Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 587

ตอนที่ 587

บทที่ 587 เกลียด

เมื่อเวินจิ้งเรียกสติกลับคืนมาได้ มู่วี่สิงก็ได้เดินออกไปไกลแล้ว

ปล่อยให้เธออยู่ตามลำพัง กับนักศึกษาหญิงจำนวนหนึ่ง

“จริงเหรอ?ที่ศาสตราจารย์มู่ยังโสดอยู่?ฉันยังคิดว่า เขาไม่น่าแล้วนะ……”

“ใช่สิ ฉันก็คิดว่าศาสตราจารย์มู่ไม่น่าแล้วนะ เขาทำให้ฉันรู้สึก ว่าเขาเคยเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว”

“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ในเมื่อถ้าเขายังโสดอยู่ พวกเราสาวๆ ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ……”

เวินจิ้ง:……

ถ้าอย่างนั้น เธอได้ถือว่าปล่อยมือผู้ชายของตัวเอง ออกไปแล้วอย่างงั้นเหรอ?

เสียงร้องไห้ดังกึกก้อง

แต่ใครเป็นคนที่ให้มู่วี่สิง มาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอนะ มอบความกล้าให้เธอ ทำให้เธอไม่กล้าเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาในที่สาธารณะ

เธอต้องการที่จะตามมู่วี่สิงไป แต่ก็ไม่ง่ายเลย ที่จะหลบหนีจากนักศึกษาหญิงกลุ่มนี้ออกไปได้ และก็ไม่เห็นร่างของมู่วี่สิงอีกเลย

เขาโกรธจริงๆ เหรอ?

เวินจิ้งรู้สึกสับสนเล็กน้อย และกำลังจะโทรหามู่วี่สิง ไม่ไกลนักเจียงฉีก็เข้ามาขวางทาง แล้วก็เรียกเธอไว้

“จะไปโรงพยาบาลเหรอ?”

เวินจิ้งพยักหน้า

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณนิดหน่อย”เจียงฉีขมวดคิ้ว

เวินจิ้งเงยหน้ามองเจียงฉีอย่างสงสัย

“หัวข้องานวิจัยของพวกเรา เป็นที่สนใจของตระกูลโจว เธอก็รู้ว่าตอนนี้ศาสตราจารย์ส้ง อยู่ที่ตระกูลโจว เธอหวังว่าจะนำพวกเรา ให้สำเร็จโครงการวิจัยนี้ ถ้าหากตระกูลโจวเป็นผู้สนับสนุน พวกเราก็แค่ออกแรงแค่ครึ่งเดียว”

เวินจิ้งประหลาดใจ ตอนนี้เธอถูกจับตามองจากตระกูลโจว

“ถ้าอย่างนั้น ในอนาคตพวกเราก็ต้องไปฝึกงานที่ตระกูลโจวน่ะสิ?”เวินจิ้งถามออกไป

เจียงฉีพยักหน้าช้าๆ“แล้วเรื่องนี้ ศาสตราจารย์เฉินก็ได้ตกลงเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์นี้เพิ่งทำสัญญา อาทิตย์หน้าถึงเริ่มอย่างเป็นทางการ”

เวินจิ้งรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอไม่ต้องการที่จะมีอะไรเกี่ยวข้อง กับตระกูลโจวอีกแล้ว

แต่ว่าตอนนี้ เรื่องราวต่างๆ ได้ถูกตัดสินใจลงไปแล้ว

“เธอใส่ใจไหม?”เจียงฉีเห็นถึงความลังเลจากเวินจิ้ง แล้วขมวดคิ้วถาม

“อืม ใส่ใจ”พูดอย่างไม่จริงใจ

ที่ตระกูลโจว คงจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอกับโจวเซิน

ช่วงนี้โจวเซินมาที่มหาวิทยาลัยน้อยมาก เขาให้ความสำคัญทั้งหมดกับตระกูลโจว ดังนั้นเมื่ออยู่ที่ตระกูลโจว เธอคงจะเจอกับโจวเซินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สินะ?

“สะดวกบอกกับฉันได้ไหม?ฉันขอดูหน่อยว่าจะจัดการยังไง”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว นั่นเป็นสิ่งที่เจียงฉีไม่อาจจัดการได้เอง

“ไม่เป็นไร เนื่องจากทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ฉันก็ต้องไปแหละ”เวินจิ้งพูดเสียงเรียบ

“โอเค รบกวนเธอแล้วล่ะ ผลลัพธ์ทางด้านวิชาการในครั้งนี้ ฉันเชื่อว่ามันจะประสบความสำเร็จ”

สีหน้าของเวินจิ้งยังคงราบเรียบ ถ้าเทียบกับการทำวิชาการนี้ ในความเป็นจริงแล้ว เธอเต็มใจที่จะอยู่โรงพยาบาลมากกว่า แต่ในฐานะนักศึกษาคนหนึ่ง ก็ต้องทำทั้งหมด

ในเรื่องนี้ เวินจิ้งตั้งใจจะไปที่โรงพยาบาลหนานเฉิงในตอนบ่าย เพื่อบอกเรื่องนี้ให้กับมู่วี่สิง แต่โจวหย่านเกิดอาหารชักอีกครั้ง ในช่วงบ่ายมู่วี่สิงก็มีการผ่าตัด และนักประสาทวิชาอีกคนก็ได้ทำการลาไป เวินจิ้งจึงทำได้เพียงแค่ จัดการกับสถานการณ์ของโจวหย่านไปก่อนชั่วคราว

หลังจากจ่ายยาเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปที่วอร์ดของโจวหย่าน

ภาพด้านหลังของพยาบาล กำลังฉีดยาให้กับโจวหย่าน อาการของเธอดีขึ้นเล็กน้อย แต่หลังจากที่เธอกลับมาได้สติ เธอก็จะไม่ยอมกินยา

“คุณหมอมู่ล่ะ?”เมื่อโจวหย่านฟื้นขึ้นมา เธอก็ถามถึงมู่วี่สิงทันที

“คุณหมอมู่กำลังผ่าตัดอยู่”เวินจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ฉันต้องการให้คุณหมอมู่มายืนยันอาการของฉัน ฉันถึงจะยอมทานยา เธอออกไปได้แล้ว”โจวหย่านไม่ต้องการเห็นหน้าเวินจิ้ง

เวินจิ้งรู้นิสัยและอารมณ์ของเธอ และก็ไม่ต้องการที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเธอ จึงสั่งให้พยาบาลคอยดูแลเธออยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นเธอก็ออกไป

การผ่าตัดของมู่วี่สิงกินเวลาอย่างน้อยห้าชั่วโมง ก่อนผ่าตัด เขาก็ไม่ได้บอกเธอ บางทีอาจจะยังไม่โกรธหรอกมั้ง

เวินจิ้งถอนหายใจ แสดงอารมณ์ไม่พอใจเล็กน้อย

ศาสตราจารย์ส้งได้นัดเธอ ให้ออกไปทานอาหารเย็นด้วย เวินจิ้งไม่ได้มีธุระอะไร จึงไปที่นั่น

แต่ไม่คาดคิดว่า มื้ออาหารนี้ โจวเซินก็มาด้วย

เวินจิ้งขมวดคิ้ว โจวเซินก็ได้ขยับมานั่งข้างๆ เธอเรียบร้อยแล้ว

“เวินจิ้ง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”รอยยิ้มของเขา ทำให้เวินจิ้งรู้สึกอึดอัด

“ยินดีด้วยที่คุณใกล้จะเรียนจบแล้ว”คำพูดของเวินจิ้งเหมือนกับ คำพูดของเพื่อนร่วมชั้นอีกสองคนที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้

“หลังจากได้ประกาศนียบัตร ค่อยมายินดีกับผมเป็นการส่วนตัว?”โจวเซินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

เวินจิ้งพยักหน้าอย่างช้าๆ

หลังจากที่ศาสตราจารย์ส้งได้ออกจากมหาวิทยาลัยF ก็ได้ไปเข้าร่วมโครงการกับตระกูลโจว แต่ในสายตาของเวินจิ้ง ยังคงนับถือศาสตราจารย์ส้งให้เป็นอาจารย์ของเธออยู่

กล่าวได้ว่า เธอยังได้รับการยกย่องให้เป็น“ศาสตราจารย์ส้ง”

“พวกเธอถึงเวลาที่ต้องทำโครงการ คงจะไม่เรียกว่าศาสตราจารย์หรอกนะ?”ส้งเชนถาม

“คุณยังคงเป็นศาสตราจารย์อยู่ตลอด เรียกแบบนี้ก็ไม่เห็นจะผิดปกติ”เจียงฉียิ้มตอบ

“พวกเธอก็เหมือนกันกับโจวเซิน ที่เรียกฉันแบบนั้น เรียกฉันว่าพี่เชนก็ได้”ส้งเชนถ่อมตัว และอ่อนโยนมาโดยตลอด

มื้ออาหารนี้ ผ่านไปไวอย่างมีความสุข ยกเว้นเวินจิ้งที่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อต้องนั่งอยู่ข้างๆ กับโจวเซิน

อาหารมื้อค่ำสิ้นสุดลง ส้งเชนมีสามีมารับเธอ เพื่อนร่วมชั้นอีกสองคนก็เรียกให้รถมารับ โจวเซินออกตัวเพื่อขอไปส่งเวินจิ้ง แต่เธอปฏิเสธ

“ยังคงเกลียดผมมากขนาดนี้อีกเหรอ?”โจวเซินเลิกคิ้วขึ้น

“ประธานโจวคิดมากไปแล้วค่ะ”ตอนนี้เวินจิ้งมักจะเรียกเขาว่าประธานโจว เพราะโจวเซินแทบจะไม่ได้เข้าไปมหาวิทยาลัยเลย

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผมไปส่งคุณ เด็กผู้หญิงคนเดียวกลับบ้าน ไม่ปลอดภัย”

“นั่งรถของประธานโจว ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะปลอดภัย”เวินจิ้งพูดออกมา

โจวเซินขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร

“งั้นผมนั่งรถแท็กซี่เป็นเพื่อนคุณ”โจวเซินเป็นสุภาพบุรุษ เรียกรถแท็กซี่ให้เธอ

แต่ก็มีรถสีดำคันหนึ่ง ค่อยๆ หยุดลงข้างหลัง แล้วมู่วี่สิงก็ผลักประตูรถลงมา

เมื่อเห็นโจวเซินอยู่ข้างๆ เวินจิ้ง สีหน้าก็ค่อยๆ ดิ่งลงเล็กน้อย

“ไม่ต้องรบกวนประธานโจวหรอก”มู่วี่สิงตรงมาโอบไหล่ของเวินจิ้ง และพาเธอเข้ามาในรถ

เวินจิ้งและโจวเซินไม่ได้สนิทอะไรกัน“ลาก่อน”ก็ไม่จำเป็นต้องพูด

เมื่อได้กลิ่นยาฆ่าเชื้อจางๆ บนตัวของมู่วี่สิง เขาน่าจะเพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัดได้ไม่นาน

“คุณมาได้ยังไงคะ?”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“มารับคุณกลับบ้าน”

“ฉันต้องกลับมหาวิทยาลัยF”

“พรุ่งนี้ไม่ต้องไปโรงพยาบาล”มู่วี่สิงตอบ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ไม่มีเสียงใดๆ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

มู่วี่สิงก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เขารู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย เมื่อเอนพิงเบาะหลัง เพียงไม่นานเขาก็หลับไป

จนกระทั่ง รถได้มาหยุดลงที่ชั้นล่างของการ์เด้นมูเจียวาน เวินจิ้งถึงได้พบว่า

คุณสมบัติของผู้ชายของเธอนั้น ทั้งหล่อเหลา และสมบูรณ์แบบ เปรียบเสมือนโครงร่างพระหัตถ์ของพระเจ้าได้สร้างขึ้นมา ซึ่งทำให้ผู้คนไม่สามารถหาข้อบกพร่องได้

ริมฝีปากบางจีบขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะยังหลับอยู่ ส่วนโค้งส่วนเว้าที่แนบแน่น

คิ้วเค้มขมวดเล็กน้อย ดูเหมือนกำลังมีอะไรกวนใจอยู่?

โดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วเย็นของเธอก็ลูบวนไปที่คิ้วของเขาเบาๆ แล้วค่อยๆ นวดเบาๆ เพื่อที่จะช่วยคลายคิ้วของเขาออก

แต่ในวินาทีต่อมา มู่วี่สิงก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที

นิ้วเย็นของเวินจิ้ง ยังคงอยู่ที่คิ้วของเขา

ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก แต่แสงนั้นมืดมาก ดังนั้นดวงตาของเวินจิ้ง จึงสบเข้ากับดวงตาดำขลับของเขา

หัวใจเต้นอย่างรุนแรง

เธอต้องการที่จะถอนมือออกมา แต่มู่วี่สิงก็จับไปที่ข้อมือของเธอไว้อย่างรวดเร็ว จากการดึงเพียงเล็กน้อย เวินจิ้งก็หลุดเข้ามาในอ้อมแขนของเขาแล้ว

ลมหายใจของชายที่เธอคุ้นเคย ยังรู้สึกอยู่ที่ปลายจมูกของเธอ เธอต้องการที่จะผลักเขาออกไป

เธอยังไม่ลืมว่า ในช่วงเที่ยงที่มู่วี่สิง ได้ทิ้งเธอไว้ให้อยู่ตัวคนเดียวที่มหาวิทยาลัย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ได้ เธอก็ยังคงโกรธอยู่ แล้วก็ใช้แรงมากกว่าเดิม

“จิ้งจิ้ง”เขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แล้วเรียกเธอด้วยน้ำเสียงทุ้ม

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท