Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 558

ตอนที่ 558

บทที่ 558 ไม่ต้องการความหวังดีที่เสแสร้ง

ร่างมู่วี่สิงที่สูงยาวได้ชิดเข้ามาใกล้ โดยรอบๆเผยให้เห็นถึงบรรยากาศอันน่ากลัว

จับข้อมือหลิงเหยาไว้แน่น แรงจับแน่นราวกับกระดูกจะถูกบดขยี้ให้แหลก

เจ็บจนหลิงเหยาทนไม่ได้น้ำตาถึงกับไหลออกมา “วี่สิง…..”

สายตาของมู่วี่สิงไม่ได้มองเธอแม้แต่น้อย แต่จ้องไปที่เวินจิ้งอย่างสุดซึ้ง

เขาผลักหลิงเหยาออกอย่างแรง แล้วเดินไปยืนอยู่หน้าเวินจิ้ง เธอมองแววตาของเขาอย่างเย็นชา

“จิ้งจิ้ง” เขาเรียกเธอ

เมื่อเวินจิ้งได้สติคืน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

เผชิญหน้ากับมู่วี่สิงในเวลานี้ ทำให้เธอกลับรู้สึกสนใจในคำพูดของหลิงเหยาเมื่อสักครู่

หลิงเหยาวางยาเขา

แต่ตอนนี้เขาก็ดูปกติทุกอย่าง

หรือว่า…..ยาได้หมดฤทธิ์แล้ว

หรือหลิงเหยาเป็นคนช่วยเขา

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ใบหน้าของเธอก็ซีดลงอย่างฉับพลัน

“คิดอะไรอยู่” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ยกฝ่ามือขึ้นเพื่อจะจับเข้าที่แก้มน้อยๆของเวินจิ้ง

เมื่อสักครู่นี้เป็นเกาเชียนที่เป็นคนบอกให้เขาทราบเรื่องที่เวินจิ้งมาถึงแล้ว เพียงแต่ว่าทำไมเธอเพิ่งมาถึงโรงแรม ก็อยากจะกลับไปอีก

มู่วี่สิงค่อยๆหรี่ตาลง แล้วชำเลืองมองไปที่หลิงเหยาทีหนึ่ง

เธอมองทั้งสองคนด้วยดวงตาแดงก่ำ เผชิญหน้ามู่วี่สิงที่เย็นชาเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดหวังอย่างมาก

วินาทีถัดมาเธอได้หันหลังให้กับพวกเขาสองคนด้วยความอึดอัด ไม่อยากเห็นภาพที่รักกันปานจะกลืนของเขาทั้งสองคน

เวินจิ้งส่ายหัว เงยหน้าขึ้น ใจจริงคืออยากหัวเราะออกมา แต่ไม่รู้ว่าทำไมชั่วโมงนี้ถึงอยากร้องไห้

น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อยู่ได้ไหลออกมา เสียงรถเบรกกะทันหันได้ดังกระแทกเข้ามาในหู มู่วี่สิงและเวินจิ้งได้หันไปมองพร้อมกัน ภาพที่เห็นตรงหน้าคือหลิงเหยาล้มลง

เลือดอาบไปทั้งตัว

เวินจิ้งเบิกตากว้าง แทบจะวิ่งเข้าไปในทันที รถได้เบรกลงอย่างสนิท แต่อาการหลิงเหยานั้นบาดเจ็บสาหัส

คนขับรถได้โซซัดโซเซเข้ามา พูดขึ้นด้วยความตกใจว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม…..ผู้หญิงบ้าคนนี้ต่างหากที่วิ่งออกมาอย่างกะทันหัน…..”

หลิงเหยาได้สลบไปแล้ว ทั้งตัวมีแต่เลือด เวินจิ้งรีบโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินและโทรแจ้งตำรวจ มู่วี่สิงพยุงเธอไว้ แล้วมือที่ใหญ่กุมไว้แน่นกับมือน้อยๆของเธอที่กำลังสั่นเทา

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้…..”

ในตอนนี้เวินจิ้งไม่สามารถยืนเองได้ ได้แต่ยืนพิงมู่วี่สิงไว้เท่านั้น

สีหน้าตระหนกของชายข้างกาย ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้น

“อย่ามอง” ฝ่ามือมู่วี่สิงได้ยกขึ้นบังสายตาของเวินจิ้งไว้

แม้ว่าดวงตาจะถูกบัง แต่ภาพที่หลิงเหยาเลือดอาบไปทั้งตัว ยังคงติดตาติดอยู่ในหัวของเวินจิ้ง

ณ โรงพยาบาล

เวินจิ้งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทางเดินอย่างเย็นยะเยือก หลิงอี้ได้มาถึงแล้ว หลิงเหยาตอนนี้กำลังได้รับการช่วยเหลืออยู่ที่ห้องฉุกเฉิน

เมื่อเห็นมู่วี่สิง หลิงอี้ก็ได้พุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของเขาไว้อย่างแรง สายตาที่จ้องมองพร้อมกับท่าทีที่พร้อมจะปล่อยหมัด มู่วี่สิงได้จับข้อมือของเขาไว้อย่างฉับไว

ชายสองคนที่รูปร่างสูงใหญ่เท่ากันกำลังเผชิญหน้ากัน

“มู่วี่สิง น้องสาวฉันไม่เคยติดค้างอะไรคุณ!” น้ำเสียงหลิงอี้กระวนกระวาย

มู่วี่สิงเม้มปากด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงออกอาการใดๆ

“เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับผม”

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณทิ้งเธอไว้ มีหรือที่เธอจะเป็นแบบนี้!”

“ผมไม่มีหน้าที่ที่ต้องดูแลเธอ” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ความตามใจที่เขามีให้กับหลิงเหยานั้นได้มากมายเกินพอ

ถ้ามากไปกว่านี้ ก็จะดูไม่เหมาะสมแล้ว

“คุณเคยให้คำมั่นสัญญากับแม่ผม! ว่าคุณจะรับผิดชอบต่อหลิงเหยา!” น้ำเสียงหลิงอี้เย็นเยียบ

คำพูดนี้ทำให้เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงุนงง เธอทราบเรื่องที่คุณนายหลิงมีบุญคุณกับมู่วี่สิง แต่บุญคุณนี้ต้องตอบแทนด้วยการให้มู่วี่สิงแต่งงานกับหลิงเหยาหรือ

เธอรู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายเย็นวูบๆ

เธอไม่ต้องการที่จะสูญเสียความรักของตัวเองไปแบบนี้

“รับผิดชอบหรือ หลิงอี้ พูดดีๆสิ” มู่วี่สิงน้ำเสียงขึงขัง

คุณนายหลิงได้ต้องการให้เขาดูแลหลิงเหยาจริงๆ แต่จะให้แต่งงานกับหลิงเหยานั้น ไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนั้นได้

“ถ้าหากน้องสาวผมเป็นอะไรไป ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่!” หลิงอี้ที่อารมณ์โกรธมากในขณะนี้

มู่วี่สิงผลักเขาออกไป แล้วเดินจากไป

เมื่อเดินผ่านเวินจิ้งที่ตกอยู่ในภวังค์

เขาพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืน เวินจิ้งมองดูเขาอย่างมึนงง

“ฉันอยากรอจนกว่าหลิงเหยาออกมาก่อนแล้วค่อยกลับไป” เธอพูด

เธอยังคง…..เป็นห่วงหลิงเหยา

ขอเพียงให้เธอปลอดภัย ก็เพียงพอแล้ว

มู่วี่สิงที่ดวงตาหมองหม่น เม้มริมฝีปาก เผยให้เห็นถึงอารมณ์โกรธ

“พวกเรากลับกันก่อน” น้ำเสียงแกมบังคับ

เวินจิ้งกัดริมฝีปากแล้วส่ายหัวอย่างดื้อดึง

มู่วี่สิงก้มหน้าลงแล้วเดินจากไปโดยที่ไม่แม้แต่จะเหลียวหันกลับมามอง

เวินจิ้งนั่งแล้วหลับตาลง

ที่ข้างนอกโรงพยาบาล มู่วี่สิงยังไม่ได้จากไป เขากำลังนั่งอยู่บนรถ

เวินจิ้งไม่ได้กลับไปด้วย เขาไม่สามารถจะวางใจลงได้

เขารู้ว่าเวินจิ้งกำลังโทษตัวเอง แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลิงเหยา จะโทษใครไม่ได้

หลังจากสูบบุหรี่เขาก็เอนหลังพิงเบาะรถ แล้วสีหน้าก็ค่อยๆเย็นลง

สองชั่วโมงต่อมาไฟสีแดงในห้องฉุกเฉินได้ดับลง

เวินจิ้งได้เงยหน้าขึ้น หลิงอี้ได้เดินเข้าไปก่อนแล้ว

คุณหมอได้เดินออกมา เวินจิ้งได้ยินเสียงของหมอพูดดังขึ้น “คนไข้ตอนนี้ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ว่ายังไม่สามารถฟื้นตื่นได้ในขณะนี้ ขาของเธอได้ถูกชนกระแทกอย่างรุนแรง เกรงว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ยาก

สีหน้าหลิงอี้ถึงกับซีดลง กำหมัดแน่น บนใบหน้าเต็มได้ด้วยความทุกข์โศก

“คุณหมอพูดว่าอะไรนะ น้องสาวผม…..”

“เป็นแค่การวินิจฉัยเบื้องต้น ส่วนเรื่องการฟื้นตัวนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายของคนไข้ พรุ่งนี้ผมจะให้หมอที่เชี่ยวชาญด้านกระดูกโดยเฉพาะมายืนยันอีกครั้ง”

ไม่นานจากนั้นหลิงเหยาก็ถูกย้ายไปที่ห้องผู้ป่วย

เวินจิ้งยืนขึ้น กลับถูกร่างหลิงอี้บังไว้

“เธอกลับไปก่อน” น้ำเสียงที่เย็นชาอย่างยิ่ง

หลิงอี้ไม่เคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน เขามักจะอ่อนโยนทุกครั้งเมื่อเจอหน้าเธอ

แม้ว่าเวลาปกติเขาจะเป็นคนเย็นชาก็ตาม

“ฉัน…..ถ้าหากหลิงเหยาฟื้นขึ้นมา โปรดบอกฉันด้วยนะ” เวินจิ้งเข้าใจอารมณ์ของหลิงอี้ เธอพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ

“เวินจิ้ง ไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งทำดี ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกับมู่วี่สิงเย้าแหย่กระตุ้นอารมณ์เหยาเหยา เธอคงไม่หุนหันพลันแล่นเช่นนี้” หลิงอี้ได้พยายามควบคุมอารมณ์ของเขามากที่สุดแล้ว

แต่อารมณ์โกรธของเขายังคงเผยออกมาให้เห็น

เขากำหมัดแน่น เส้นเลือดหลังมือเด่นชัดขึ้น

เวินจิ้งเงยหน้าอย่างงุนงง ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาตอบโต้กลับไปได้

เรื่องที่เกิดขึ้นหลิงเหยา เกิดจากความดื้อรั้นโต้เถียงของเธอ

แต่ว่าเธอไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้

เธอกัดริมฝีปากอย่างแรงแล้วค่อยๆหันหลังไป

เมื่อเดินออกมาจากโรงพยาบาล ความหนาวเย็นกระทบเข้ามาทำให้เธอถึงกับตัวสั่นสะท้าน

จนกระทั่งมีลมหายใจที่คุ้นเคยได้เข้ามาใกล้ เธอถูกโอบกอดเข้าไปอยู่ในทรวงอกที่คุ้นเคย

เมื่อเงยหน้าขึ้น เห็นถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของมู่วี่สิง

เธอที่อยู่ในอ้อมกอดเขา ได้ดูดซับความอบอุ่นจากเขา

“มู่วี่สิง ฉันได้ทำผิดไปหรือเปล่า” เธอพูดพึมพำ

“มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน “จิ้งจิ้ง เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเธอเลย”

“แต่ว่า…..เป็นเพราะฉัน…..” เวินจิ้งเงยหน้า ดวงตาแดงก่ำ

“เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดเดาได้ อย่าโทษตัวเองเลย ไม่ใช่ความผิดของเธอ เป็นความผิดของผม” มู่วี่สิงพูดอย่างเคร่งขรึม

เวินจิ้งยังคงส่ายหัว

ถ้าหากเธอไม่ทะเลาะกับหลิงเหยา เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น

เป็นเพราะเธอที่ไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง

เมื่อมู่วี่สิงเงยหน้าเธอขึ้น เวินจิ้งได้ผลักเขาออก

เธอขดตัวเองไว้ และอยากอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท