาอีกครั้ง

“ฉันก็เป็นหมอเหมือนกันน่า ฉันรู้อยู่แล้ว” หลิงเหยายิ้ม

ในตอนนี้เอง มู่วี่สิงก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นหลิงเหยา สีหน้าก็ยังคงเรียบนิ่งตามเดิม

แต่เมื่อมองเวินจิ้ง ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่น

เขาเดินเข้าไปกอดเวินจิ้งไว้ ราวกับว่าไม่ได้สนใจว่าในนี้ยังมีใครอีกคน

“เหยาเหยาจะอยู่ที่นี่กับเราหนึ่งอาทิตย์นะ ฉันเลยอยากให้คนใช้มาที่นี่ทุกวัน” เวินจิ้งมองไปทางมู่วี่สิง

อาทิตย์นี้เธอก็ไม่คิดที่จะกลับไปอยู่ที่มหาลัย รอให้ร่างกายของหลิงเหยาหายดีและย้ายกลับไปก่อน เธอถึงจะกลับหอ

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้ว หางตาเหลือบมองหลิงเหยา จากนั้นดวงตาก็ทอแววเข้มขึ้นมานิดหน่อย

“คุณตัดสินใจเลย”

“มู่วี่สิง เวินจิ้ง คงรบกวนทั้งสองคนแย่เลย” หลิงเหยาเผยท่าทางรู้สึกผิดออกมา

“อย่าพูดอย่างนี้สิ เราเป็นเพื่อนกันนะ”

เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จ มู่วี่สิงก็ไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ส่วนเวินจิ้งกลับไปที่มหาวิทยาลัย

ก่อนจะไปเวินจิ้งก็ย้ำกับหลิงเหยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ให้เดินซนไปทั่ว ให้พักฟื้นร่างกายและจิตใจ จากนั้นถึงได้ออกไป

บนรถ มู่วี่สิงเงียบมาตลอด บรรยากาศจึงค่อนข้างเย็นลง

เวินจิ้งคิดแต่เรื่องของหลิงเหยา อารมณ์เลยดาวน์ไปด้วย

“หลิงเหยาจะไปเมื่อไหร่?” จู่ๆมู่วี่สิงก็ถามขึ้นมา

“น่าจะหลังจากหนึ่งอาทิตย์”

“ผมหาอพาร์ทเม้นท์ให้เธออยู่ได้นะ” มู่วี่สิงพูดขึ้นมา

“มู่วี่สิง ตอนนี้หลิงเหยาต้องมีคนคอยดูแล ถ้าปล่อยให้เธออยู่คนเดียวฉันไม่สบายใจหรอก คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าเมื่อวานเกือบมีเรื่อง…..” เวินจิ้งพูดขึ้นมาอย่างเครียดๆ

นัยน์ตาของมู่วี่สิงดูเย็นชาน่ากลัวมาก เมื่อเวินจิ้งสบตากับเขา เสียงพูดก็ยิ่งเบาลง

เขาโกรธแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท