Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 539

ตอนที่ 539

บทที่ 539 คุณนี่คือแสงสว่างนำทางของฉัน

เวินจิ้งอดยิ้มไม่ได้ “คุณนี่คือแสงสว่างนำทางของฉัน ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงไม่สามารถสอบเข้าปริญญาโทได้หรอก ”

“ถ้าอย่างนั้นเราช่วยสร้างความสำเร็จกันและกัน”มู่วี่สิงพูดเบาๆ

เวินจิ้งพยักหน้าอย่างหนัก แม้ว่าจะมีหลายพันคนจะปิดกั้นพวกเขาไม่ให้อยู่ด้วยกัน เธอก็จะไม่กลัว

จับมือของมู่วี่สิง ก็จับทุกอย่างของเธอไว้

การประชุมที่เป่ยเฉิงจะมีเวลาสามวัน สองคงไปที่โรงแรมเช็คอิน ผู้คนที่มาร่วมงานครั้งนี้ด้วยกันส่วนใหญ่ก็พักอยู่ในโรงแรมเดียวกัน

เมื่อสองคนเดินเข้าลิฟต์ โจวหย่านก็ทำเรื่องการเช็คอินเสร็จและเข้ามาพอดี

มู่ชจองห้องเพรสซิเดนท์สวีทที่ชั้นบนสุด แต่โจวหย่านในชั้น 28ก็ถึงแล้ว

ก่อนที่จะออกไป เธอมองมู่วี่สิง”วี่สิง เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันและคุยรายละเอียดของการประชุมโปรโมตของหลายวันต่อได้ไหมคะ”

สายตาของโจวหย่านมองมู่วี่สิงมาตลอด ราวกับว่าเวินจิ้งไม่ได้อยู่ที่นั่นเลย

“ฉันคิดว่าคุณโจวคงได้รับรายละเอียดทั้งหมดจากอีเมลแล้วสักอีก”ใบหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา

โจวหย่าน กัดปาก ไม่ขยับตัว มองมู่วี่สิงอยู่ มันยากเหลือเกินที่จะหนีสายตาไปทางอื่น

“ฉันรู้แล้วค่ะ”

ประตูลิฟต์ปิดไปอีกครั้ง เวินจิ้งมองหลังของโจวหย่าน ใบหน้าที่ลุ่มลึก

“ฉันจำได้ว่าในตารางงาน เธอเป็นเลขาของคุณ”

ตำแหน่งของโจวหย่านจู่ๆก็ถูกจัดเรียงในตารางงานครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจจัดให้

“อืม ฉันไม่ต้องการเลขา”

ถึงแม้ว่ามู่วี่สิงจะพูดแบบนี้ แต่วันรุ่งขึ้นเป็นวันแรกของการประชุมประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าตรีโจวหย่านเตรียมตัวพร้อมมาก มาเคาะประตูห้องของมู่วี่สิงแต่เช้า

เวินจิ้งแค่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยF ช่วยงานที่มู่วี่สิงสั่งให้ แต่โจวหย่านเป็นคนที่ทำงานกับมู่วี่สิงงโดยตรง ข้อมูลสำคัญก็ส่งต่อให้เธอ แล้วเธอจะส่งต่อให้มู่วี่สิงอีกครั้ง

เวินจิ้งเดินมาเปิดประตู เมื่อเห็นโจวหย่าน ใบหน้าของเธอเย็นชา

“กรุณารอสักครู่ค่ะ”

เมื่อพูดเสร็จ ก็จะปิดประตูอีกครั้ง แต่โจวหย่านก้านประตูไว้เร็วกว่า

“ฉันเข้าไปรอดีกว่า”พูดเสร็จ มือใช้แรงเบาๆก็ผลักเวินจิ้งออกไปแล้ว

มู่วี่สิงนั่งอยู่บนโซฟา หน้าตาหล่อเหมือนเดิม เมื่อเห็นโจวหย่าน ปากบางๆของเขาก็มีรอยยิ้มอย่างประชดขึ้น”เลขาโจวทำหน้าที่ดีมากจริงๆ”

น้ำเสียงของเขา ถ้าฟังดีๆก็รู้ว่ามีความไม่พอใจมาก

แต่โจวหย่านทำเป็นไม่ได้ยินและส่งขั้นตอนของการประชุมวันนี้ไปให้

วีนนี้มู่วี่สิงเป็นแค่ผู้นำเสนอ จากนั้นหัวหน้าแผนกการวิจัยและพัฒนาจะปราศรัยไปหมด

“วี่สิง ฉันเอาอาหารเช้ามาให้คุณ ฉันกลัวว่าเดี๋ยวจะไม่มีเวลากินแล้ว คุณรีบกินอะไรมาก่อนนะ”โจวหย่านมองมู่วี่สิงด้วยความกังวล

แต่มู่วี่สิงก็ทำท่าเฉยๆ รับเอกสารไปก็จับมือเวินจิ้งไว้ สองคนกำลังจะลงไปกินอาหารเช้า

เขาพูดอย่างเย็นชาว่า”โจวหย่าน จำฐานะของคุณให้ดีๆ คุณไม่ใช่เลขาในชีวิตส่วนตัวของฉัน แต่เป็นแค่เลขาด้านงาน ถ้าพรุ่งนี้คุณกล้ามาที่ห้องของฉันอีก ฉันจะย้ายโรงแรมให้คุณ”

คำพูดของเขา ไม่ให้โอกาสใดๆเลย

ใบหน้าของโจวหย่านซีดไปทันที อยากจะตามไปด้วย แต่เมื่อเห็นหลังของทั้งสองคนมันเหมาะสมกันดี เธอก็ลังเลแล้ว

กำหมัดอย่างแน่น เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วลงไปสถานที่การประชุม

ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนการประชุมโปรโมตจะเริ่ม เวินจิ้งอ่านหนังสือไป กินอาหารเช้าไป พรุ่งนี้เธอจะไปต้องขึ้นเวทีปราศรัยแล้ว ถึงขณะนี้แล้ว เธอก็รู้สึกกดดันสักที

แต่มู่วี่สิวใจเย็นเหมือนเดิม กอดเธอไว้ เขาหยิบหนังสือของเธอออกไป”พรุ่งนี้คุณดูต้นฉบับปราศรัยได้”

“ไม่เอา”เวินจิ้งปฏิเสธทันที

ดูต้นฉบับทำการปราศรัย.. มันน่าอายนะ

“งานนี้ไม่ได้เคร่งขรึมมาก ทำตัวสบายๆ”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

เมื่อเวินจิ้งรู้สึกตื่นเต้นจะนอนไม่หลับ เมื่อคืนเธอก็ไม่ได้นอนหลับอย่างดี ตอนนี้เธอใต้ตาดำมาก

เขาสงสารเธอมาก

“งั้นก็ต้องเตรียมพร้อม จะไม่ทำให้มหาวิทยาลัยFต้องอับอายเด็ดขาด วันนี้ฉันจะต้องท่องให้ได้”เวินจิ้งกล่าวอย่างมั่นใจ

มู่วี่สิงยิ้มและโอบหลังหัวของเธอด้วยความรัก กำลังจะจูบเธอ แต่ถูกเสียงฝีเท้าขัดจังหวะไป

ส้งวี่และมู่ซือซือกำลังเดินมาทางนี้ กำลังจะเรียก”พี่ชาย” เมื่อเห็นภาพนี้ ก็หยุดเดินทันที

เวินจิ้งซ่อนหัวของเธอไว้ในอ้อมแขนของมู่วี่สิงอย่างเขินอาย…

เมื่อเห็นสองแยกจากกัน ส้งวี่และมู่ซือซือถึงนั่งลง

ตอนนี้ส้งวี่เป็นประธานของบริษัทมู่ซือกรุ๊ป มันไม่แปลกใจเลยที่เขามา

มู่ซือซือเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จพอดี ก็เลยติดส้งวี่มาด้วย

“พวกเรามาถึงเช้าเกินไปหรือเปล่า”มู่ซือซือมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เช้า น้องมาทำไมหรอ”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“สอบเสร็จก็ไม่มีอะไรแล้ว ทำไม พี่ไม่อนุญาตให้ฉันออกจากบ้านหรอไง”มู่ซือซือทำหน้าตึง

เธอรู้อยู่แล้วว่า มู่วี่สิงเป็นห่วงคุณปู่

ในเมื่อเธอไม่อยู่บ้าน ก็ไม่มีญาติสักคนอยู่เคียงข้างคุณปู่เลย

“พี่จะห้ามคุณได้เหรอ”มู่วี่สิงส่ายหัวแบบเอือมระอา

“ฮิฮิ”มู่ซือซือยิ้ม

ตอนนี้สอบเสร็จแล้ว อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาก หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ไม่ได้ไปยุ่งส้งวี่ มู่วี่สิงและเขาต้องเตรียมการประชุมแล้ว

วันนี้เวินจิ้งไม่มีอะไรต้องทำ แต่ก็ต้องอยู่ในสถานที่การประชุมโปรโมต มู่ซือซือก็อยู่ข้างๆเธอ

เวินจิ้งเข็นรถเข็นและพาเธอไปห้องประชุมและนั่งลง

จากระยะไกล โจวหย่านวิ่งมาที่ข้างๆมู่วี่สิงทันใดที่เห็นเขาเดินเข้ามา

“ทำไมผู้หญิงคนนั้นก็มาด้วย คุณไม่หึงเหรอ”มู่ซือซือก็เห็นอยู่แล้วและถามอย่างกะทันหัน

“พวกเขาแค่มีความสัมพันธ์ด้านงานเอง”เวินจิ้งพูดเบา ๆ

“ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกับพี่ชายฉัน ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าพี่ชายฉันจริงใจกับความรักมาก แต่จับผู้ชายไว้แน่นๆจะดีกว่านะ”มู่ซือซือขมวดคิ้ว

เธอรู้ฝีมือของโจวหย่านอย่างดี ในเมื่อทำให้คุณปู่ยอมรับเธอได้ คงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่นอน

“ขอบคุณคุณมู่สำหรับการเตือนนะ”เวินจิงยิ้ม

ถึงแม้ว่าตอนนี้ทัศนคติที่มู่ซือซือมีต่อเวินจิ้งดีขึ้นเยอะแล้ว แต่สองคนก็ไม่ได้ถือว่าสนิท เรื่องคุยก็ค่อยๆไปที่หลิงเหยา เพื่อนของทั้งสอนคน

“เมื่อก่อนเหยาเหยาเคยชอบพี่ชายฉัน ฉันคิดเสมอว่า เธอจะแต่งงานกับพี่ชายฉัน”มู่ซือซือพูดอย่างเสียงต่ำ

ตั้งแต่เด็กจนโต หลิงเหยาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ถ้าเธอจะได้แต่งงานกับพี่ชายสุดเคารพของเธอ มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในสายตาของเธอ

เป็นเพียงว่า พี่ชายไม่เคยมีความรู้สึกต่อหลิงเหยาเลย

ตอนหลังหลิงเหยาสูญเสียความทรงจำไป เธอคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องที่ดี คนที่ตัวเองชอบไม่ชอบเธอ มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายจริงๆ เธอไม่อยากให้หลิงเหยาต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป

แต่ไม่คิดว่าเธอฟื้นความทรงจำแล้ว

ตอนนี้ มีผู้หญิงอีกคนอยู่เคียงข้างพี่ชายแล้ว

“ตอนนี้เธอกลับประเทศ Cก็ดี เธอจะได้พบกับผู้ชายที่ชอบเธอจริงๆ”มู่ซือซือถอนหายใจ

แต่เวินจิ้งเงียบ หลิงเหยาเป็นคนที่ยอมแพ้ง่ายๆที่ไหนล่ะ ยกเว้นมู่วี่สิง ใครก็ไม่ได้

ทุกครั้งที่นึกถึงหลิงเหยา เวินจิ้งก็จะรู้สึกอึดอัดทุกที

“คุณจะไม่โกรธเหยาเหยาใช่ไหม”มู่ซือซือถามอย่างกะทันหัน

เห็นแต่ว่าเวินจิ้งสีหน้าเฉยเย็น ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร

“ฉันเหมือนไม่ใจกว้างขนาดนั้น”เวินจิ้งยิ้มแบบเอือมระอา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท