Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 549

ตอนที่ 549

บทที่ 549 อยากเจอเขาจริง ๆ

นอกห้องผ่าตัดนั้น เห็นเพียงไฟสีแดงสว่างอยู่

หลิงเหยากอดพี่ชายไว้ ร้องไห้จนหมดแรง

แต่ยังคงฝืนลืมตา แล้วมองดูห้องผ่าตัดอย่างไม่กระพริบตา

สามชั่วโมงผ่านไป ไฟสีแดงในห้องผ่าตัดได้ดับลง

หมออีกคนเดินออกมา หลิงเหยาจึงรีบเข้าไปจับแขนเขาแน่น ๆ “คุณหมอ……คุณเป็นหนูเป็นยังไงบ้าง”

หมอคนนั้นปิดปาก ไม่ได้พูดอะไร

หลังจากนั้นมู่วี่สิงเดินออกมา เขาถึงพูดเบา ๆ “ขอโทษด้วยจริง ๆ”

หลิงเหยาลืมตาข้างไว้ และตอนนี้เธอไม่สามารถยืนอยู่ได้อีก เธอหมดสติไปในอ้อมแขนของหลิงอี้

หลิงอี้ดูสีหน้านิ่ง ๆ แต่นัยน์ตาค่อย ๆ แพร่กระจายความเจ็บปวดไปทั่วทุกที่

“แม่ของผม……”

“พวกคุณอาจจะได้เห็นแกครั้งสุดท้ายแล้ว” มู่วี่สิงถอดหน้ากากออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักหน่วง

ต่อมา หลิงอี้คว้าคอเสื้อของมู่วี่สิงไว้แน่น ๆ ชายสองคนที่สูงเท่ากันได้เผชิญหน้าต่อกัน

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ หมอที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดเตือนสติเขา “ญาติผู้ป่วยครับ รบกวนระงับอารมณ์ด้วยนะครับ”

หลิงอี้หรี่ตาลงและกำหมัดไว้แน่น ๆ ผ่านไปสักพัก เขาถึงค่อย ๆ ปล่อยมู่วี่สิง

มู่วี่สิงพูดอย่างเคร่งขรึม “เสียใจด้วยนะ”

หลิงอี้สั่งให้ผู้ช่วยส่งหลิงเหยากลับไปก่อน ส่วนเขาจะเข้าไปห้องผู้ป่วย

แต่ว่า คุณนายหลิงหลับตาไปแล้ว เธอพยายามเปิดปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้

หลิงอี้ยืนอยู่ข้าง ๆ น้ำตาอุ่น ๆ นั้น ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตา

เขาตัวสั่นไปหมด เขาก้มตัวลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้า “แม่……”

สองชั่วโมงต่อมา หลิงเหยาตื่นขึ้นมาในห้องผู้ป่วยอีกห้องด้วยสายตาอันอ้างว้าง

พยาบาลเข้ามาดึกเข็มน้ำเกลือออก เธอจึงถามอย่างรีบร้อนขึ้นมา “แม่ของฉันล่ะ……”

พยาบาลไม่ทราบสถานการณ์เหมือนกัน จึงตอบเธอไม่ได้

หลิงเหยาจึงรีบลุกขึ้นเดินอย่างโซเซ แล้วพยาบาลคนนั้นก็พยายามห้ามเธอ “คุณหลิง คุณต้องหยอดน้ำเกลือต่อนะคะ”

“ไม่หยอดแล้ว!”

เธอรีบเดินออกมาตรงทางเดิน และไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ชั้นไหน จึงรีบวิ่งไปทางลิฟต์ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก มู่วี่สิงที่สวมชุดคลุมสีขาวเดินออกมา

หลิงเหยาวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้ “วี่สิง แม่ฉัน……พาฉันไปหาแม่ที!”

เสียงของหลิงเหยานั้นเศร้ามาก และเธอจับแขนเสื้อของมู่วี่สิงไว้แน่น ๆ ด้วยสายตาที่คาดหวัง

แม่ของเธอต้องไม่เป็นอะไร

ไม่มีทาง

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วพยักหน้าเบา ๆ

แต่ ที่ที่เขาจะพาหลิงเหยาไปนั้นไม่ใช่ห้องผู้ป่วยอีก แต่เป็น……ห้องเก็บศพ

สีหน้าหลิงเหยาซีดเซียวลงทันที ลืมตากว้าง ๆ แล้วมองหน้ามู่วี่สิงไว้ เธอยังคงส่ายหัวและพึมพำไม่หยุด “ไม่……วี่สิง คุณพาฉันไปหาแม่ คุณแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่……”

ที่ไม่ไกล เห็นหลิงอี้กำลังสูบบุหรี่อยู่ เขาดับบุหรี่นั้นแล้วเดินเข้ามากอดหลิงเหยาไว้

“แม่ไปอย่างสงบแล้ว สิ่งที่แกควรสั่งเสีย แกบอกพี่หมดแล้วนะ”

“พี่ หนูไม่เชื่อพี่หรอก……พวกพี่กำลังโกหกหนูอยู่ใช่มั้ย!” น้ำเสียงของหลิงเหยาฟังแล้วทำให้ใจสลาย

แม้ว่าเธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดอยู่ที่ 50 % แต่เธอคิดว่า ถ้าเป็นมู่วี่สิงเป็นคนผ่าตัดให้ แม่ของเธอต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน

แต่ความเป็นจริงมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

“พี่ พาหนูไปหาแม่ที ขอร้องแล้วล่ะ……” หลิงเหยายังคงไม่ตายใจ

หลิงอี้ไม่พูดอะไร เขาดึงหลิงเหยาเข้ามากอดไว้แน่น ๆ อีกครั้ง แล้วค่อยพูด “เหยาเหยา ต่อจากนี้พี่จะดูแลเธอให้ดีที่สุดนะ”

เสียงร้องไห้ของหลิงเหยาค่อย ๆ ดังขึ้น หลิงอี้จึงกอดเธอแล้วเดินจากไป แต่เธอก็ได้หันมองมาที่มู่วี่สิงด้วยสายตาอันลึกซึ้ง

ตอนค่ำวันนั้น คาเยนน์สีดำขับเข้าไปใน มหาวิทยาลัยF

รถของมู่วี่สิงขับเข้าไปจอดที่ชั้นล่างของหอพักหญิงแล้วดับเครื่องลง จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้น

หอพักของเวินจิ้งอยู่ชั้นห้า เขาสามารถมองเห็นแสงไฟที่เปิดไว้ตรงระเบียงห้องด้านขวาสุดได้อย่างชัดเจน

สายตาจดจ่ออยู่ตรงนั้น จนถึงเวลาเที่ยงคืน ไฟได้ดับลง

เวินจิ้งดับไปนอน อันที่จริงเธอเห็นรถของมู่วี่สิงในตอนที่ออกมาตากผ้าตรงระเบียงแล้ว

ทั้งสอง……ไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลาสองวันแล้ว

ฉากที่เธอทะเลาะกับมู่วี่สิงยังอยู่ในสมอง แต่เรื่องที่บอกให้มู่วี่สิงไปอยู่กับหลิงเหยานั้น ก็แค่การระบายความโกรธเท่านั้น

แต่เขาทำไมถึงเชื่อมันไปได้

กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง เวินจิ้งนอนไม่หลับสักที เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเห็นโพสต์ของหลิงอี้

สองคำ : สู่สุคติ

เวินจิ้งตกใจ คุณนายหลิงเสียแล้วเหรอ?

เวินจิ้งรีบลุกขึ้นนั่ง แล้ววิ่งไปดูที่ระเบียง รถของมู่วี่สิงยังจอดอยู่

คุณนายหลิงเสียแล้ว หลิงเหยาคงต้องเสียใจมากเลยสิ

ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน ถึงยังไงเวินจิ้งก็ยังมีความเป็นห่วงหลิงเหยาอยู่

แต่ว่า ทำไมมู่วี่สิงไม่ได้อยู่กับเธอ?

เธอจ้องไปที่คาเยนน์สีดำคำนั้นอย่างไม่กระพริบตา ในที่สุด รถคันนั้นก็ค่อย ๆ ขับออกไปจนละสายตาเธอไป

เวินจิ้งจับราวระเบียงไว้แน่น ๆ แล้วกัดริมฝีปากไว้

วันต่อมา เวินจิ้งรอโจวเซินในชั้นเรียน เขาทั้งสองต้องทำการบ้านให้เสร็จ

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเวินจิ้งเหม่อลอยอยู่ตลอด และทำผิดพลาดไปหลายครั้ง

โจวเซินไม่ได้โกรธ แต่กลับแนะนำเธออย่างอดทน จนทำให้เวินจิ้งค่อย ๆ ตั้งสมาธิได้

จนถึงเที่ยววัน ทั้งสองออกจากห้องเรียน เวินจิ้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเห็นหลายสายที่ไม่ได้รับจากหลินเวย เธอจึงรีบโทรกลับ

คุณนายหลิงเสียแล้ว ก่อนหน้านั้นหลินเวยกับเธอมีความสัมพันธ์กันดีมาก ดังนั้นหลิงเวยจึงอยากชวนเวินจิ้งไปร่วมงานศพคุณนายหลิงด้วย

เวินจิ้งดูตารางเวลา ซึ่งตรงกับวันสุดสัปดาห์พอดี

โจวเซินยืนอยู่ไม่ไกล และสายตาของเขาจดจ่อแต่ตัวของเวินจิ้ง

ปกติแล้วเธอจะแต่งตัวแบบสบาย ๆ เสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ ซึ่งหุ่นเธอดูดีและผอมเพรียวมาก

เขาเม้มริมฝีปากไว้ เมื่อเห็นเวินจิ้งวางสายลง ค่อยเดินเข้าไปหา

“ไปกินข้าวด้วยกัน เดี๋ยวช่วยบ่ายต้องไปวิจัยต่ออีก” น้ำเสียงโจวเซินฟังแล้วดูเหมือนเป็นคำสั่ง

เวินจิ้งจึงจำเป็นต้องพยักหน้าตอบ และเธอยังคงมีสีหน้าอันเหม่อลอยในขณะที่กินข้าวกันอยู่

คำพูดของโจวเซินเธอลืมไปในพริบตา ราวกับว่าเธอเป็นร่างไร้วิญญาณอย่างนั้น

“เวินจิ้ง ตอนนี้เธอพูดแย่มากเลยนะ กลับไปพักผ่อนก่อนไหม?”

“ฉันไม่เป็นไร” เวินจิ้งฝืนยิ้มออกมา แต่ว่า รอยยิ้มนั้นดูแย่กว่าการร้องไห้

“ขอโทษด้วยนะ ฉันจะตั้งสติให้ได้”

“เดี๋ยวผมส่งคุณกลับไปหอพัก คุณไปพักผ่อนดี ๆ ก่อน แล้วได้กินยาที่หมอสั่งไหม?” โจวเซินขมวดคิ้ว

วันก่อนหมอได้ให้ยาเธอกลับไป แต่ว่า……เวินจิ้งลืมสนิทเลย

เธอทำหน้าไม่ถูก

“ฉันจำได้”

โจวเซินมองหน้าเธอไว้ โดยรู้ว่าอารมณ์ของเธอแบบนี้ต้องได้รับผลกระทบจากมู่วี่สิงอีกแล้วแน่เลย

นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นเยือก แต่เขาไม่ได้พูดอะไร

ช่วยบ่ายเวินจิ้งกลับไปที่หอพัก เธอเปิดดูข่าว เพื่อตั้งใจจะดูว่ามีข่าวของมู่วี่สิงบ้างไหม

แต่ไม่เห็นข่าวของมู่วี่สิงเลย มีแต่ข่าวบ้านหลิงเต็มไปหมด

ช่วงนี้บริษัทหลิงซื่อพบกับวิกฤตหลายด้าน และคุณนายหลิงได้เสียชีวิตอีก จึงทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทหลิงซื่อต้องดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ส่วนตัวของหลิงอี้ก็ถูกนักข่าวรายล้อมไปทุกที่

เธอไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องนี้ ทั้งสมองของเธอมีแต่เรื่องของมู่วี่สิงคนเดียว

ณ เวลานี้ เขายังอยู่โรงพยาบาลเหรอ?

เธอคิดถึงเขามาก อยากเจอเขามาก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เวินจิ้งไปที่โรงพยาบาล

ไปถึงชั้นแผนกศัลยกรรมประสาท วันนี้เป็นวันทำงานของมู่วี่สิง มีคนไข้จำนวนมากมาเข้าแถวรอการรักษา เวินจิ้งยืนอยู่ในลิฟต์ ไม่กล้าก้าวออกไปข้างนอก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท