Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 582

ตอนที่ 582

บทที่ 582 ไม่มีความคิดถึงใดๆ

“เจียงฉี ขอโทษจริงๆ นะ”เวินจิ้งตอบเสียงหนักแน่น“รบกวนคุณบอกกับศาสตราจารย์เฉินให้หน่อยนะ ว่าตอนนี้ฉันไม่มีเวลามากพอ ที่จะทำให้โครงการการวิจัยนี้เสร็จร่วมกับคุณได้”

“เวินจิ้ง”ใบหน้าของเจียงฉีพลันมืดมนลง

“ถ้ามันเป็นเพราะผม ผมก็พร้อมจะออกจากโครงการนี้ แล้วให้นักศึกษาคนอื่นๆ เข้าร่วมแทน!”เจียงฉีพูดอย่างโกรธๆ

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมอง ด้วยความประหลาดใจ นี่มันเป็นไปได้ยังไง

……

โครงการการวิจัยนี้ แต่เดิมเป็นเพราะเจียงฉี ถึงทำให้เกิดความสำเร็จที่โดดเด่นนี้

“เจียงฉี ทั้งๆ ที่คุณรู้……”

“เวินจิ้ง ผมได้บอกกับศาสตราจารย์เรียบร้อยแล้วว่า คุณจะร่วมโครงการนี้ให้เสร็จไปด้วยกัน ตอนนี้คุณจะไปบอกเขาว่า คุณไม่เข้าร่วม นั่นจะทำให้ศาสตราจารย์คิดว่า คุณกำลังหลอกเขาอยู่”

เวินจิ้งชะงัก เผชิญหน้ากับการคุกคามของเจียงฉี เธอโกรธมาก

“เจียงฉี ฉันไม่ได้ตอบตกลงคุณ ทำไมคุณถึงทำตามใจตัวเอง”

“ผมไม่มีทางออก เวินจิ้ง ผมทำเพื่อคุณ”น้ำเสียงของเจียงฉีผ่อนคลายลงเล็กน้อย และมองเข้าไปในดวงตาของเวินจิ้ง

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก แล้วก็พูดอย่างหนักแน่นว่า“ฉันจะบอกกับศาสตราจารย์เอง”

เมื่อพูดจบ เธอก็รีบออกไป เจียงฉีวอกแวก แล้วก็รีบไล่ตามไปทันที

“เวินจิ้ง คุณปฏิเสธผมเหรอ!”เจียงฉีหน้าบึ้ง ร่างสูงเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าเธอ

“ฉันไม่ได้ปฏิเสธคุณ แต่ฉันหวังว่าคุณจะเคารพฉัน”เวินจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ผมเคารพคุณ แต่ว่าคุณเคารพผมก่อนไหม?ถ้าหากว่าคุณไม่เข้าร่วมโครงการนี้,งั้นโครงการนี้ก็จะไม่ดำเนินต่อไป”น้ำเสียงของเจียงฉี เย็นชามากเช่นกัน“นี่เป็นสติปัญญา และกำลังของพวกเรา มาตลอดมากกว่าครึ่งเดือนเลยนะ เวินจิ้ง!”

ในขณะที่พูด ดวงตาของเจียงฉีก็เริ่มเป็นสีแดง

เวินจิ้งรู้ดีว่า เจียงฉีให้ความสำคัญกับโครงการนี้มาก

“เวินจิ้ง,คุณไม่ต้องกังวล,ผมไม่มีความคิดถึงใดๆ ต่อคุณเลย”เจียงฉีพูดอย่างจริงจัง ในทุกๆ คำพูด

“ผมยังไม่ได้บอกกับศาสตราจารย์ ให้คุณตัดสินใจเอง เมื่อกี้ผมก็แค่โมโหมากไปหน่อย ขอโทษด้วย”

เมื่อพูดจบ เจียงฉีก็หมุนตัวออกไป

เวินจิ้งยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น นึกถึงคำพูดของเจียงฉี แล้วก็คิดถึงมู่วี่สิง จนกระทั่งช่วงบ่าย เธอถึงไปที่ห้องทำงานอย่างอืดอาดยืดยาด

หลังจากอธิบายกับศาสตราจารย์ว่า เธอจะเข้าร่วมในหัวข้อวิจัยเรื่องนี้ เวินจิ้งก็บอกว่า เธออาจจะมีเวลาไม่มาก ดังนั้นจึงหวังว่า จะมีการจัดการให้มีนักศึกษาเข้ามาร่วมด้วย และศาสตราจารย์เฉินก็เห็นด้วย

เมื่อออกจากห้องทำงาน เจียงฉีก็มาได้ทันเวลา

“ตัดสินใจแล้วเหรอ?”เจียงฉีถาม

“อืม”

เจียงฉีพยักหน้าช้าๆ เวินจิ้งไม่ได้อยู่ต่อ แล้วรีบกลับไปที่หอพัก

ในเวลาเดียวกัน เป่ยเฉิง

หลังจากการประชุมในช่วงบ่ายจบลง เขากลับไปที่โรงแรม ตอนกลางคืนยังมีงานเลี้ยง แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าร่วม

เขาบอกให้ส้งวี่มาหา“พรุ่งนี้คุณมาพูดสุนทรพจน์ตอนจบแทนผม”

มู่วี่สิงส่งต้นฉบับสองฉบับให้โดยตรง

ส้งวี่ขมวดคิ้ว“ให้ผมขึ้นเวที?ผมไม่ใช่ศาสตราจารย์ ด้านประสาทวิทยาที่มีชื่อเสียงด้วย ทุกคนคงไม่ทำให้ผมขายหน้าหรอกนะ”

เขาเป็นแค่นักธุรกิจคนหนึ่ง ที่ทั้งตัวมีกลิ่นสาบของเงิน และการพูดสุนทรพจน์ให้กับนักวิชาการเหล่านี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่จะออกมา ขาดตกบกพร่องอย่างหลีกหนีไม่ได้แน่นอน

“งั้นคุณลองคิดหาวิธี,พรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่เป่ยเฉิง”มู่วี่สิงกำชับ

“รีบกลับไปหาเวินจิ้งเหรอ?ถ้าเป็นผม ผมจะบอกว่า เธอเป็นนักเรียนของคุณ แล้วก็ให้เธอมาด้วยกันกับคุณ”ส้งวี่จับไปที่คาง

เขาก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ที่จะพามู่ซือซือมาด้วย

ทันทีที่คำพูดนั้นเงียบลง ดวงตาที่เย็นชาของมู่วี่สิง ก็จ้องมองไปที่เขา ส้งวี่ก็เงียบลงทันที

เขาถอนหายใจ แล้วก็ตอบออกไปว่า“ผมคิดว่า ผมไม่เหมาะกับการพูดสุนทรพจน์นี้ และมันก็แปลกๆ ที่การประชุมมีการขยายเวลาอย่างกะทันหัน ซึ่งมันก็ทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง และทำให้แผนการทำงานของผมสะดุด”

เมื่อได้ฟัง มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ความเย็นชาในดวงตาแผ่ซ่าน

“และไม่รู้ว่า บริษัทหลิงซื่อมีเจตนาแอบแฝงอะไร”และประโยคนี้ ทำให้มู่วี่สิงต้องเงยหน้าขึ้นมอง

“บริษัทหลิงซื่อ?”

“ใช่ การจัดการประชุมครั้งนี้ บริษัทหลิงซื่อเป็นคนจัดการ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายด้วย ผมก็ยุ่งจนจะตายอยู่แล้ว ไม่พูดต่อแล้ว คุณคิดเองแล้วกันว่าจะทำยังไง การพูดสุนทรพจน์นี้ ผมไม่สามารถทำได้จริงๆ”ส้งวี่โบกมือไปมา

เขาแค่ไม่ต้องการที่จะพบกับสายตาอันว่างเปล่า ทันทีที่ขึ้นบนเวทีในวันพรุ่งนี้

ทันทีที่ส้งวี่ออกมา ก็เห็นเข้ากับมู่ซือซือ กำลังผลักให้หลิงเหยาเข้ามาหา

เพราะว่าหลิงเหยาก็อยู่ที่เป่ยเฉิง ไม่กี่วันนี้มู่ซือซือไปเป็นเพื่อนเธอ เขาก็ถูกเมินเฉยมาเป็นเวลานานแล้ว

“ซือซือ หลิงเหยา พวกคุณมากันได้ยังไง”

“มู่วี่สิงยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมคะ?ถ้างั้น พวกเราไปร้านอาหารทานข้าวกันก่อน ถ้าดึกกว่านี้ อาจจะสังสรรค์ไม่ทันนะ”มู่ซือซือตอบ

ส้งวี่ไม่มีความคิดเห็นใดๆ แต่เป็นเรื่องยาก สำหรับคนบ้างานอย่างเขาที่จะพูด

“ถ้าคุณชวนมู่วี่สิงได้ ผมก็โอเค”

หลิงเหยาขมวดคิ้ว มองไปที่ประตู ที่ถูกแง้มไว้อยู่ครึ่งหนึ่ง

“ฉันเข้าไปดีกว่า”มู่ซือซือเคาะประตู แล้วเดินเข้าไป

เมื่อมู่วี่สิง เห็นเธอผลักหลิงเหยาให้เข้ามาด้วยกัน ความเย็นชาในดวงตาก็แผ่ซ่านขึ้นมา

“พี่คะ พวกเราไปทานข้าวด้วยกันดีไหมคะ?”

“พี่ยังมีธุระ”

“หา มีธุระ แต่ก็ยังต้องทานข้าวนะคะ?พวกเราไม่ได้ทานข้าวมาด้วยกันนานแล้วนะคะ”มู่ซือซือดึงแขนพี่ชาย พร้อมทั้งทำน้ำเสียงออดอ้อน

แต่ว่า……มู่วี่สิงก็ไม่ไหวติง

“ส้งวี่,คุณพาซือซือไปทานข้าว”

“พี่คะ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”มู่ซือซือกระทืบเท้าของเธอ ด้วยความโกรธ

“ซือซือ พี่ยุ่งมาก”

“ฉันไม่สน ถ้าพี่ไม่ไปทานข้าวกับฉัน ฉันจะไม่ยอมไป”มู่ซือซือนั่งลงอย่างดื้อดึง

“ซือซือ พวกเราไปทานข้ากันเถอะ พี่ชายคุณกล่าวสุนทรพจน์ต่อกันหลายๆ งาน คุณก็อย่าไปกวนเขาเลย พวกเราซื้อกลับมาให้เขาก็ได้”ส้งวี่เดินเข้ามา เพื่อทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี

เขาคิดว่า ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะไม่มีใครได้ทานข้าวเลย

มู่ซือซือเม้มริมฝีปาก ในขณะนี้ หลิงเหยาก็ผลักรถเข็นเข้ามา

“วี่สิง เป็นเพราะฉัน ที่ทำให้คุณไม่อยากไปทานข้าวกับซือซือหรือเปล่าคะ?ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ฉันไปทานคนเดียวก็ได้ค่ะ”หลิงเหยาพูดด้วยความเศร้าสร้อย

“ไปกันเถอะ”มู่วี่สิงตอบรับทันที และวางงานที่อยู่ในมือลงทั้งหมด

มู่ซือซือเลิกคิ้วขึ้นทันที“ฉันรู้ว่าพี่รักฉันมากที่สุด”

“นับว่าเธอมีปัญหามากที่สุด”มู่วี่สิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

ร้านอาหารอยู่ที่ชั้นล่าง แม้ว่าจะมีแค่สี่คน แต่พวกเขาก็เป็นแขกวีไอพี พนักงานเสิร์ฟได้จัดห้องส่วนตัวไว้ให้

หลิงเหยานั่งข้างๆ มู่วี่สิง โดยมีมู่ซือซืออยู่อีกด้านหนึ่ง

เพียงไม่นาน มู่วี่สิงก็ได้รับการแจ้งเตือน สีหน้าของเขามืดมนลงทันที

วินาทีต่อมา เขามองไปทางหลิงเหยา หน้าตาเศร้าสร้อย

หลิงเหยาตกตะลึงกับสายตาของเขา……

“ส้งวี่ มีอะไรเหรอ?”เธอถามอย่างกังวล

“เธอสมัครมาเป็นผู้ช่วยของฉันเหรอ?”มู่วี่สิงหรี่สายตามอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

หลิงเหยาพยักหน้าช้าๆ“คือตอนนี้ ฉันไม่สะดวกที่จะทำงานที่โรงพยาบาล พอดีกับที่มหาวิทยาลัยF มีตำแหน่งงานว่าง ฉันก็เลย……”

“ผมไม่ต้องการผู้ช่วย”มู่วี่สิงตอบอย่างเย็นชา

“พี่คะ เหยาเหยาก็ถูกคัดเลือก โดยการสมัครเข้าไปอย่างถูกต้อง แล้วตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ยืนยันแล้วด้วย”เสียงของมู่ซือซือดังขึ้นข้างหูเขา

“ฉันพูดแล้ว ฉันไม่ต้องการผู้ช่วย”มู่วี่สิงพูดซ้ำ อย่างไม่อดทน

ส้งวี่ที่อยู่ข้างๆ มองฉากนี้ รู้สึกถึงปัญหาได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

“เป็นเพราะฉันถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วย คุณถึงพูดแบบนี้เหรอคะ?”หลิงเหยากัดริมฝีปาก ดวงตาของเธอแดงขึ้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท