Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 540

ตอนที่ 540

บทที่ 540 พยายามเต็มที่แล้ว

มู่ซือซือมองเธอ ลองคิดว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเธอเอง ก็คงไม่สามารถใจกว้างได้หรอก

“ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับหลิงเหยา คงไม่ดีขึ้นได้อีกแล้ว”นี่คือสิ่งที่เวินจิ้งเสียใจที่สุด

ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของพวกเธอเคยดีมากเลย

ในเวลานี้ ในห้องทำงานหลังเวที ส้งวี่เดินมาทางมู่วี่สิงอย่างรีบร้อน”เนื้อหาของPPTถูกเปลี่ยนไปแล้ว”

ส้งวี่เพิ่งพบเจอในเมื่อกี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่เพราะมู่วี่สิงสั่งให้เขาต้องระวางอย่างมาก เขาจึงกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง

ตอนนี้เนื้อหาถูกเปลี่ยนไป และไฟล์ที่มู่วี่สิงจะปราศรัยก็ถูกลบไปด้วย

และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ ตอนนี้คอมพิวเตอร์ที่อยู่หลังเวทีถูกล็อคอยู่ คงถูกโปรแกรมเมอร์แฮ็ก และจะแสดงเฉพาะเนื้อหาที่ถูกเปลี่ยนไปแล้วเท่านั้น

วิธีที่แก้ปัญหาในตอนนี้ ก็มีแต่เลื่อนการประชุมโปรโมตไป แต่ตอนนี้ผู้เข้าร่วมก็เกือบมาถึงนี้หมดแล้ว

“ให้โปรแกรมเมอร์เข้ามาแก้ไขก่อน”มู่วี่สิงไม่ได้ใจร้อนเลย นั่งอยู่ข้างๆอย่างชิว”ให้ฉันดูเนื้อหาที่หลังจากถูกเปลี่ยนหน่อย”

ส้งวี่หน้าบึ้งตึง แต่ส่ายหัว”มันเป็นเรื่องอดีตของซือซือ เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับฉีเซิน”

ถ้าพูดแบบนี้ มู่วี่สิงก็เข้าใจ

มองไปที่ส้งวี่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เรื่องเคยเกิดขึ้นกับมู่ซือซือ มันเป็นการกระทบที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับตระกูลมู่

ถึงแม้ว่ามู่ซือซือจะเป็นคนที่ถูกทำร้าย แต่ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา มู่ซือซือต้องทนไม่ไหวแน่นอน

โชคดีที่เขาพบล่วงหน้า

ใบหน้าของมู่วี่สิงมืดมนมาก ดูเวลาไป”ฉันต้องเริ่มการประชุมโปรโมตภายในหนึ่งชั่วโมง”

“ได้ครับ”ส้งวี่ตอบ

คำสั่งของมู่วี่สิง ไม่สามารถขัดได้เสมอไป

ในสถานที่การประชุม เวินจิ้งเห็นแขกมีความไม่พอใจเบาๆแล้ว เวลาเริ่มประชุมโปรโมตผ่านครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เริ่มเลย

“พี่ชายไม่เคยไม่ตรงเวลาแบบนี้เลย”มู่ซือซือพูดอย่างเป็นห่วง

ใบหน้าของเวินจิ้งซีดไป ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวเลยจะไปหลังเวที ตอนแรกอยากพามู่ซือซือไปด้วย แต่เธอโบกมือว่า”คุณไปดูพี่ชายก็พอ”

เวินจิ้งพยักหน้าและเดินไปอย่างรวดเร็ว

ในทางเดินที่เงียบสงบ ถึงแม้ว่าโจวหย่านเสียงเบามาก แต่เวินจิ้งก็ได้ยินคำพูดที่ไม่ต่อเนื่องของเธออย่างชัดเจน

“เปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ถูกค้นพบ … ฉันพยายามเต็มที่แล้ว… ”

เวินจิ้งไม่ได้ซ่อนตัว เมื่อโจวหย่านวางสายเห็นเวินจิ้ง ใบหน้าของเธอซีดไปทันที

“คุณมานี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”โจวหย่านจ้องมองเธออย่างโกรธ

“คุณทำอะไรกับการประชุมประชาสัมพันธ์” เวินจิ้งถามอย่างเย็นชา

“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่”โจวหย่านหันตัวออกไปเลย

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ห้ามเธอไม่ไหว เธอเดินไปที่หลังเวทีอย่างรวดเร็ว ม่วี่สิงยืนอยู่หน้าหน้าต่าง หลังยาวมาก

“เกิดอะไรขึ้น”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

เมื่อได้ยินแบบนี้ มู่วี่สิงก็หันมากอดเวินจิ้งไว้แน่น

แรงของเขา แน่นจนเหมือนบีบเธอเข้าไปในไขกระดูก

ในขณะนี้ เวินจิ้งได้รู้สึกถึงความกลัวของเขาอย่างชัดเจน

เรื่องอะไรที่จะทำให้มู่วี่สิงกลัวขนาดนี้

“เนื้อหาของการฉายภาพเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ตอนนี้ใกล้จะแก้ไขได้แล้ว”มู่วี่สิงพูดเบาๆ

มีทีมเทคนิคของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปในเป่ยเฉิง ซึ่งมีประสิทธิภาพมาก

“เป็นฝีมือของโจวหย่านเหรอ”เวินจิ้งโพล่งพูดออกไป

“โจวหย่าน”มู่วี่สิงหรี่ตา “คุณรู้อะไรบ้าง”

“เมื่อกี้ฉันบังเอิญเจอเธอคุยโทรศัพท์อยู่ ประมาณว่าเนื้อหาของการประชุมโปรโมตถูกเปลี่ยนแล้ว… ”

“ฉันรู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว”มู่วี่สิงยิ้มเบาๆ แต่ดวงตาของเขาลึกล้ำมาก

เธอรู้ว่าที่มู่วี่สิงไม่ลงมือกับโจวหย่าน ต้องมีเหตุผลแน่นอน

แต่ถ้ามันแตะต้องจุดห้ามของเขา ก็จะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

แค่ว่าโจวหย่านชอบมู่วี่สิงมากขนาดนี้ ยังใส่ร้ายเขาแบบนี้ได้ยังไงล่ะ

คิดไม่ออกว่าทำไม เวินจิ้งก็เลยไม่ได้คิดต่อเลย เธอเชื่อว่ามู่วี่สิงต้องรับมือได้แน่นอน

เนื้อหาของโปรเจคเตอร์ก็กลับมาเป็นปกติสักที มู่วี่สิงงตัดเนื้อหาในการปราศรัยของเขาให้สั่นลง เวินจิ้งกลับไปนั่งที่เดิม แค่พบว่ามู่ซือซือไม่อยู่ที่นั่น

เธอไม่มีเบอร์ของเธอ เลยติดต่อเธอไม่ได้ มีแต่รอให้มู่วี่สองปราศรัยเสร็จก่อน

สามชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก เวินจิ้งก็มึนเมาในการปราศรัย ผู้ชายที่อยู่บนเวทีเคร่งขรึมและเย็นชาในตลอดเวลา ตอบทุกคำถามอย่างจริงจัง โดยไม่มีความหมดความอดทนเลย

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นศาสตราจารย์ที่เก่งกาจและมีอำนาจ แต่ทัศนคติของเขาอ่อนโยนมากเมื่อเผชิญหน้ากับทุกคน

ดวงตาของเวินจิ้งเต็มไปด้วยความหลงใหล จนถึงมู่วี่สิงเสร็จการปราศรัย เธอถึงฟื้นสติขึ้นมา

โจวหย่านรีบขึ้นเวทีเอาขวดน้ำมาให้เขา แต่มู่วี่สิงไม่ได้รับ พูดตามตรงว่า”โจวหย่าน กลับไปหนานเฉิง”

“คุณพูดอะไรนะ”โจวหย่านตัวแข็งไป

“ในการเดินทางครั้งนี้ ฉันลบชื่อของคุณออกเรียบร้อยแล้ว”

“ทำไม……”

ในวินาทีต่อมา มู่วี่สิงยังไม่ทันพูดส้งวี่ก็เดินมาแล้ว

สีหน้าของเขาผิดปกติเบาๆ

“คุณมู่ ให้โจวหย่านมาทำงานให้ฉันเถอะ เลขาของฉันลางานพอดี กำลังขาดคนหนึ่งเลย”

มู่วี่สิงมองส้งวี่ด้วยสายตาที่มีความหมาย เมื่อเห็นเขาแน่ใจมาก ถึงค่อยๆพยักหน้า

เห็นได้ชัดเลยว่าใบหน้าของโจวหย่านมีความไม่เต็มใจนัก เธอมานี่ก็เพื่ออยู่เคียงข้างมู่วี่สิง

แต่ตอนนี้……

“คุณโจว คุณไม่มีทางเลือก”มองออกความลังเลของโจวหย่าน น้ำเสียงของส้งวี่ก็เย็นชามาก

มู่วี่สิงเดินลงจากเวที เนื่องจากมีนักข่าวจำนวนมากที่จะสัมภาษณ์ เวินจิ้งถูกกลุ่มคนอยู่ตรงกลางปิดกั้นไว้

เข้าใกล้มู่วี่สิงไม่ได้

เธอมีแต่เข้าไปรอที่หลังเวที เมื่อเห็นส้งวี่ เธอก็ถามว่า”เมื่อกี้ซือซืออยู่กับฉันตลอด แต่เธอไม่เคยปรากฏตัว

เลยตั้งแต่การประชุมโปรโมตเริ่มถึงตอนนี้ ส้งวี่ คุณโทรหาซือซือหน่อย”

ตอนแรกเวินจิ้งไม่กังวลมาก แต่นี่ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แม้วเธอจะไปห้องน้ำก็ควรจะกลับมาแล้ว

แต่ไม่เห็นมู่ซือซือเลย

ส้งวี่หน้าตึก”เธอบอกว่าเหนื่อยเกินไปจะพักผ่อนในโรงแรม ไม่ต้องเป็นห่วง”

“เป็นอย่างนี้เอง”เวินจิ้งถอนหายใจอย่างโล่งอก

แต่นึกถึงได้ว่า ตอนที่มู่ซือซืออยู่เคียงข้างเธอ ก็ดูมีพลังมากนะ ทำไมจู่ๆ …

“เธอไม่สบายเหรอ”

“อืม เดี๋ยวฉันจะกลับดูเธอ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”ส้งวี่ปลอบเธอ

แต่เวินจิ้งรู้สึกว่าแปลกๆเล็กน้อย

มู่วี่สิงกลับมาสักที เธอยังไม่ทันได้คุยกับมู่วี่สิงเลย ส้งวี่ก็มาคุยเรื่องงานแล้ว จนถึงครึ่งชั่วโมงผ่านไป ส้งวี่และมู่วี่สิงถึงออกมาจากห้องประชุม

“บ่ายนี้คุณไม่คิดจะกลับโรงแรมเหรอ”เวินจิ้งมองเขา

ตอนบ่ายมู่วี่สิงไม่มีงาน แต่จะไปทานอาหารค่ำในตอนเย็น

“ส้งวี่จะกลับไปหนานเฉิง ฉันต้องอยู่สถานที่จัดประชุดต่อ คุณกลับไปนอนพักสักพักนะ”มู่วี่สิงพูดอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งขมวดคิ้ว มีความไม่พอใจเบาๆ

เธอไม่อยากห่างจากมู่วี่สิง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท