Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 560

ตอนที่ 560

บทที่ 560 เป็นอุบัติเหตุ

“มู่วี่สิง…..” เวินจิ้งพึมพำ แล้วผลักเขาออก

สบตากับมู่วี่สิง แววตาที่โลดแล่นด้วยเปลวไฟ

เขากำลังโกรธ

“เกิดอะไรขึ้น…..” เวินจิ้งเลี่ยงสบสายตา

“อย่าไปเข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นเป็นอันขาด” มู่วี่สิงพูดจบประโยค ก็จูงมือเธอแล้วขึ้นรถไป

เวินจิ้งที่ยังมึนงง เธอก็ไม่ได้ใกล้ชิดชายอื่นแต่อย่างใดนิหน่า…..

หรือว่าจะเป็นหลิงอี้

เวินจิ้งนึกขึ้นได้ว่าเหมือนเมื่อสักครู่เธอจะอิงซบอยู่ที่ไหล่ของเขา…..แต่ว่านั่นเป็นเพียงอุบัติเหตุ

“ฉันไม่ได้ทำสักหน่อย” เธอพึมพำ

“อืม” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วโอบเธอไว้อยู่ในอ้อมกอดด้วยความเอาแต่ใจ

เมื่อสักครู่คนของเขาได้ถ่ายภาพเวินจิ้งจากด้านนอกห้องผู้ป่วย พอดีเข้ากับที่เธอซบอยู่ที่ไหล่ของหลิงอี้

แม้ว่าต่อมาเวิงจิ้งจะผลักเขาออกไปแล้วก็ตาม แต่ว่าภายในใจมู่วี่สิงก็รู้สึกไม่พอใจ

“คุณทราบแล้วหรือ” เวินจิ้งมองสีหน้าที่ตึงเครียดของมู่วี่สิง ความรู้สึกบอกว่าต้องเป็นเพราะหลิงอี้แน่ๆ

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก ไม่มีการตอบใดๆ

“พรุ่งนี้เรากลับเมืองหนานกัน” ตอนที่หันหน้ามา ใบหน้าเธอดูอ่อนโยนลง

“คุณทำงานเสร็จแล้วหรือ” เวินจิ้งถาม

เธอจำได้มู่วี่สิงเคยบอกว่าจะมาทำงานที่นี่หนึ่งสัปดาห์ แต่ตอนนี้เพิ่งผ่านไปสามวันเอง

“ใกล้เสร็จแล้ว” มู่วี่สิงจ้องมองเธอด้วยตาลุกวาว

ความจริงแล้วยังไม่เสร็จ แต่เธออยากจะส่งเวินจิ้งกลับเมืองหนานก่อน

“ได้ค่ะ” เวินจิ้งพยักหน้า

วินาทีถัดมา มู่วี่สิงได้จับคางเธอขึ้น รอยจูบของเธอก็ได้ประทับลงมาอีกครั้ง

เวินจิ้งได้กอดมู่วี่สิง แล้วซบเข้าไปในอ้อมกอดของเขา มีเพียงอ้อมกอดนี้เท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้

วันรุ่งขึ้น หลังจากที่เวินจิ้งตื่นนอน กลับพบว่าข้างกายเธอนั้นว่างเปล่า

เธอรู้สึกจิตใจเวิ้งว้าง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นข้อความที่มู่วี่สิงฝากไว้ เช้านี้เขามีธุระที่ต้องไปจัดการ แล้วเจอกันที่สนามบินทีเดียวในตอนบ่าย

เวินจิ้งตอบข้อความเสร็จสรรพ มองดูนาฬิกาแล้วตั้งใจจะไปเยี่ยมหลิงเหยาอีกครั้ง

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หลิงอี้ที่กำลังเดินออกมาจากประตู พวกเขาทั้งสองเจอหน้ากันเข้าพอดี

“เวินจิ้ง” เขาเรียกเธอ

เวินจิ้งหยุดชะงัก

“ผมรู้ว่าคุณรู้สึกผิดต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเหยาเหยา ก่อนหน้านั้นอารมณ์ผมร้อนเกินไป ผมรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเลย” ตอนนี้ท่าทีหลิงอี้ดูใจเย็นขึ้น

เขาทราบดีว่าน้องสาวของเขานิสัยเป็นอย่างไร ตั้งแต่เนิ่นๆที่เธอตกหลุมรักมู่วี่สิงอย่างไม่มีเหตุผล จะต้องเป็นมู่วี่สิงเท่านั้นที่เธออยากจะอยู่ด้วย เมื่อได้พบเจอกับมู่วี่สิงทีไร ความสงบใจเย็นแทบจะหายไปหมด

“ฉันแค่เป็นห่วงหลิงเหยา” เวินจิ้งพูดเบาๆ

“อืม คุณหมอบอกว่าเหยาเหยามีสัญญาณที่จะฟื้นขึ้น เธอไม่ต้องเป็นห่วง กลับไปเถอะ” หลิงอี้เขยิบเข้ามาใกล้ขึ้น

เวินจิ้งเม้มปาก ความจริงเธออยากจะเจอหลิงเหยา แต่หลิงอี้ไม่อยากต้องการให้เธอขึ้นไป

เธอไม่ได้เร้าหรือแต่อย่างใด ในเมื่อทราบความคืบหน้าของหลิงเหยาแล้ว เธอก็ไม่ได้เร้าหรือที่อยู่ต่อ

“จะไปไหน ผมไปส่ง” หลิงอี้ถามเธอขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเรียกรถไปเองดีกว่า” เวินจิ้งยิ้ม

เมื่อหันหลังไป เวินจิ้งไม่ทันได้ระวังว่ามีคนเดินผ่านหน้าไป ตอนที่เกือบจะชนเข้านั้น หลิงอี้ได้ดึงเธอมาพยุงไว้

ด้วยแรงดึงทำให้เวินจิ้งเซเข้าไปในอ้อมกอดเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่า” หลิงอี้ถามด้วยความเป็นห่วง

เวินจิ้งได้ผลักเขาออก ส่ายหัว แต่ว่าหลิงอี้ได้จับเธอไว้แน่น

เธอค่อยๆใช้แรงดิ้นเพื่อผลักเขาออกไป

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

“อืม” หลิงอี้ก็สังเกตเห็นตัวเองนั้นดูจะตระหนกเกินไป จึงค่อยๆปล่อยมือ

ในขณะนี้ถนนฝั่งตรงข้ามที่ไม่ไกลไปจากตรงนี้ มีรถยนต์สีดำจอดอยู่ มู่วี่สิงที่ใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูตึงเครียด

“ประธานมู่ เวลาใกล้จะไม่ทันแล้ว” เกาเชียนพูดด้วยน้ำเสียงพะวง

มู่วี่สิงที่หน้าตึงเครียด หันศีรษะมา พูดอย่างเคร่งขรึม “ให้จัดเครื่องบินส่วนตัวทันที”

รถยนต์ถูกควบคุมให้เคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งกลับถึงโรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าเดินทาง เพิ่งเห็นโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสาย หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้มู่วี่สิงได้โทรหาเธอถึงสองครั้ง

เมื่อเธอโทรกลับไป กลับปรากฏว่าโทรไม่ติด

เธอจึงรีบโทรหาหมายเลขโทรศัพท์ของเกาเชียนทันที แต่ก็โทรไม่ติดเช่นกัน

หรือว่าอยู่บนเครื่องบินแล้ว

เวินจิ้งจึงรีบไปที่สนามบิน ทันทีที่ได้ตั๋วเครื่องบิน แล้วผ่านด่านตรวจสอบความปลอดภัย ในที่สุดเธอก็โทรหาหมายเลขของเกาเชียนติด

“คุณเวิน ประธานมู่ตอนนี้อยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์” เกาเชียนรีบอธิบายอย่างร้อนรน

“ฉันทราบแล้ว มู่วี่สิงไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น” เวินจิ้งถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

ต้องเกิดบางอย่างขึ้นแน่ๆ ถึงทำให้มู่วี่สิงต้องรีบกลับไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปขนาดนี้

เกาเชียนไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย “คุณเวิน เป็นเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ผมไม่สะดวกจะบอกคุณในตอนนี้”

“ฉันเข้าใจ อย่างนั้นมู่วี่สิงจะกลับบ้านเมื่อไร” เวินจิ้งถามต่อ

“น่าจะพรุ่งนี้ครับ”

หลังวางสาย เวินจิ้งมองดูนาฬิกาแล้วก็ใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่อง

เวลานี้ หลิงอี้กลับโทรศัพท์เข้ามา เวินจิ้งรับสาย

“เวินจิ้ง เธอสามารถมาที่โรงพยาบาลได้หรือเปล่า เหยาเหยาฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาอยากเจอเธอ”

“ฉันจะต้องกลับเมืองหนานแล้ว” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ตอนนี้อารมณ์ของหลิงเหยาไม่ค่อยดี ผมกลัวว่าเธอจะทำร้ายตัวเอง เวินจิ้งถ้าหากเธอไม่มีธุระเร่งด่วน ผมหวังว่าคุณจะมาที่โรงพยาบาลได้” หลิงอี้พูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน

เวินจิ้งชะงัก เธอก็ไม่ได้มีอะไรเร่งด่วนจริงๆ กลับไปเมืองหนานแล้ว หากมู่วิ่สิงไม่ว่าง เธอก็ไม่จำเป็นต้องฝึกงาน เพียงแค่ต้องทำรายงานของศาสตราจารย์ส้งเท่านั้น

“ได้ อย่างนั้นเดี๋ยวเจอกัน”

“เวินจิ้ง ขอบใจเธอมาก”

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เวินจิ้งก็มาถึงโรงพยาบาล

หลิงอี้สูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง เวินจิ้งได้เดินเข้าไปใกล้ กลิ่นบุหรี่ที่ฉุนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“ฉันเข้าไปก่อนนะ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

หลิงอี้พยักหน้า มองไปด้านหลังเวินจิ้ง คิ้วก็ค่อยๆขมวดขึ้น

หลิงเหยาที่กำลังให้สายน้ำเกลือ เธอที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน หน้ายังคงซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นเวินจิ้ง อารมณ์เธอกลับดูสงบ

“ไม่คิดว่าเธอจะเป็นห่วงเป็นใยฉันด้วย” หลิงเหยาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“หลิงเหยา ในใจฉัน เธอยังคงเป็นเพื่อนของฉันเสมอ” เวินจิ้งหยุดก้าวเดิน

หลิงเหยาที่ยิ้มอย่างอ่อนแรง “แต่ว่าฉันเกลียดเธอ”

“ฉันรู้ แต่ว่าถึงยังไงจะมีเธอหรือไม่มีเธอ ฉันกับมู่วี่สิงก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่ดี”

ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าหลิงเหยากลับยิ่งลุ่มลึก จนถึงขั้นหัวเราะออกมาดังๆ

“เธอดูจะมั่นใจตัวเองเหลือเกิน ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะที่ฉันสูญเสียความจำ ฉันคงแต่งงานกับมู่วี่สิงนานแล้ว คงไม่มีวันถึงตาเธอหรอก”

เวินจิ้งเม้มปาก สบสายตากับแรงอาฆาตของหลิงเหยา เธอกุมฝ่ามือตัวเองเบาๆ

มู่วี่สิงไม่ชอบหลิงเหยา เธอรู้มาตลอด

แต่ว่าดูเหมือนที่มู่วี่สิงแต่งงานกับเธอในตอนแรกนั้น ก็ไม่ได้ชอบเธอเหมือนกัน

เพียงแต่ตอนนั้นเขาต้องการภรรยาเท่านั้น

เมื่อคิดเช่นนั้น เวินจิ้งก็ขมวดคิ้วขึ้น

“ฉันไม่ทราบว่าทำไมมู่วี่สิงถึงเลือกเธอในตอนนั้น แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันไม่มีทางยอมแพ้เธอเป็นอันขาด” หลิงเหยาพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่และจริงจัง

ในวินาทีต่อมาเธอได้เปิดผ้าห่มออก ทำให้เวินจิ้งเห็นขาของเธอแล้วถึงกับตะลึงตาค้าง

“ฉันเป็นอัมพาตไปแล้ว เธอคิดว่ามู่วี่สิงจะรับผิดชอบชีวิตฉันหรือเปล่า” หลิงเหยาที่ยิ้มออกมาด้วยท่าทีขมขื่นที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก

เวินจิ้งถึงกับตกใจ เป็นอัมพาตหรือ

อย่างนั้นก็แสดงว่า หลิงเหยาจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตอย่างนั้นหรือ

แต่ว่าวิชาชีพหมอของเธอกำลังจะเพิ่งเริ่มขึ้น ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสมากสำหรับเธอ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท