บทที่ 537 เสียแรงที่ร้องไห้อย่างนัก
เวินจิ้งรู้สึกถึงความเย็นจากตัวเขาอย่างชัดเจน กัดริมฝีปาก เธอส่ายหัวโดยไม่ลังเล
เธอไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะทำเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เธอต้องไม่คิดแบบนี้แน่นอน
แต่เสียงรอบตัวเธอก็ทำให้เธอสับสนเล็กน้อย
“ฉันเชื่อว่าคุณไม่ได้ทำ”
“คนที่ลงมือกับเจียงฉี คือตระกูลหลิง” มู่วี่สิงจับหัวด้านหลังของเธอ น้ำเสียงอบอุ่น
คำพูดของเขาทำให้หัวใจของเวินจิ้งสั่นเล็กน้อย
“แน่ใจเหรอ”
“ทำไมเจียงฉีถึงคิดว่าฉันเป็นคนทำ” ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่ได้ตอบเวินจิ้ง แต่ถามเธอกลับ
“ตอนนั้นฉันส่งเขาไปโรงพยาบาล คนที่มาหาเรื่องเขาบอกว่าเป็นคนของนายมู่ เจียงฉีรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหลิงเหยาในอดีต เขาจึงเดาว่าเป็นคุณ” เสียงของเวินจิ้งต่ำลงเรื่อย ๆ
เขาและหลิงเหยา เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในหัวใจของเวินจิ้งในตอนนี้
มู่วี่สิงก็ต้องฟังออกอยู่แล้ว จับคางของเวินจิ้งไว้ เธอก็เลยต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ฉันกับหลิงเหยาเหรอ” เขาหรี่ตาลงอย่างเย็นชา
“ค่ะ”
“ฉันไม่เคยมีอะไรกับหลิงเหยาในอดีต ” เขาพูดทีละคำอย่างจริงจัง
เวินจิ้งมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกใจ คว้าเสื้อของเขาและไม่ได้พูดสักคำเลย
มู่วี่สิงจะไม่โกหกเธอ เธอเชื่อเสมอ
“ในวันที่ฉันอายุสิบแปด ฉันไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของหลิงเหยาในฐานะตัวแทนของตระกูลมู่ แต่ถูกครอบครัวหลิงจงใจพาไปที่ห้องน้ำของเธอ หลิงเหยาคิดว่าฉันเห็นร่างเปลือยของเธอและให้ฉันรับผิดชอบเธอ หลังๆฉันทนฟังคุณปู่และซือซือพูดถึงตลอดไม่ไหว ฉันมีแต่สัญญาว่าจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลิงเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อช่วยเหลิงเหยาให้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปด้วยกัน หลังจากนั้นฉันก็ออกจากบ้านตระกูลหลิงเลย ไม่เคยมีอะไรกับหลิงเหยาสักครั้ง”
คำอธิบายของมู่วี่สิง เวินจิ้งฟังเข้าใจแล้ว
นี่เป็นแผนของหลิงเหยาตั้งแต่แรกใช่ไหม
“งั้นคุณเห็นจริงๆเหรอ … ” ใบหน้าของเวินจิ้งเปลี่ยนเป็นซีด
“ไม่ได้เห็น มีไอน้ำเต็มห้องน้ำ ฉันไม่เห็นอะไรเลย” มู่วี่สิงพูดตามตรง
อีกอย่าง เมื่อเขารู้ว่ามันคือห้องน้ำก็ถอยออกมาทันทีเลย
เวินจิ้งมองเขาจนลืมตัว “คุณไม่เคยอยู่กับหลิงเหยาเหรอ”
ในขณะนี้ รอยยิ้มที่มุมปากของเวินจิ้งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่าเธอเสียแรงร้องอย่างหนัก
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าฉันเคยอยู่กับเธอ ฉันจะเล่าให้คุณฟัง ในสายตาของฉัน เรื่องในตอนนั้นไม่เคยมีค่าพอที่จะพูดถึงเลย” มู่วี่สิงกอดเธอแน่นๆ
ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมเวินจิ้งไม่รับโทรศัพท์ของเขา เขาทั้งโกรธและทั้งไม่รู้จะทำยังไง
“แต่หลิงเหยาชอบคุณมาก” เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะพูด
แล้วเธอยังบอกว่า เธอจะจีบมู่วี่สิง
“จิ้งจิ้ง คุณแค่ต้องรู้ว่า ไม่ว่าใครจะชอบฉันก็ตาม แต่ฉันชอบคุณเพียงคนเดียว” มองเธอด้วยดวงตาสีดำ มู่วี่สิงจูบเธออย่างร้อนแรง ทำให้เธอจะหายใจไม่ทันแล้ว
ความโกรธหายไปหมด
เธออยู่หน้าอกของมู่วี่สิง ฟังเสียงเต้นหัวใจของเขา อารมณ์ของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง
แต่เมื่อนึกถึงมิตรภาพระหว่างเธอกับหลิงเหยา คงไม่มีอีกต่อไปแล้ว ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
“ตระกูลหลิงจะพาหลิงเหยากลับประเทศC”
“หลิงเหยาคงไม่ยอมมั้ง” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
ตอนที่หลิงเหยายืนยันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่ ตระกูลหลิงก็ไม่เห็นด้วย แต่หลิงเหยายืนกรานที่จะสอบเข้าด้วยตัวเอง
เธอต้องไม่เต็มใจที่ต้องกลับไปแน่ๆ
“เรื่องของตระกูลหลิง คุณไม่ต้องกังวลแล้ว ได้มั้ย” มู่วี่สิงพูดเบาๆ
“อ่อ ก็ได้ แต่เจียงฉี…คุณส่งคนไปปกป้องเขาได้ไหม” เวินจิ้งพูดอย่างประหม่า
เธอไม่อยากให้เจียงฉีต้องสงสัยมู่วี่สิง
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของมู่วี่สิงก็เย็นลง และออร่าในร่างกายของเขาก็น่ากลัวเบาๆ
“คุณเป็นห่วงเขามากเหรอ”
“ใช่ … ไม่ใช่” เวินจิ้งส่ายหัว
แค่รู้สึกว่าเจียงฉีน่าสงสาร
สายตาของเธอบริสุทธิ์และจริงจัง อารมณ์ของมู่วี่สิงค่อยอ่อนโยนบ้าง
“ฉันจะให้ตำรวจรับมือเรื่องนี้ และเขาจะได้รับการปกป้องจากตำรวจ พอใจยัง” มู่วี่สิงโทรออกทันที
เวินจิ้งค่อยยิ้มออกมา “จุ๊บๆ”
“ฉันต้องการการปฏิบัติจริงๆ” พูดเสร็จ เขาก็จะพาเวินจิ้งเข้าไปในรถ
เวินจิ้งรีบคว้ามือ “คืนนี้ฉันจะพักที่ตระกูลหลิน …”
“อืม งั้นฉันจะค้างที่นี่กับคุณด้วย”
พูดเสร็จ มู่วี่สิงก็จับมือเวินจิ้งเดินเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ
เวินจิ้งรู้สึกอาย มองรองเท้าแตะที่ใส่บนเท้าของตัวเอง มันน่าตลกจริงๆ …
แต่ในวินาทีต่อมา เหมือนรู้ถึงความลำบากใจของเวินจิ้ง มู่วี่สิงก็อุ้มเธอขึ้นโดยไม่สนใจคนรับใช้ในบ้าน และพาเธอตรงกลับไปที่ห้อง
ในเวลานี้ ที่ตระกูลหลิง
หลิงเหยาได้รับสายหนึ่ง
“อะไรนะ ตำรวจจะรับคดีของเจียงฉีได้ยังไง พวกเขาจะตรวจสอบถึงฉันหรือเปล่า” เสียงของหลิงเหยากังวลเบาๆ
“คุณหนู คุณสบายใจได้เลย ตำรวจจะไม่ตรวจสอบถึงคุณแน่นอนครับ”
“พวกคุณทำงานดีๆนะ ช่วงนี้เงียบๆไปก่อน” หลิงเหยาสั่งว่า
เจียงฉีจะไม่มีอำนาจอะไรแบบนี้หรอก เว้นแต่ว่ามีใครช่วยเขา
เวินจิ้งเหรอ
ถ้าเป็นเธอ คนที่ช่วยทำ คงเป็นมู่วี่สิงแน่
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความเกลียดชังของหลิงเหยาก็ยิ่งมากขึ้น โยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างโกรธๆ
วันรุ่งขึ้น มู่วี่สิงและเวินจิ้งทานอาหารเช้ากับหลินเหวยด้วยกัน และค่อยกลับไปที่การ์เด้นมูเจียวาน
พรุ่งนี้สองคนจะออกเดินทางแล้ว เมืองแรกก็คือเมืองเป่ยเฉิง แต่ทั้งสองคนเพิ่งได้รับรายชื่อชุดล่าสุดของคนร่วมงาน เพิ่มชื่อของโจวหย่านด้วย
ใบหน้าของมู่วี่สิงไม่มีการแสดงออกใดๆ โจวเซินให้เธออยู่ข้างๆเขา คงมีเป้าหมายอะไรแน่นอน เขาอยากรู้ว่าเขาอยากทำอะไร
ตระกูลโจว ได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่เนื่องจากการตัดสินผิดพลาดในการเสนอราคาครั้งล่าสุด โจวหย่านขโมยแผนการประมูลของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปจากห้องทำงานในครั้งก่อน เขาตั้งใจปล่อยออกมาเพื่อให้เข้าใจผิด
แต่ไม่คิดว่าตระกูลโจวจะตกอยู่ในแผนที่เขาทำให้จริงๆด้วย
แต่ก็พิสูจน์ได้เลยว่า ตระกูลโจวกำลังกำแข่งกับบริษัทมู่ซือกรุ๊ปอยู่
แต่เหตุผลคืออะไร
“คุณโจวไม่ถอนใจจากคุณจริงๆเน๊อะ ” เวินจิ้งพูดเบาๆ
“ฉันจะไม่ลงมือกับเธอในชั่วคราว ” มู่วี่สิงมองเวินจิ้ง
“อืม ฉันคิดว่ายังไงคุณก็ไม่หลงรักเธออยู่แล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างมั่นใจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มในดวงตาของมู่วี่สิงก็มากขึ้น เขากอดเวินจิ้งและจูบเธออย่างไม่หยุด ทำให้เธอทั้งเขินและทั้งอาย
ทั้งสองเล่นกันอยู่การ์เด้นมู่เจียวานสักพัก แล้วค่อยเข้าเรื่องงาน
มู่วี่สิงไม่ต้องเตรียมอะไรมาก ความทรงจำของเขายอดเยี่ยมมาตลอด อ่านแล้วจำได้ทันทีเลย
แต่สำหรับเวินจิ้ง … มันยากมาก
มองผู้ชายที่ดูสบายๆด้วยความอิจฉา นี่คือความแตกต่างระหว่างคนเรา
ในตอนเย็น มู่วี่สิงทำอาหารด้วยตัวเอง เวินจิ้งมองท่าทีเขาที่กำลังยุ่งอยู่อย่างมีความสุข ในเวลานี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เจียงฉีโทรมา
เธอเดินไปที่หน้าต่างและรับสาย “เจียงฉี”
“เวินจิ้ง วันนี้ฉันแจ้งความสำเร็จแล้ว คุณช่วยฉันใช่ไหม” เจียงฉีคิดอยู่นานมาก หลิงเหยาคงไม่สนใจเรื่องของเขาอีกต่อไปแล้ว และรู้ว่าเขาถูกตีมาตลอดด้วย มีแต่เวินจิ้งคนเดียวล่ะ
“มู่วี่สิงช่วยคุณค่ะ ” เวินจิ้งบอกเขา
“เขาเหรอ เขาเป็นคนที่สั่งคน … ”
คำพูดของเจียงฉีถูกเวินจิ้งขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “เรื่องนี้ไม่มีเกี่ยวข้องกับมู่วี่สิง กรุณาอย่าสงสัยเขาอีกต่อไป ฉันเชื่อในตัวของมู่วี่สิงเสมอ”
เจียงฉีไม่สามารถโต้กับคำพูดของเวินจิ้งได้