บทที่534 นิสัยที่ปากไม่ตรงกับใจ
วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งมาโรงพยาบาลแต่เช้า แต่ไม่คิดว่าโจวเซินจะมาเร็วกว่าเธออีก
เขานั่งอยู่หลังโต๊ะ ใส่แว่นตาขอบทองที่ดูสุภาพ อ่านหนังสือในมืออย่างตั้งใจ
“รุ่นพี่โจว”เวินจิ้งมองเขา
“อืม ทำไมวันนี้มาเร็วขนาดนี้”โจวเซินดูเวลา
โดยปกติเขาจะมาก่อนเวลาเริ่มการรักษาสองชั่วโมง แต่เวินจิ้งปกติจะมาตรงเวลา
เวินจิ้งเม้มปาก ทำท่าลังเลที่จะพูดหรือไม่พูด
“มีอะไรก็บอกมา”
“รุ่นพี่โจว มหาวิทยาลัยFและบริษัทมู่ซือกรุ๊ปจะมีโครงการความร่วมมือกันในช่วงเวลาต่อไป ฉันอยากเข้าร่วมด้วยค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของโจวเซินก็เย็นช้าลง เขาเข้าใจเวินจิ้งหมายถึงอะไรแล้ว
“มู่วี่สิงให้คุณไปเหรอ”โจวเซินพูดอย่างเย็นชา
เวินจิ้งไม่ได้พูด
ก็ถือว่าใช่
“ฉันไม่สามารถห้ามคุณได้ แต่คุณจะไม่ได้รับความเป็นธรรม”โจวเซินพูดอย่างมีความหมายไม่ชัดเจน
“รุ่นพี่โจว ขอบคุณมากสำหรับการสอนของคุณในช่วงเวลานี้ค่ะ”เวินจิ้งโค้งคำนับอย่างสุภาพ
เธอรู้ว่าปกติโจวเซินจะสอนเธออย่างจริงจังและตามหน้าที่ ถ้าสองคนไม่มีความพัวพันพวกนั้นในอดีต โจวเซินจะเป็นรุ่นพี่ที่ดีมากมาตลอดในสายตาของเธอ
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ไม่ควรเป็นแบบนี้
เธอไม่อยากสัมผัสกับเขามากไปอีก
“เวินจิ้ง มู่วี่สิงดีขนาดนี้เหรอ”โจวเซินมองเธออย่างจริงจัง
“ค่ะ เขาดีที่สุดในสายตาของฉัน” เวินจิ้งพูดโดยไม่ลังเล
เก็บของของตัวเองเสร็จ เวินจิ้งก็ออกจากห้องให้คำปรึกษาเลย
ตอนแรกยังคิดว่าโจวเซินหาเรื่อง แต่ไปได้ราบรื่นอย่างคิดไม่ถึง
เพียงแค่คำพูดของเขาฟังดูแปลกๆ แต่เธอคิดไม่เข้าใจ ก็เลยไม่คิดต่อ
ในห้องให้คำปรึกษา ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่โจวหย่านก็มาถึงห้องทำงานของโจวเซินแล้ว
“พี่ชาย มีอะไรเหรอคะ “ทุกครั้งที่โจวหย่านเจอโจวเซินก็รู้สึกกลัวเบาๆ
“ให้คุณไปทำงานกับมู่วี่สิงเป็นยังไง”โจวเซินหันหน้าจอแล็ปท็อปมา
โจวหย่านมองตารางงานด้านบน อึ้งไปสักพัก
เวินจิ้งจะอยู่ในนั้นด้วย เธอ … จะไปได้หรอ
มู่วี่สิงจะรำคาญเธอมั้ง
“พี่ชาย ฉันไปได้จริงๆเหรอ”
“ได้”โจวเซินหรี่ตาอย่างเย็นชา
“แค่คุณต้องทำอะไรบางอย่างให้พี่”
หัวใจของโจวหย่านเต้นแรงแป๊บ มีการต่อต้านเบาๆ
“คุณอยากไป ก็ต้องช่วยพี่ ไม่งั้นคุณออกไปได้แล้ว”โจวเซินปิดคอมพิวเตอร์และไม่พูดอะไรต่อ
โจวหย่านกัดปาก โอกาสทุกครั้งที่สามารถอยู่กับมู่วี่สิง เธอไม่อยากปล่อย
“ได้ค่ะ”
ในช่วงบ่าย เวินจิ้งกลับไปโรงเรียน หลังจากคุยกับศาสตราจารย์ส้งเชนเรียบร้อย เธอและเพื่อนร่วมชั้นอีกคนจะเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยFเข้าร่วมการประชุมประชาสัมพันธ์ข้ามชาที่ร่วมมือกับบริษัทมู่ซือกรุ๊ปในหนึ่งเดือนต่อไป
เอาข้อมูลเยอะมากกลับถึงหอพัก เธอต้องจำข้อมูลพวกนี้ให้แน่นภายในสามวันนี้
ตอนกลางคืน เมื่อง่วงนอนจะหลับ มู่วี่สิงก็โทรมาพอดี
“ง่วงจังเลย”เวินจิ้งหาวและนอนอยู่บนโต๊ะ
คิดถึงมู่วี่สิงจังเลย
“วันนี้จัดการทุกเรื่องเสร็จแล้วหรอ”
“ใช่ค่ะ ได้รับข้อมูลเยอะมากจากศาสตราจารย์ส้ง กำลังรับโทษอยู่เลย”
การท่องหนังสือมันทรมานจริงๆสำหรับคนที่ความทรงจำไม่ค่อยดีอย่างเวินจิ้ง
“ตอนนี้มีอะไรอยากทำหรือเปล่า “มู่วี่สิงถามอย่างอ่อนโยน
“ฉันอยากกินไก่ทอด อยากเจอคุณ “เวินจิ้งพูดอย่างไม่พอใจ
“อืม เปิดประตู”
“อะไรนะ”เวินจิ้งลุกขึ้นยืนทันที เสียงแม่เหล็กของมู่วี่สิงก็เหมือนเสียงระเบิดในหูของเธอ
ด้วยความงง เธอมองไปที่ประตู หรือว่ามู่วี่สิงมาแล้วหรอ
เธอมองกระจกโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้แต่งหน้า ผมก็ไม่ได้สระ แถมยังใส่ชุดนอนลายการ์ตูนด้วย…
ในวินาทีต่อไป เธอรีบวางโทรศัพท์และแต่งตัวในห้องน้ำสักพัก ค่อยออกมาเปิดประตู
เป็นมู่วี่สิงจริงๆด้วย ถือไก่ทอดถังหนึ่งในมือ และมีรอยยิ้มเบาๆบนใบหน้าที่หล่อเหลา
“คุณ … คุณมาได้ยังไง”เวินจิ้งรีบหนีทางให้เขาทันที
“คิดถึงคุณ”
“คนบ้า”เวินจิ้งรับถังไก่ในมือไว้ กลิ่นอันหอมกรุ่นก็เต็มห้องเลย น่ากินเหลือเกิน
ใบหน้าของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความปรนเปรอ มองเวินจิ้งกินไก่ทอด มีน้ำมันติดอยู่ในปากของเธอ เขารู้สึกหัวใจกระปรี้กระเปร่า
วินาทีต่อมา เขาจับแก้มของเธอและจูบลงอย่างลึกซึ้ง
เนื้อไก่ที่กัดในปากของเวินจิ้งเข้าปากของมู่วี่สิงหมด…
“อืม อร่อยดี”
“มู่วี่สิง คุณเปลี่ยนไป”เวินจิ้งมองเขาอย่างจริงจัง
เมื่อก่อนมู่วี่สิงไม่เคยกินสิ่งเหล่านี้ที่เป็น”อาหารขยะ”ในสายตาของเขาเลย และตอนนี้ก็แบ่งปันของอร่อยแบบนี้กับเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เปลี่ยนแปลงเพื่อคุณ ไม่ดีเหรอ”
จริงๆแล้วตอนนี้เขาก็ไม่ได้ชอบไก่ทอดหรอก แต่สิ่งที่เขาชอบคือกินของเดียวกันกับเวินจิ้ง
“มันดีสิ …ดี.. “เพิ่งเปิดปากพูด ปากก็ถูกมู่วี่สิงปิดไว้แล้ว..
กดเธออยู่ในอ้อมแขน และทำเธออย่างอ่อนโยน
ท่าทำของเขามีความอดทนมาก และทำให้ร่างกายของเวินจิ้งอ่อนลงอย่างรอดเร็ว
“มู่วี่สิง ไก่ยังกินไม่หมด… “เวินจิ้งมองน่องไก่ตัวใหญ่อยู่
ถึงแม้ว่าเธอก็ทำเรื่องน่าอายกับมู่วี่สิงด้วย
แต่เธอรู้พลังทางกายของมู่วี่สิง เธอคิดว่าเธอต้องกินอิ่มก่อน…
“เดี๋ยวจะให้เวลาคุณพักนะ”
เวินจิ้ง …
เวินจิ้งได้กินน่องไก่ที่เหลือสักที
มองมู่วี่สิงด้วยแววตาที่ไม่พอใจ เขาอาบน้ำออกมาอย่างสดชื่น แต่เวินจิ้งรู้ว่าเขาต้องไม่พอใจแค่นี้แน่
“มู่วี่สิง นี่เป็นหอพักของฉัน ฉันอนุญาตให้คุณอาบน้ำหรอ”เวินจิ้งแกล้งทำหน้าโกรธ
ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าหอพักของมหาวิทยาลัยFเป็นคนละห้องกัน จะเงียบเหงาไปหน่อย แต่ตอนนี้รู้สึกว่าก็ค่อนข้างดี …
“อืม งั้นเดี๋ยวไม่อาบน้ำก่อน”มู่วี่สิงพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ไม่คุยกับคุณแล้ว คุณรีบกลับไปเถอะ นี้ดึกมากแล้ว”เวินจิ้งก้มหัวลงทำความสะอาด
ในวินาทีต่อมา อ้อมแขนของมู่วี่สิงก็กอดเธอจากด้านหลังแล้ว ผลักเธอไปที่กำแพง”อยากให้ฉันไปจริงๆหรอ”
เวินจิ้งมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแล้วกัดปาก
ไม่อยากสิ
“ปรับนิสัยที่ปากไม่ตรงกับใจของคุณด้วยนะ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงเหมือนออกคำสั่ง
“โอ้”เวินจิ้งตอบอย่างเชื่อฟังและเขย่งเท้าจูบริมปากของเขา”ไม่ไปแล้ว งั้นคุณอ่านให้ฉันฟังนะ”
อยู่บนเตียง มู่วี่สิงกำลังนั่งอยู่ เวินจิ้งถูกกอดอยู่ในอ้อมแขน หลับตาเบาๆ
เสียงทุ้มของมู่วี่สิงดังขึ้น”ความเสียหายของระบบประสาท ความเสียหายต่อเซลล์ฮอร์นหน้า พิจารณาโรคเซลล์ประสาทสั่งการ … ”
“มู่วี่สิง เสียงของคุณเพราะมาก คุณร้องเพลงให้ฉันฟังเถอะ ฉันยังไม่เคยได้ยินคุณร้องเพลงเลย”จู่ๆเวินจิ้งก็ลืมตาขึ้นและมองเขาด้วยความหวัง
เสียงของมู่วี่สิงค่อนข้างต่ำน่าดึงดูด ถ้าร้องเพลงเบส ก็น่าจะเพราะดีมั้ง
“ฉันร้องเพลงเสียงก็จะแผ๊นนะ”มู่วี่สิงพูดตามตรง
เขาเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิดเป็น แต่ยกเว้นการร้องเพลง
“จริงเหรอ คุณร้องไห้ฉันฟังหน่อยสิว่าใช่หรือเปล่า” เวินจิ้งคว้าคอเสื้อของเขาและอ้อนอย่างอ่อนโยน
มือของเวินจิ้งขาวนุ่ม ติดกับหน้าอกของเขา และไฟนั้นก็ไหม้ขึ้นมาอย่างรอดเร็ว
ความร้อนในดวงตาของมู่วี่สิงแผ่กระจายมากยิ่งขึ้น มองเธออย่างจริงจัง เขาขมวดคิ้ว”จิ้งจิ้ง ฉันร้อนมาก”