Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 580

ตอนที่ 580

บทที่ 580 มองฉันมากกว่านี้

“การเดินทางครั้งนี้ของคุณคงสำคัญมาก … ” เวินจิ้งพึมพำ

“ผมจะกลับสุดสัปดาห์นี้ คุณอยู่มหาลัยรอแล้วกัน “

งั้นก็ได้”

“อาจารย์มู่!”

ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากโทรศัพท์

หลิงเหยาหรอ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินเสียงของมู่วี่สิงพูดว่า ”ไม่ผมโทรหาคุณอีกที”

เมื่อเห็นมู่วี่สิง หลิงเหยาที่นั่งรถเข็นอยู่ก็เลื่อนมาหาเขา

“คุณมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประชุมวิจัยหรือคะ” หลิงเหยามองไปที่มู่วี่สิงด้วยรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ

มู่วี่สิงพยักหน้าอย่างเฉยเมย และรีบออกจากสนามบิน

หลิงเหยาไม่ได้รู้สึกอะไรจากความเฉยเมยของเขา เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของมู่วี่สิง เธอก็รู้สึกหลงใหลเป็นอย่างมาก

หลิงอี้เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่มองแล้วส่ายหน้า ก่อนจะเข็นรถน้องสาวไป

“แน่ใจหรอว่าจะทำ”

“ฉันแน่ใจว่า ฉันรู้ว่าตอนนี้มู่วี่สิงต้องการอะไรมากที่สุด” หลิงเหยาเม้มริมฝีปากของเธอ

สองวันต่อมา

เจียงฉีโทรหาเวินจิ้ง

ตั้งแต่เจียงฉีสารภาพรัก ทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

แต่เธอมักจะพบกันในชั้นเรียนทุกสัปดาห์ เวินจิ้งไม่สามารถเผชิญหน้ากับความอึดอัดนี้ได้ เธอจึงหลบหน้าอยู่เสมอ

เขาส่ง WeChat ให้เธอแทน เมื่อเห็นว่าเธอไม่รับสาย

เขาบอกว่า วิทยานิพนธ์ที่ทั้งคู่ทำร่วมกัน ได้รับการยอมรับและชื่นชมจากศาสตราจารย์เฉิน และพวกเขาต้องไปที่สำนักงานในช่วงบ่าย

เนื่องจากเป็นคำขอของศาสตราจารย์ เวินจิ้งจึงไม่สามารถปฏิเสธได้

เมื่อมาถึงสำนักงานในตอนบ่าย เจียงฉีก็รอเธออยู่ที่ประตูก่อนแล้ว

เวินจิ้งเดินเข้าไป ก่อนที่เจียงฉีจะทันได้พูดอะไรออกมา เมื่อเห็นเวินจิ้งเดินเข้าไป เขาจึงได้แต่กลืนสิ่งที่เขาต้องพูดกลับไป

ศาสตราจารย์เฉิน เป็นที่ปรึกษาของเจียงฉี และชื่นชมเขามาก เวินจิ้งรู้ว่าโครงการวิจัยของพวกเขาได้รับเลือกให้เป็นรางวัลอันดับหนึ่งจากมหาลัย มหาวิทยาลัยจะจัดประชุมสื่อเพื่อให้พวกเขาทำโครงการวิจัยนี้อย่างละเอียด และต่อไปศาสตราจารย์เฉินหวังว่าทั้งคู่จะร่วมกันทำวิจัยนี้ต่อไป

เวินจิ้งอึ้งไป ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงสิ่งที่เธอพูดกับมู่วี่สิงได้

หลังจากทำการบ้านเสร็จแล้ว เธอจะไม่ได้ติดต่อกับเจียงฉีมากนัก

ถ้าทั้งสองทำงานร่วมกันต่อไป มันก็ไม่เหมือนกับเป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง

อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้สำหรับตัวเธอเอง

เจียงฉีตอบตกลงในทันที และสายตาของศาสตราจารย์เฉินก็มองมาที่เวินจิ้ง

“ศาสตราจารย์ ฉันคิดว่าฉันต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้” เวินจิ้งกัดริมฝีปากของเธอ แสดงว่าเธออึดอัดใจ

“มีปัญหาอะไร”

“ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ฉันกลัวว่าจะไม่มีเวลามากนัก” เวินจิ้งตอบกลับด้วยความเหนื่อยล้า

ที่จริงแล้วเธอไม่ใช่ลูกศิษย์ของศาสตราจารย์เฉิน เธอต้องถามมู่วี่สิงอยู่ดี

“ฉันเข้าใจแล้ว เธอสามารถคุยกับศาสตราจารย์มู่ได้ ฉันหวังว่าเธอจะสามารถทำวิจัยนี้ร่วมกับเจียงฉีได้นะ ในส่วนของการประชุมคุณทั้งสองคนก็ไม่สามารถขาดได้”

เวินจิ้งพยักหน้า และเดินออกจากห้องทำงาน โดยไม่ได้คุยกับเจียงฉี เธอเตรียมที่จะกลับไปที่หอ

แต่เจียงฉีเรียกเธอไว้ซะก่อน

“เวินจิ้งอย่าหลบหน้าฉัน” ร่างสูงของเจียงฉียืนอยู่ตรงหน้าเธอ

“ฉันไม่ได้หลบหน้านาย” เวินจิ้งลดสายตาลง คำพูดของเธอดูมีพิรุธ

“ถ้าฉันทำให้เธอลำบากใจ ฉันขอโทษ” เจียงฉีขอโทษอย่างเคร่งขรึม

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และเงยหน้าขึ้นเธอมองเจียงฉีอย่างไม่ใส่ใจ “เจียงฉีพวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันไม่ใช่เหรอ”

“ใช่เราเป็นเพื่อนร่วมชั้น”

“ก็ดีแล้ว” เวินจิ้งเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา

“เราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกัน” เวินจิ้งเน้นย้ำซ้ำ ๆ

“พรุ่งนี้มีประชุมอาจารย์ ไปลองซ้อมพูดก่อนไหม”

“ดี” ทั้งคู่มาถึงห้องเรียน แต่เวินจิ้งเอาแต่มองโทรศัพท์อย่างเหม่อลอย

ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะโทรหามู่วี่สิง

เธอขัดจังหวะเจียงฉี “ฉันจะเอามันกลับไปแล้วท่องเอง”

“เดี๋ยวฉันไปส่ง” เจียงฉีพูดออกไป

“ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้”

เมื่อพูดจบ เวินจิ้งก็เดินไปอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของเจียงฉีโมโหมาก และเขาเดินตามเวินจิ้งไปตลอดทาง จนกระทั่งบอดี้การ์ดทั้งสองขวางเขาไว้

“คุณคือใคร”

“คุณมู่สั่งพวกเราให้มาปกป้องคุณเวินจิ้ง”

เจียงฉียิ้มเยาะเย้ย “ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ”

บอดี้การ์ดไม่สนใจสิ่งที่เจียงฉีพูด เจียงฉีสู้ทั้งสองคนไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าดูเวินจิ้งเดินหายไปจากสายตาของเขา

ขณะนี้ ณ.เมืองเป่ยเฉิง

เนื่องจากเป็นการประชุมวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวงการแพทย์และธุรกิจ ส้งวี่จึงมาในนามของบ้านใหญ่ตระกูลมู่ และมู่ซือซือก็ตามมาด้วย

เมื่อเห็นพี่ชาย เธอจึงเดินเข้าไปหาทันที

“โย่ว! ทำไมเวินจิ้งไม่มาด้วยล่ะ”

“เธอมีธุระ” มู่วี่สิงพูดเสียงเนือยๆ

“จริงเหรอ” มู่ซือซือไม่ได้เจอพี่ชายของเธอมาสักพักแล้ว เพราะเธอกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องเรียน

“จริง”

“โอเค งั้นฉันไปเล่นกับเหยาเหยาก่อน”

เมื่อพูดจบมู่วี่สิงก็เรียกเธอเพื่อพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่พูดอะไร

เธอมาที่นี่ในวันนี้ เธอถึงเพิ่งรู้ว่าขาของหลิงเหยาได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าอุบัติเหตุอะไร และคิดว่ามันคงเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์

“เหยาเหยาหมอบอกว่าจะหายเมื่อไหร่”

หลิงเหยาส่ายหัวอย่างขมขื่น “เหมือนจะได้แค่นี้แล้ว ซือซือตอนนี้ฉันได้ลิ้มรสของความสิ้นหวังแล้ว”

มู่เม้มริมฝีปากของเธอ และไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง

มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะยืนได้อีกครั้ง แต่ละวันที่นั่งอยู่บนรถเข็น มันช่างลำบากมาก

เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของหลิงเหยาในขณะนี้ได้ดีที่สุด

“ถ้าไม่ใช่เพราะความล่าช้าในการส่งตัวไปโรงพยาบาล มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้” หลิงเหยาพูดออกมาอย่างกะทันหัน

ดวงตาของมู่ซือซือเบิกกว้าง หมายความว่าไง

“ทำไมถูกส่งโรงพยาบาลล่าช้า”

“ตอนนั้นฉันทะเลาะกับเวินจิ้ง เธอผลักฉันออกจากถนน ต่อมาคนขับรถโทรขอสายฉุกเฉิน แต่เธอก็ขัดขวาง” หลิงเหยาพูดไปน้ำตาก็ไหลไป “ฉันคิดไม่ถึงเลย ตอนนั้นเราเป็นเพื่อนสนิทกัน เธอยังจะคิดว่าฉันชอบมู่วี่สิงได้”

มู่ซือซือตัวสั่นไปหมดมองไปที่ขาของหลิงเหยา และนึกถึงเวินจิ้งอีกครั้ง

ในตอนแรกเธอไม่ได้รู้สึกดีกับเวินจิ้ง แต่ความรู้สึกก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

หลิงเหยาเป็นเพื่อนที่ดี และเธอก็รู้จักมานานหลายปี แน่นอนว่าเธอต้องเชื่ออยู่แล้ว

“เวินจิ้งจริงเหรอ”

“เหยาเหยามีเพียงพี่ชายของฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ อย่าบอกพี่ชายของเธอนะ ฉันไม่หวังว่าเขาจะมองฉันมากกว่านี้”

มู่ซือซือแข็งตัวทื่อเมื่อเห็นน้ำตาของหลิงเหยา เธอรู้สึกเป็นทุกข์

เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอตั้งแต่เด็ก เธอจะปล่อยให้หลิงเหยาต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ได้อย่างไร

“เหยาเหยา เธอจะไม่เจ็บตัวฟรีแน่ ฉันจะจัดการกับผู้หญิงสารเลวอย่างเวินจิ้งเอง!” หลิงเหยาพูดอย่างโกรธ ๆ

เมื่อพูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืน มันไม่ง่ายเลยที่จะข่มใจและคลายอารมณ์ลง

“ซือซือ อย่าหุนหันพลันแล่น ฉันไม่อยากให้เธอ เป็นเพราะฉัน … ”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ ซือซือก็ได้ขัดจังหวะหลิงเหยา “เหยาเหยาฉันรู้ว่าเธอมีจิตใจที่ดี แต่เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างนี้ฉันทนไม่ได้!”

เมื่อตอนที่เธอมืดมนที่สุด หลิงเหยาก็เป็นคนที่เดินเคียงข้างเธอ

ตอนนี้หลิงเหยามีปัญหา เธอก็จะอยู่เคียงข้างกับเธอด้วย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท