Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 566

ตอนที่ 566

บทที่566 เขายอมทุกอย่าง

“หนูไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากโจวเซินหรอกค่ะ” เวินจิ้งเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ดูมีเหตุผล

“แม่รู้แล้วล่ะ แม่เชื่อว่าวี่สิงเองก็จะไม่ยืนดูอย่างนิ่งเฉยด้วยเหมือนกัน”

เมื่อเอ่ยขึ้นถึงมู่วี่สิง สีหน้าที่ตึงเครียดของเวินจิ้งนั้นถึงได้อ่อนโยนขึ้นมาบ้าง

“เด็กนั่นไม่ได้กลับมาพร้อมลูกหรอกหรือ?” หลินเวยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“เขายังมีงานอยู่น่ะค่ะ”

จนกระทั่งถึงช่วงหนึ่งทุ่ม มู่วี่สิงถึงได้มาถึง

เวินจิ้งช่วยแม่จัดการงานบ้าง เธอรู้ความคิดของแม่มาโดยตลอด ที่ยังคงคิดว่าต่อไปเธอจะสามารถเข้ามาที่บริษัทหลินซื่อ แต่เรื่องการต้องมาเผชิญกับวงการธุรกิจเหล่านี้ เธอเคยได้มาจัดการแล้วกลับไม่ได้ราบรื่นเท่าไรนัก

ต่อไปเธอขอเป็นเพียงแค่หมอคนหนึ่ง เหมือนกับมู่วี่สิง ที่รักษาช่วยชีวิตคนดีกว่า

ตอนทานอาหารเย็นเสร็จแล้วนั้น เวินจิ้งและมู่วี่สิงก็มาเดินเล่นกันในสวน

เรื่องที่วันนี้โจวเซินมาที่บ้านหลิน เวินจิ้งบอกเรื่องนี้กับเขาแล้ว

“คุณรู้สึกว่า เหมือนกับตัวเองจะไม่เคยเข้าใจส้งเชนเลยหรือเปล่าครับ” มู่วี่สิงมองความคิดของเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ความคิดของเวินจิ้งนั้นเรียบง่ายบริสุทธิ์มาก นิสัยที่คนอื่นแสดงออกมา เธอก็มักจะรู้สึกว่านั่นคือด้านจริงๆของคนๆนั้น

“อืม” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ตอนนี้ส้งเชนทำงานให้กับโจวเซิน หรือบางทีนี่อาจจะไม่ใช่ความปรารถนาเดิมของเธอ วิธีการในทางธุรกิจของโจวเซิน จะว่าไปแล้วก็เหมือนจะเป็นพวกที่เล่นด้วยเล่ห์ไม่ได้ก็ต้องเอาด้วยกลแบบนั้น” มูวี่สิงเอ่ยขึ้น

“แล้วคุณล่ะคะ?” เวินจิ้งมองผู้ชายข้างๆด้วยดวงตาแวววาว

“ใครไม่ทำผม ผมก็ไม่ทำเขาหรอกครับ”

“ช่วงนี้ตระกูลโจวจ้องแต่จะเล่นงานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แบบนี้จะต้องมีบริษัทนึงที่ต้องปิดตัวลงหรือเปล่าคะ การแข่งขันครั้งนี้ถึงจะหยุดลงได้?”

“ครับ คุณคิดว่าใครจะชนะ?”มู่วี่สิงมองเวินจิ้ง สีหน้าท่าทางของเขานั้นดูเรียบเฉยมาตลอด

“แน่นอนว่าก็ต้องเป็นคุณสิคะ” เวินจิ้งจับแขนของมู่วี่สิงเอาไว้

ในสายตาของเธอ มู่วี่สิงเป็นเหมือนพระเจ้ามาโดยตลอด ไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้

“เชื่อมั่นในตัวผมขนาดนี้เลยหรือครับ?” ริมฝีปากบางของเขายกขึ้น

“เพราะว่าคุณคือคนที่ฉันชอบไงคะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันก็จะเชื่อเพียงแค่คุณ” เวินจิ้งมองมู่วี่สิงด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

มู่วี่สิงลูบใบหน้าเล็กๆของเธอ รอยยิ้มของเวินจิ้งนั้นประทับลงในดวงตาของเขา เขาหลับตาลง แล้วก้มหน้าลงมาเอาหน้าผากชนกับหน้าผากของเธอ แล้วกอดเธอเอาไว้แน่น

แน่นมาก แน่นเสียจนราวกับว่าต้องการจะขยี้ให้เข้าไปในกระดูกอย่างไรอย่างนั้น

“เวินจิ้ง ผมรักคุณนะครับ” เวลานี้ น้ำเสียงของมู่วี่สิงนั้นทุ้มต่ำ และน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก

ราวกับว่ามีเสียงจุดพลุดังขึ้นข้างๆหูของเวินจิ้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ สบตาที่ราวกับมีดวงดาวนับพันนับหมื่นดวงที่เปล่งประกายของเขา ที่สะท้อนตัวเล็กๆของเธออย่างชัดเจน

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากของมู่วี่สิง

เขาบอกว่า เขารักเธอ

น้ำตาที่เอ่อล้นมาที่ขอบตาโดยยังไม่ทันได้ตั้งตัว ไหลหยดลงบนหลังมือ เวินจิ้งถึงได้ดึงสติตัวเองกลับมา

ศีรษะของเธอซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

“คุณพูดจริงใช่ไหมคะ?” เธอเอ่ยถามเสียงเบา

ช่วงเวลาที่คบกับมูวี่สิงนี้ มักจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนราวกับความฝัน เขาเป็นคนเก่งมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ระยะห่างระหว่างเธอกับเขา ราวกับว่าถูกกั้นด้วยอุปสรรคอันนับไม่ถ้วน

แต่เธอก็ยังคงรักเขาไม่ต่างกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ

“แน่นอนสิครับ จิ้งจิ้ง ผมรักคุณนะ”

ตั้งแต่แรก ก็รักคุณมากมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

ใบหน้าเล็กๆที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นเงยหน้าขึ้นมา เวินจิ้งโอบคอของมู่วี่สิง แล้วจูบเขาอย่างลึกซึ้ง

“เกลียดจัง ฉันเอง ฉันเองก็….รักคุณมากนะคะ” เธอพึมพำออกมา

ค่ำคืนนี้ ดวงดาวช่างสว่างไสวยิ่งนัก

……..

สองวันต่อมา เวินจิ้งกลับจากบ้านหลินเพื่อไปยังมหาวิทยาลัย

อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอนั้นได้รับการยืนยันแล้ว เธอผลักประตูห้องเข้าไปด้วยความกังวล

แสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา ร่างของชายคนหนึ่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวสะท้อนแสงอยู่ตรงหน้าเธอ แต่เบื้องหลังนี้ เวินจิ้งรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก

มู่….มู่วี่สิง?

เขามาได้อย่างไรกัน?

ขาของเวินจิ้งหยุดชะงักลง มองมู่วี่สิงที่กำลังหันหน้ามา ริมฝีปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่น่าหลงใหลออกมา

“เวินจิ้งมาแล้ว วันนี้ศาสตราจารย์มู่เข้ามาทำตำแหน่งนี้ ต่อไปเธอก็เรียนรู้กับเขาแล้วกันนะ” เสียงทุ้มๆของอธิการบดีดังขึ้น

เวลานี้เวินจิ้งรู้สึกเพียงแค่ว่าตัวเองหูแว่วไปหรือเปล่า…..

มู่วี่สิง…..คืออาจารย์ที่ปรึกษาระดับปริญญาโทของเธออย่างนั้นหรือ?

เธอจะต้องฝันไปแน่ๆ….

แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า มายืนอยู่ตรงหน้าเธอกลับเหมือนจริงมากเช่นนี้เชียวหรือ

“ทำไมครับ ไม่พอใจผมอย่างนั้นหรือ?” มู่วี่สิงเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ท่าทางตกตะลึงของเวินจิ้ง ช่างน่ารักเสียจริงๆ

เวินจิ้งดึงสติกลับมาอย่างยากลำบากอยู่บ้าง

“ไม่เลยค่ะ”

ออกมาจากห้องของอาจารย์ใหญ่แล้ว เวินจิ้งจึงได้มองมู่วี่สิงอย่างนิ่งๆ

“คุณวางแผนว่าจะเข้ามาทำงานที่มหาวิทยาลัยFนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ?” เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าเธอเพิ่งจะได้มารู้เรื่องตอนนี้….

มู่วี่สิงตั้งใจจะปิดบังเธอเอาไว้แบบนี้เชียวหรือ…..

“ก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งเดือนครับ” มู่วี่สิงมองเธอ

และวินาทีถัดมานั้น ใบหน้าของเวินจิ้งก็แสดงความโมโหไม่พอใจออกมา

“มู่วี่สิง ถ้าอย่างนั้นคุณก็โกหกฉันมาตลอดเลยสิ!” เวินจิ้งจ้องเขา

มู่วี่สิงโอบเธอเข้ามา แต่เวินจิ้งกลับดิ้นเพื่อจะผลักเขาออก

“คุณไม่ได้ถามผม” เขามีอาการเหมือนกับไม่ได้ทำอะไรผิด

“คุณจะบอกฉันเองไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือคะ!” เวินจิ้งเอ่ยขึ้นอย่างโกรธๆ

เธอเป็นกังวลอยู่ตั้งนานว่าจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาคนไหนต้องการเธอบ้างหรือเปล่า ที่แท้มู่วี่สิงตัดสินใจที่จะเข้ารับหน้าที่นี้มาตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งยังมาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเธออีกด้วย

“เรื่องนี้ วันนี้เพิ่งจะได้รับการยืนยันเองครับ แต่คุณก็รู้ว่าผมจะไม่ทำให้คุณรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรอกนะแม้แต่นิดเดียว” มู่วี่สิงจับมือเล็กๆที่อยู่ไม่สุขของเธอเอาไว้

ตั้งแต่ที่เขารู้ถึงสถานการณ์ของเวินจิ้งนั้น เดิมสถานะของเธอที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเธอนี้ หากรับช่วงต่อ ก็จะเป็นเหมือนกับเป็นการรับปัญหาที่แก้ไขยากโดยไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นหลังจากที่ส้งเชนลาออกแล้ว จึงไม่มีใครยอมที่จะมาเป็นคนนำเวินจิ้ง

แต่เขาที่ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งนี้จริงๆแล้วเกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีก และเมื่อส้งเชนลาออกนั้น เขาจึงได้โอกาสนี้มา

เขาเองก็อยากจะทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์ด้วยเช่นกัน

“ฉันจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไรได้ล่ะคะ คุณต่างหากที่ทำให้ฉันตกใจ” เวินจิ้งบ่นพึมพำออกมา

“ใช่หรือครับ? ไม่ดีใจเลยหรือ?” มู่วี่สิงมองเธอ แล้วขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“ไม่เลยต่างหากค่ะ แต่ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยบอกฉันเลย…..”

“ก่อนที่จะได้รับการยืนยันนี้ ผมไม่อยากทำให้คุณต้องผิดหวัง”

“เพียงแค่มีความหวัง ฉันก็ไม่ผิดหวังแล้วค่ะ แต่มู่วี่สิง….คุณจะเป็นคนนำฉันจริงๆหรือคะ?” เวินจิ้งมองมู่วี่สิงอย่างกังวล

เธอรู้สึกก่อนหน้านี้ที่เธอทำงานกับมู่วี่สิง เหมือนกับว่าเธอจะเป็นตัวถ่วงของเขาอย่างไรอย่างนั้น….

ไอคิวของเธอยังคงมีระยะห่างจากผู้ชายคนนี้มากอยู่จริงๆ

“อืม คุณรู้ว่าผมเป็นคนเข้มงวดมากนี่นา นักศึกษาเวินจิ้ง” มูวี่สิงเหลือบมองเธอ

“ทราบแล้วค่ะ ศาสตราจารย์มู่ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” เวินจิ้งยิ้มกว้างออกมา

ผลลัพธ์เช่นนี้ ไม่เลวเลยจริงๆ

“แต่ คุณคงไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งนี้เพื่อฉันหรอกใช่ไหมคะ?” เวินจิ้งเอ่ยถาม

“เวินจิ้ง ตลอดมานี้ ในใจของผมคุณสำคัญที่สุดนะครับ” มู่วี่สิงเอ่ยพูดขึ้นด้วยดวงตาที่แวววาว

เพื่อเธอ เขายอมทุกอย่าง

ยิ่งไปกว่านั้น ก็คือการเข้ามารับตำแหน่งในมหาวิทยาลัยF

เวินจิ้งรู้สึกอึ้ง เธอมองมู่วี่สิง โดยไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา

สิ่งที่มู่วี่สิงทำเพื่อเธอนั้น ช่างมากมายเสียจริงๆ

ขอบตาร้อนผ่าว เธอหันกลับมา ไม่อยากแสดงอารมณ์ของตัวเองออกมา

เพียงแต่มู่วี่สิงจับใบหน้าเล็กๆนั่นของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงทางเดิน เวลานี้เองก็มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยเดินผ่าน

เวินจิ้งจึงรีบผลักมู่วี่สิงออกทันที แล้วเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเอง เธอเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก “ที่นี่มหาวิทยาลัยนะคะ ตอนนี้คุณเป็นศาสตราจารย์ด้วย เราจะต้องรักษาระยะห่างกันไว้นะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท