Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 530

ตอนที่ 530

บทที่ 530 มีแต่คนโลภมาก

วันต่อมา เวินจิ้งตื่นเช้าเพื่อไปมหาลัย แต่เมื่อนึกถึงหลิงเหยา ก็เป็นฝ่ายโทรหาเธอก่อน

แต่คนที่รับสายกลับเป็นหลิงอี้ “ผมจะพาเธอกลับประเทศc กำลังจะขึ้นเครื่องแล้วล่ะ”

ตอนนี้หลิงอี้ต้องยึดโทรศัพท์ของหลิงเหยาเอาไว้ ไม่อย่างนั้น เธอต้องหนีไปแน่ๆ เขาจึงต้องขัดขวางเธอด้วยวิธีนี้

“ถ้ากลับประเทศc แล้วเรื่องเรียนของเธอล่ะ?”

“คงต้องพับเก็บเอาไว้ก่อน แต่เธอจะไม่กลับมาที่เมืองหนานเฉิงอีกเด็ดขาด” หลิงอี้พูดเสียงหนัก

“เธอสบายดีใช่ไหม?”

“อืม” หลิงอี้มุ่นคิ้ว ดูเหมือนเวินจิ้งจะไม่รู้เรื่องระหว่างมู่วี่สิงกับหลิงเหยาสินะ

“ต้องขึ้นเครื่องแล้ว ผมวางก่อนนะ”

เมื่อหลิงอี้วางโทรศัพท์ลง หลิงเหยาก็รีบพุ่งเข้ามาเพื่อที่จะแย่งโทรศัพท์ไป แต่หลิงอี้ก็รีบโยนไปให้ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ

จากนั้นก็รวบจับข้อมือของน้องสาวเอาไว้ แล้วพาเธอเดินเข้าไปข้างใน

หลิงเหยายังคงดิ้นขัดขืน พูดขึ้นมาอย่างอารมณ์เสียว่า “ฉันไม่อยากกลับ พี่….ฉันขอล่ะ พี่ก็รู้นี่ว่าถ้าฉันกลับไปฉันต้องไปดูตัว ฉันไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่ได้รักหรอกนะ”

ดวงตาของหลิงอี้ฉายแววความสงสารขึ้นมาเพียงชั่วแวบ “แต่ฉันไม่อยากให้แกแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแก”

หลิงเหยาเม้มปาก จากนั้นก็กุมท้องเอาไว้อย่างกะทันหัน แล้วก็นั่งยองๆ “ฉันอยากไปห้องน้ำ——“

“ฉันไปเป็นเพื่อน”

“พี่ต้องรอข้างนอกสิ!”

หลังจากหลิงเหยาเดินเข้าไป ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหนี หลิงอี้ถึงได้ลดความระแวงลงมาบ้าง แต่สีหน้าก็ยังคงอึมครึมอยู่

“คุณหลิง เวลาประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงบ่ายถูกเลื่อนเข้ามาครับ” ผู้ช่วยเข้ามารายงานอย่างกระวนกระวาย

“กลับ!”

เมื่อแอบเห็นว่าพี่ชายขึ้นเครื่องไปแล้ว หลิงเหยาถึงค่อยๆเดินออกมาช้าๆ

เมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากหลิงเหยา เวินจิ้งก็รู้สึกแปลกใจมาก

ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลก แต่เธอก็ฟังออกว่าเป็นเสียงของหลิงเหยา

“เวินจิ้ง พี่ชายฉันจะพาฉันกลับประเทศcให้ได้เลย ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยโทรหาแก…..” เสียงปนสะอื้นของหลิงเหยาดังขึ้นมา

“เหยาเหยา แกอยู่ที่ไหน?”

“ฉันอยู่ที่สนามบิน”

เธอเพิ่งมาถึงโรงพยาบาล  โจวเซินก็อยู่กับเธอด้วย เมื่อเห็นใบหน้าเป็นกังวลของเวินจิ้ง จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “มีเรื่องอะไร”

เวินจิ้งมองเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“วันนี้ไม่มีตรวจ ถ้าคุณมีธุระจะลาก็ได้นะ” โจวเซินขมวดคิ้ว

“รุ่นพี่โจว ขอบคุณค่ะ” เวินจิ้งพูดอย่างจริงใจ

“ถ้ามันเร่งด่วนมาก ผมไปส่งคุณได้นะ” โจวเซินมองเวลา

“ไม่ต้องค่ะ”

เมื่อเห็นเวินจิ้งวิ่งออกไป สีหน้าของโจวเซินก็ทอแววเข้ม

เมื่อมาถึงสนามบิน เวินจิ้งก็เจอหลิงเหยาหลบอยู่ตรงมุมหนึ่ง

เธอนั่งขดตัว ด้วยใบหน้าซีดๆ กรอบตาแดงไปหมด

เมื่อเห็นเวินจิ้ง ก็ฝืนยิ้มออกมาให้ แต่ก็ไม่ได้ผล

“เวินจิ้ง……”

“เหยาเหยา ฉันจะพาแกกลับตระกูลหลิน” เวินจิ้งพูดเสียงหนักแน่น

“จริงเหรอ? มันจะรบกวนแกเกินไปหรือเปล่า” หลิงเหยาเผยสีหน้ารู้สึกผิดออกมา

“ไม่หรอก ที่ตระกูลหลินมีคนรับใช้ ยังไงก็สะดวกอยู่แล้ว” เวินจิ้งกอดปลอบเธอ

“แกจะมาอยู่กับฉันไหม?” หลิงเหยาพูดพึมพำ “ฉันเหงามากๆเลย…..”

เวินจิ้งนิ่งไป เมื่อนึกไปถึงมู่วี่สิง ก็คิดว่าเขาต้องหึงแน่ๆ

แต่เธอก็ไม่อยากทิ้งหลิงเหยาไว้คนเดียวเหมือนกัน

“แกกลับไปอยู่การ์เด้นมู่เจียวานเถอะ ฉันกลับไปอยู่ที่มหาลัยก็ได้” หลิงเหยาผลักเธอออกเบาๆ

“แต่ร่างกายแกยังไม่หายดี” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ดีขึ้นแล้วล่ะ และฉันควรเดินออกมา” ดวงตาของหลิงเหยาฉายแววเยือกเย็นขึ้นมาเพียงชั่วแวบ

“เวินจิ้ง ขอบคุณแกนะ ฉันรบกวนแกมากเกินไปแล้ว” น้ำเสียงของหลิงเหยาเต็มไปด้วยความขมขื่น

เวินจิ้งยิ่งรู้สึกสงสารมากกว่าเดิม แต่เรื่องของความรู้สึก คนนอกอย่างเธอไม่อยากเข้าไปสอด

หลิงเหยาคือเพื่อนของเธอ เธอเคารพการตัดสินใจของเพื่อน

เวินจิ้งพาเธอกลับมายังมหาวิทยาลัยหนานไห่ จากนั้นก็มองเวลา เตรียมตัวที่จะไปรอมู่วี่สิงที่โรงพยาบาลจงซิน

แต่เมื่อมาถึงก็เจอกับเคสฉุกเฉินพอดี มู่วี่สิงจึงต้องรีบทำการผ่าตัด แล้วโจวหย่านก็กำลังอยู่ข้างๆเขา

ฝีเท้าของเวินจิ้งแข็งค้าง ตอนนี้เธอไม่ได้ใส่ชุดกาวน์ จึงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้

“อาการของคนไข้เป็นยังไงบ้าง” เธอเดินเข้าไปถามที่เคาน์เตอร์พยาบาล

เมื่อจำได้ว่าเป็นคุณหมอในโรงพยาบาล พยาบาลจึงรีบรายงานอาการของคนไข้ให้เวินจิ้งฟัง

มองดูเวลา กว่ามู่วี่สิงจะผ่าตัดเสร็จต้องใช้เวลาอย่างน้องสามชั่วโมง

งั้นเธอกลับก็ได้

เมื่อหันหลังกลับ ก็เห็นโจวเซินกำลังจะออกจากโรงพยาบาล

เมื่อเห็นเวินจิ้ง ก็เดินเข้ามา “อยากทำโอทีเหรอ?”

“ทำได้เหรอ?” เธอเลิกคิ้วขึ้น

ถ้าอยู่ทำโอที ก็สามารถรอมู่วี่สิงได้

โจวเซินเข้าใจในทันทีว่าเธออยากรอมู่วี่สิง จึงวกกลับไปที่ห้องตรวจ

ส้งเชนจึงให้การบ้านกับทั้งสองคนมาไม่น้อยเลย เวินจิ้งและโจวเซินต้องช่วยกันทำให้เสร็จ

“เมื่อกี้ไปทำอะไรมา?” โจวเซินถามขึ้นมาลอยๆ

“เรื่องของหลิงเหยาน่ะ” เวินจิ้งไม่ได้ลงรายละเอียด

โจวเซินขมวดคิ้ว ปลายนิ้วควงปากกาเล่น มองไปทางเวินจิ้งด้วยสายตาแวววาว

“ฝึกงานกับผม รู้สึกยังไงบ้าง?”

ไม่ทันไร ทั้งสองก็ร่วมงานกันได้ครึ่งเดือนแล้ว

ถ้าพูดตามภาพรวม ก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ถ้าเป็นปัญหาเล็กๆ โจวเซินก็จะปรับแก้ให้เวินจิ้ง

“รุ่นพี่โจวมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ทั้งยังมีศักยภาพ ฉันคิดว่าก็โอเคค่ะ” เวินจิ้งพูดอย่างเรียบนิ่ง

“ผมเป็นคนขอให้ศาสตราจารย์ส้งย้ายคุณมาฝึกงานกับผมเองล่ะ” โจวเซินบอกเธอออกมาตามตรง

เวินจิ้งนิ่งไป เธอก็เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้

“โจวเซิน ทำไมคุณทำอย่างนี้” เวินจิ้งหลุบตาลง

“นักศึกษาที่อยากฝึกงานกับผมไม่ได้มีน้อยไปกว่าศาสตราจารย์ส้งเลยนะ แต่คุณดันเข้าตาผม ไม่คิดว่าตัวเองโชคดีหน่อยเหรอ?” น้ำเสียงของโจวเซินมีความถากถางอยู่หลายส่วน

“ไม่คิด” สีหน้าของเวินจิ้งเย็นชาขึ้นหลายเท่า

เธอยังไม่ลืมที่โจวเซินขู่เธอเอาไว้ตอนสอบสัมภาษณ์

“อีกปีเดียวผมก็จะจบแล้ว และปีนี้ คุณต้องอยู่ข้างๆผม” โจวเซินพูดออกมาอย่างยึดมั่น

“โจวเซิน คุณคิดว่า ฉันต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณใช่ไหม?” เวินจิ้งช้อนตาขึ้นมอง นัยน์ตาดูใสซื่อบริสุทธิ์

ดวงตาคู่นี้ ทำให้โจวเซินถลำลึกลงไปโดยไม่รู้ตัว

แต่ว่า เขาเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

“อืม ใช่” โจวเซินกระตุกยิ้มมุมปาก

ในเมื่อเธอกล้ามาที่มหาวิทยาลัยF เขาก็กล้าทำแบบนี้

วินาทีต่อมา เวินจิ้งก็ลุกพรวดขึ้นอย่างโมโห โจวเซินในสายตาของเธอตอนนี้ ก็คือหมาป่าห่มหนังแกะดีๆนี่เอง

“กลัวเหรอ?” โจวเซินกระตุกริมฝีปากหยอกล้อ

“ไม่กลัว” เวินจิ้งมองเขาอย่างไร้กังวล

“ช่วงนี้ คุณไม่รู้สึกว่าหลิงเหยาแปลกไปบ้างเหรอ?” จู่ๆโจวเซินก็เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เวินจิ้งนิ่งไป จากนั้นก็มองเขาอย่างงงงวย

“มู่วี่สิงเคยคบกับเธอมาก่อน ยัยโง่ อย่าปล่อยให้เพื่อนหลอกสิ”

“ฉันไม่เชื่อ” เวินจิ้งโต้กลับ

ถ้าเป็นเรื่องจริง มู่วี่สิงคงบอกเธอแล้ว

แต่มู่วี่สิงไม่เคยบอกเธอ

แต่เมื่อนึกไปถึงเมื่อวาน….เรื่องกลิ่นน้ำหอมบนตัวของมู่วี่สิง ใบหน้าของเธอก็ขาวซีด

“ถ้าไม่อย่างนั้น แล้วทำไมหลิงเหยาทำแท้งล่ะ ก็เพราะว่าเด็กคนนั้น ไม่ใช่ลูกของมู่วี่สิงยังไงล่ะ” เมื่อโจวเซินเห็นสีหน้าของเวินจิ้ง ก็รู้ในทันทีว่าคำพูดของตัวเองใช้กับเธอได้ผล

“การที่ผู้ชายคนหนึ่งไม่จริงใจกับคุณ คุณคิดว่าเขาจะรักคุณจริงๆเหรอ?”

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เธอต้องเชื่อมั่นในความรู้สึกของมู่วี่สิงที่มีต่อเธอเข้าไว้

“โจวเซิน นี่มันเรื่องของฉัน คนนอกอย่างคุณไม่ต้องเสียแรงมาเตือนหรอก” เวินจิ้งพูดขึ้นมาอย่างโกรธๆ

“คุณเป็นเด็กฝึกงานในความดูแลของผม ผมก็แค่บอกคุณด้วยความหวังดี คนของตระกูลมู่น่ะ มีแต่คนโลภมากทั้งนั้น” ความโกรธแค้นในดวงตาของโจวเซินเอ่อล้นออกมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท