Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 531

ตอนที่ 531

บทที่ 531 มีแต่คนอื่นเท่านั้นที่กล้าทำร้ายกับฉัน

“โจวเซินขอบคุณสำหรับการเตือน แต่ฉันจะไม่สงสัยมู่วี่สิงแน่นอน”

พูดเสร็จ เวินจิ้งก็รีบเก็บของออกไป

อากาศในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ แต่ในขณะนี้เธอรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก

เธอจะไม่สงสัยมู่วี่สิงเด็ดขาด

เขาไม่มีทางหลอกลวงเธอแน่

หายใจเข้าลึกๆ เธอมาที่แผนกประสาทวิทยา ผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว การผ่าตัดของมู่วี่สิงคงใกล้เสร็จแล้วมั้ง

โจวหย่านถือเสื้อกาวน์สีขาวและผลักเปิดประตูห้องทำงาน เมื่อเห็นเวินจิ้งอยู่ที่นั่นก็อึ้งไปสักพัก

หลังจากวางเสื้อลง เธอก็ออกไปโดยไม่มีการแสดงอาการใดๆ

แต่มีลิปสติกอันหนึ่งในกระเป๋าเสื้อที่เปิดอยู่

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หยิบลิปสติกขึ้นมาและตามโจวหย่านออกไปว่า ” เอาของของคุณไปด้วย”

“อืม ฉันลืม นี่คือสิ่งที่หมอมู่ให้ฉัน”โจวหย่านพูดอย่างจงใจ

“โจวหย่าน คุณคงกำลังอยู่ในความฝันมั้ง” เวินจิ้งพูดออกมาตามตรง

“คุณ …ไม่เชื่อก็ตามใจ” โจวหย่านกระแทกเท้าอย่างโกรธๆ

ทีแรกอยากเห็นท่าทีโกรธของเวินจิ้ง แต่ยิ่งหล่อนใจเย็นมากแค่ไหน เธอกลับยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น

“ลิปสติกยี่ห้อนี้มีข่าวว่ามีปัญหามานานแล้ว ฉันขอเตือนคุณ อย่าใช้เยอะ” น้ำเสียงของเวินจิ้งเย็นเยือก

“คุณ”โจวหย่านโกรธมากขึ้นและทุบลิปสติกอย่างโกรธ

ในเวลานี้ มู่วี่สิงกำลังออกมาจากห้องผ่าตัด โจวหย่านยังร้องไห้อย่างหดหู่ ท่าทางน่าสงสารเหลือเกิน

เวินจิ้งอยู่ข้างๆเธอ ในสายตาของคนอื่น ดูเหมือนว่าเวินจิ้งกลั่นแกล้งเธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้วแบบเอือมระอา เป็นน้องอายุน้อยจริงๆ

ไม่รู้ทำไม เธอก็ไม่ค่อยอยากเห็นมู่วี่สิงในตอนนี้

หันตัวเดินเข้าไปในลิฟต์ ใบหน้าของมู่วี่สิงจมลงและตามเข้าไปด้วย

แต่โจวหย่านห้ามเขาไว้” หมอมู่ เมื่อกี้เวินจิ้งปาลิปสติกของฉัน เธอต้องไม่ชอบที่ฉันทำงานในแผนกเดียวกับคุณแน่ค่ะ”

“ฉันยินดีที่เห็นเวินจิ้งหึง” มู่วี่สิงพูดด้วยความอ่อนหวานเบาๆ

โจวหย่านปากจู๋อยู่และน้ำตาก็ไหลออกมามากขึ้น

ออกจากโรงพยาบาล ตอนแรกเวินจิ้งจะกลับไปการ์เด้นมูเจียวาน แต่ไม่อยากเห็นหน้ามู่วี่สิง เธอกลับมหาวิทยาลัยดีกว่า

เพิ่งเรียกแท็กซี่ได้ แต่มู่วี่สิงก็เข้ามากอดเธอไว้

เวินจิ้งชนเข้าไปอ้อมกอดที่คุ้นเคย แต่ขัดขืนเบาๆ

“คุณปล่อยฉัน”

“โจวหย่านตั้งใจทำให้คุณโกรธ อย่าโกรธเลยนะ” มู่วี่สิงพูดอย่างอ่อนโยน

“ฉันไม่ได้โกรธ” ตอนนี้อารมณ์สงบลงบ้าง น้ำเสียงของเวินจิ้งก็อ่อนโยนขึ้น

มู่วี่สิงจับมือเล็กๆของเธอ “ใบหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอยด้วย นี่เรียกว่าไม่โกรธเหรอ”

“คุณนั่นล่ะที่มีริ้วรอย” เวินจิ้งโต้กลับอย่างโกรธๆ

แต่คำพูดของมู่วี่สิง ก็ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นเยอะ

“เรากลับบ้านกันนะ” มู่วี่สิงจับมือเธอเดินไปที่คาเยนน์ที่คุ้นเคย

เวินจิ้งพยายามดิ้นขัดขืนอยู่สองสามครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ถูกมู่วี่สิงล่อลวงให้เข้าไปนั่งในรถ

เฮ้อออ …เขามีวิธีเอาชนะใจเธอตลอดเลย

“คุณรู้ไหมว่าเมื่อกี้โจวหย่านพูดอะไรกับฉัน ”

“อะไรเหรอ”

“เธอบอกว่าคุณซื้อลิปสติกเธออันหนึ่งให้เธอ”

“เงินของฉันอยู่ในมือของจิ้งจิ้งหมด จะมีเงินซื้อลิปสติกให้เธอที่ไหนล่ะ” มู่วี่สิงยิ้มอย่างแบบเอือมระอา

“ถ้าคุณมีเงิน คุณจะซื้อให้เธอเหรอ” เวินจิ้งแกล้งทำท่าโกรธ

“ไม่หรอก จิ้งจิ้ง ฉันจะซื้อของให้ว่าที่คุณผู้หญิงมู่เท่านั้น รู้ไหม” เสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนและทุ้มต่ำ

มองสายตาของเธอ เหมือนว่ามีกาแลคซีหลายพันแห่งซ่อนอยู่ น่าดึงดูดเหลือเกิน

แต่สมองของเวินจิ้งนึกถึงคำพูดของโจวเซิน เธอก็ตกตะลึง

“งั้นเรามาสัญญากันนะ” เวินจิ้งยื่นนิ้วก้อยออกมา

มู่วี่สิงจูบหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยความรัก “โอเค”

กลับมาถึงการ์เด้นมูเจียวาน แม่บ้านทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยแล้ว เวินจิ้งนั่งอยู่บนโซฟา ผ่อนคลายทั้งตัวเลย

แต่ข้อความของโจวเซินก็ทำให้เธอกังวลใจขึ้นมาอีก

ต้องรีบทำการบ้าน

เวินจิ้งรีบเปิดกระเป๋าและทำการบ้านของวันนี้ที่ยังทำไม่เสร็จ เพียงแต่ว่าครั้งนี้คำถามวิเคราะห์ของศาสตราจารย์ส้งไม่ง่ายเลย เวินจิ้งนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นตั้งนาน แต่ก็คิดคำตอบไม่ออก

ในขณะนี้มู่วี่สิงเพิ่งทำอาหารมื้อดึกสองชุดเสร็จ เห็นเวินจิ้งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เดินไปหยิบกระดาษฝึกเขียนในมือของเธอ

เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นข้างๆหูว่า “ผู้ป่วยรายนี้มีอาการลูกตาสั่น คุณสามารถพิจารณาว่าก้านสมอง สมองน้อยและระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆมีปัญหาหรือเปล่า”

เวินจิ้งเข้าใจทันที เธอเพิกเฉยต่อสถานการณ์ของผู้ป่วยด้วย

“มู่วี่สิง คุณเป็นเทพเจ้า” เวินจิ้งมองเขาย่างชื่นชม

“คุณโง่เอง” มู่วี่สิงยิ้มและอุ้มเธอไปที่โต๊ะอาหาร

“คุณนั่นล่ะโง่ ฉันฉลาดมาก ไม่งั้นฉันจะเข้ามหาลัยFได้ยังไงล่ะ”

“ไม่ใช่เพราะการช่วยของฉันเหรอ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว

ก่อนการสัมภาษณ์ มู่วี่สิงติวให้เวินจิ้งเกือบทุกวัน

เวินจิ้งรู้สึกอายและตั้งใจพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “อ่อ เหตุผลนี้ คิดเป็น10%แล้วกัน”

หลายวันต่อมา เวินจิ้งก็เรียนที่มหาวิทยาลัยเลย และติดต่อกับหลิงเหยาไปบ้าง ตอนนี้เธอกลับมาเรียนตามปกติได้แล้ว เวินจิ้งวางแผนที่จะไปเยี่ยมเธอหลังเลิกเรียนในวันศุกร์

เพียงแค่ว่าตอนกลางคืนมีการทดลองทำให้ไปไม่ได้ สายๆก็ได้รับสายจากเบอร์แปลก เป็นสายจากอั้ยเถียน

คนในบาร์บอกว่าอั้ยเถียนเมาแล้ว เธอก็รีบไปทันที

เมื่อถึงบาร์ เวินจิ้งถามบริกรว่าเมื่อกี้มีคนโทรหาฉัน.. ”

“โอ้ คุณหมายความว่าคุณอั้ยเหรอ เมื่อกี้มีผู้ชายคนหนึ่งมารับเธอกลับไปแล้วครับ”

“อะไรนะ”

“บอกว่าเป็นสามีของเธอ หน้าตาหล่อดี ฉันเดาว่าคงเป็นเพราะสามีภรรยาทะเลาะกันมั้งครับ”

เวินจิ้งนึกถึงเสี้ยงหงเป็นคนแรก หาเจอเบอร์ของเสี้ยงหงและโทรไปยืนยันว่าใช่ถึงจะโล่งใจ

เป็นเวลาดึกแล้ว วันนี้เวินจิ้งใส่กระโปรงสีขาวและไม่ได้แต่งตัวเลย เทียบกับผู้หญิงที่งดงามและมีเสน่ห์ในบาร์ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอสดชื่นมาก ดึงดูดความสนใจมากอย่างรวดเร็ว

เธอไม่ได้อยู่นาน เมื่อเธอหันตัว มีร่างสูงก็ล้มลงตรงหน้าเธออย่างกะทันหัน

“เจียงฉี”เวินจิ้งมองผู้ชายที่ถูกทุบตีจนฟกช้ำอย่างหนัก ตกใจมาก

เจียงฉีที่เธอรู้จัก หน้าตาหล่อและดูสุภาพบุรุษ แต่ตอนนี้สภาพสิ้นหวังและน่าอับอาย

“ส่งฉันไปโรงพยาบาล … “เจียงฉีพูดด้วยเสียงต่ำ และจับเท้าของเวินจิ้งไว้

“ค่ะ คุณรอก่อนนะ”

เวินจิ้งเรียกรถพยาบาล โชคดีที่เจียงฉียังสามารถเดินเองได้ ไม่งั้นเธอคงลากผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้แน่

ในรถ เวินจิ้งมองเขา “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“อืม ถูกตี ฉันชินไปแล้ว” เจียงฉีทำท่าไม่ซีเรียส

เทียบกับเจียงฉีเมื่อก่อนที่เวินจิ้งรู้จัก มันแตกต่างกันมากเหลือเกิน

“เจียงฉี เกิดอะไรขึ้น”

เจียงฉีหลับตาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำและเจ็บปวด “ฉันถูกสั่งให้ออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากออกจากมหาวิทยาลัย ฉันมีแต่บ้านที่เช่าอยู่ชั่วคราว และวางแผนที่จะหางานทำ แต่ไม่สำเร็จสักทีเลย แถมยังถูกทำร้ายในตอนกลางคืนด้วย … …”

เวินจิ้งรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเธอได้ยิน “คุณสร้างศัตรูที่ไหนเหรอ…

เจียงฉียิ้มอย่างเย็นชา “ฉันจะสร้างศัตรูกับใครได้ล่ะ มีแต่คนอื่นเท่านั้นที่กล้าทำร้ายฉัน”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท