Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 541

ตอนที่ 541

บทที่ 541 เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นแฟนตัวจริง

เวินจิ้งกอดมู่วี่สิงไว้ “งั้นฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่นะ”

“ยังอ่านหนังสือไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ?” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“ก็อยู่เป็นเพื่อนไปด้วย แล้วอ่านหนังสือไปด้วยไง”

“ตอนนี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง เราไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน” มู่วี่สิงพาเธอออกจากห้องประชุมนั้น

ช่วงบ่าย เวินจิ้งเอาเอกสารมาด้วย และโปรแกรมสัมมนาบ่ายวันนั้นคือการนำเสนอของบุคลากรผู้บุกเบิกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งเวินจิ้งพอรู้ข้อมูลที่เขาจะพูดกันแล้ว ดังนั้นเธอจึงอ่านหนังสือของเธอ

เขานั่งอยู่แถวหลัง ข้างไหล่ของมู่วี่สิงนั้นนั่งสบายมาก จนเธอรู้สึกหนังตาหย่อนขึ้นมา

แต่ว่า เธอพยายามนั่งตัวตรงไว้

มู่วี่สิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองเธอด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง “คุณต้องเตือนฉันนะ ฉันจะหลับที่นี่ไม่ได้!”

“ง่วงก็หลับไปเถอะน่า”

“ไม่ได้ ที่นี่คือสถานที่สัมมนา……”

“เดี๋ยวครึ่งชั่วโมงผมจะปลุกคุณเอง”

น่ายั่วยวนจริง ๆ ……

เวินจิ้งพูดจาพึมพำ แล้วมีท่าทีที่ประนีประนอม แต่การหลับครั้งนี้ เธอตื่นขึ้นมาอีกทีก็กลางคืนแล้ว……

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามู่วี่สิงพาเธอกลับไปโรงแรมตั้งแต่เมื่อไหร่……

เมื่อค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วไม่เห็นมู่วี่สิงอยู่ในห้อง เธอจึงหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู นี่มันสองทุ่มแล้วเหรอ

โทรศัพท์มีข้อความแจ้งเตือนจากมู่วี่สิงข้อความหนึ่ง

“ผมเคลียร์งานที่ห้องประชุมชั้นล่างนะ ถ้าตื่นแล้วลงมาหาผมล่ะ”

เมื่อเวินจิ้งเห็นข้อความนี้แล้วลังเลไปสักพัก คิดว่ามู่วี่สิงกำลังยุ่งกับงานอยู่ เธอจึงไม่อยากไปรบกวนเขา แต่ตอนนี้รู้สึกเริ่มหิวแล้ว จึงคิดว่าจะไปหาอะไรกินก่อน

ในขณะเดียวกัน ห้องประชุมชั้น 28

มู่วี่สิงมองข้อมูลภาษาอังกฤษบนจอคอมนั้น ทันใด ก็ได้ยินเสียงเท้าเดินจากนอกประตูดังขึ้น เขาคิดว่าเป็นส้งวี่ และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง

จนกว่าจะได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูง เขาถึงจะหันไปมอง

โจวหย่านสวมชุดกระโปรงสีขาวเต็มชุด พร้อมด้วยผิวสีขาวที่มีเส้นผมพาดตรงไหล่ไว้ เธอแต่งหน้าแบบครบเครื่องจนดูสวยดั่งภาพวาด

แต่ว่า ในสายตาของชายคนนี้กลับมีแต่ความเย็นชา

“มู่วี่สิง ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากเจอหน้าฉันหรอก แต่ฉันแค่จะมาบอกคุณว่า พรุ่งนี้ฉันจะกลับหนานเฉิงก่อน” โจวหย่านยังคงเดินเข้าไปเรื่อย ๆ

“คุณโจวคุณต้องการอะไร?” น้ำเสียงมู่วี่สิงเย็นชามาก

“ฉัน……ฉันต้องการอะไร คุณรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอ?” ในวินาทีต่อมา มือเธอได้เข้าใกล้เขา เธอตั้งใจจะปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของมู่วี่สิง แต่มือของมู่วี่สิงจับมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว และทันใดนั้น เธอถูกกระชากล้มลงไปนอนบนพื้น

ถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังค่อย ๆ คลานไปที่เท้าของมู่วี่สิง แล้วยกมือขึ้น

มู่วี่สิงยืนขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธ ข้างนอกนั้นมีคนแอบถ่ายรูปอยู่ ซึ่งเขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว

ขาที่เรียวยาวนั้นกำลังจะเดินออกจากประตู โจวหย่านกัดริมฝีปากอย่างไม่เต็มใจ แล้วรีบวิ่งเข้ามากอดมู่วี่สิงไว้จากด้านหลัง

มู่วี่สิงหัวเราะอย่างเย็นชา หลังจากที่ผลักเธอออกไป เขาก็เดินออกจากประตูนั้น

แน่นอนว่า เมื่อเขาเดินออกมาก็ได้เห็นนักข่าวเป็นสิบยืนรออยู่หน้าประตูนั้น เห็นได้ชัดว่าโจวหย่านได้เตรียมการมาแต่แรกแล้ว

แม้เธอจะถูกมู่วี่สิงผลักออก แต่เธอตั้งใจดึงสายเดี่ยวกระโปรงของเธอหลุด และบนคอเธอที่เปิดออกนั้นเต็มไปด้วยรอยดูด

“คุณมู่วี่สิงคะ คุณคบกับคุณโจวตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”

“มีข่าวลือกันว่าคุณมู่วี่สิงหย่ากันก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้คุณกำลังจีบคุณโจวใช่ไหมคะ?”

“ความสัมพันธ์ของคุณมู่กับคุณโจวมั่นคงแบบนี้ มีแพลนจะแต่งงานกันไหมคะ?”

และขณะนั้น โจวหย่านได้พูดออกสื่อ “เรากำลังเตรียมจะหมั้นกันแล้วคะ”

มู่วี่สิงเม้มปากมองไฟกระพริบที่รัวอยู่ตรงหน้า แล้วพูดออกมาเบา ๆ “เรื่องวันนี้ ใครกล้าไปเขียนข่าวกันมั่ว เขาจะเป็นศัตรูของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทันที!”

ทันทีที่เขาพูดออกมา นักข่าวทุกคนตรงหน้าก็ได้แต่ยืนเงียบ

พวกเขาทั้งหมดเพิ่งได้รับข่าวนี้มาเหมือนกัน ซึ่งต่างก็ไม่รู้ความเป็นจริงของข่าวนี้เลย

แต่บางมุมที่ทุกคนได้เห็นเมื่อครู่นี้ มันยังมีความคลุมเครืออยู่เล็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้น รอยดูดบนร่างกายของโจวหย่านนั้นมันชัดเจนเกินไป……

“คุณมู่คะ……คุณช่วยให้คำตอบหน่อยค่ะ ว่าคุณกำลังจะมีข่าวดีกับคุณโจวหย่านใช่ไหมคะ?”

ยังมีผู้สื่อข่าวบางคนที่ไม่กลัวความตายถามขึ้นมาสั้น ๆ

ถึงแม้จะกลัวมู่วี่สิง แต่ไม่ง่ายเลยที่จะได้ทำข่าวนี้ ขอเพียงรายงานตามความเป็นจริงก็คงไม่มีปัญหาอะไร

“พวกคุณหยุดถามได้แล้ว……” น้ำเสียงโจวหย่านค่อนข้างน้อยใจ เธอจงใจยกมือขึ้นแล้วมีแหวนเพชรสวมอยู่ที่นิ้วกลางของเธอ

ซึ่งทำให้ดึงดูดสายตาของนักข่าวทุกคนทันที แล้วแสงแฟลชมากมายก็กระพริบขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่ารู้ตัวอีกทีมู่วี่สิงได้หันกลับไปปิดประตูลงแล้ว ส่วนโจวหย่านถูกทิ้งอยู่นอกประตูนั้น

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่านักข่าว โจวหย่านไม่ได้เกรงกลัวเลย “เรื่องจริงเป็นอย่างไร พวกคุณก็เขียนตามนั้นนะคะ”

ในห้องที่มีกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ลอยอยู่ มู่วี่สิงเรียกเกาเชียนเข้ามา “ส้งวี่ถึงสนามบินแล้วใช่ไหม?”

“ส้งวี่ถึงสนามบินแล้วครับ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ไปจัดการนักข่าวข้างนอกนั้นให้หมดนะ แล้วเช็คดูว่าใครเป็นคนเรียกนักข่าวมา”

“รับทราบครับ”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เวินจิ้งเพิ่งทานอาหารเที่ยงในร้านอาหารของโรงแรมเสร็จ เธอตั้งใจจะห่อกลับไปให้มู่วี่สิง แต่ทันทีที่เธอหยิบมือถือเพื่อจะโทรหาเขา ก็มีข้อความข่าวด่วนปรากฏขึ้นในโทรศัพท์

โจวหย่านลูกสาวสุดสวยของตระกูลโจวเพิ่งออกจากห้องของมู่วี่สิง หลังจากเขาทั้งสองได้มีการเดทอย่างลึกลับเป็นเวลาสามชั่วโมงในห้อง……

เวินจิ้งถึงกับตกใจจนตัวสั่น เมื่อเห็นรูปถ่ายและข้อความทั้งหมดที่พยายามจะบ่งบอกว่าโจวหย่านก็คือแฟนสาวของมู่วี่สิง

และมีสื่อบางสื่อได้เอารูปเก่าของมู่วี่สิงที่ไปกินข้าวพร้อมกับบ้านหลิงออกมาโพสต์ ซึ่งเรื่องนี้มันทำให้ทุกคนต้องคิดว่ามู่วี่สิงนั้น “จับปลาสองมือ”

เมื่อทันทีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต้องดิ่งลงอย่างน่าเหลือเชื่อ

คนส่วนมากจะคิดว่าโจวหย่านนั้นเป็นแฟนสาวตัวจริงของมู่วี่สิง แต่แล้วทำไมเขากลับมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับหลิงเหยากันแน่ นักข่าวพยายามเขียนข่าวอย่างฉะฉาน แต่สำหรับสายตาของเวินจิ้งนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น

รักสามเส้าหรือ?

เธอนั้นแหละคือแฟนตัวจริง

เวินจิ้งในตอนนี้รู้สึกไม่พอใจมาก แต่ที่แย่กว่านั้นคือ โจวหย่านที่เป็นเหมือนกาวเหนียว เดินเข้ามานั่งตรงหน้าเธอด้วยความได้ใจ

สตรอว์เบอร์รีบนคอมันทำให้คนมองแล้วรู้สึก……น่าขยะแขยงมาก

“ทำไมไม่อยู่กับมู่วี่สิงเหรอ?” โจวหย่านถามอย่างจงใจ

ถึงแม้มู่วี่สิงจะไล่เธอออกจากห้องก็ตาม แต่เธอไม่สนใจ เพราะทุกคนทั่วโลกคิดว่าเขาเป็นแฟนกันแล้ว และเรื่องนี้มีเหตุผลเพียงพอที่จะกดดันมู่วี่สิงได้

“คำนี้ควรถามคุณโจวมากกว่านะ?” เวินจิ้งพูดประชดประชัน

“เหอะ” โจวหย่านยิ้มอย่างมีเลศนัย “ฉันจะรู้ได้ไงว่ามู่วี่สิงอยู่ที่ไหน?”

“ถ้างั้น หมายความว่านักข่าวพาดหัวข่าวมั่วละสิ ไม่ทราบว่าคุณโจวเพิ่งลงจากเตียงของผู้ชายคนไหนเหรอ?”

“แล้วเธอว่าล่ะ?” โจวหย่านขมวดคิ้ว นัยน์ตาเต็มไปด้วยเลศนัยอย่างชัดเจน

“ฉันคงไม่รู้ชีวิตส่วนตัวของคุณโจวหรอก” เวินจิ้งขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

ตอนนี้เธอยังสามารถกลั้นอารมณ์ได้อยู่ แต่มันก็ใกล้ถึงขีดสุดแล้ว

“ผู้ชายของฉันคือมู่วี่สิงตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

ในวินาทีถัดมา แก้วน้ำเย็น ๆ ก็สาดลงที่ใบหน้าของโจวหย่าน จนทำให้หน้าเธอเลอะเครื่องสำอางไปหมด

เธอตกตะลึงมาก และเมื่อเธอดึงสติกลับมาได้ก็หันกลับมาทุบโต๊ะแล้วพูดอย่างโมโห “เวินจิ้ง เธอทำอะไร!”

“คุณโจว โปรดอย่าพูดถึงมู่วี่สิง เพราะเขาเป็นผู้ชายของฉัน” เวินจิ้งวางแก้วน้ำลง เธอจบด้วยคำพูดที่เย็นชา แล้วหันหลังเดินจากไป

สำหรับคำอย่างโจวหย่านแล้ว ยิ่งพูดมากยิ่งเปลืองน้ำลาย!

แต่โจวหย่านยอมปล่อยโอกาสที่จะได้เยาะเย้ยเวินจิ้งไปได้อย่างไร เธอจึงรีบวิ่งไปดักหน้าเวินจิ้งไว้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท