Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 607

ตอนที่ 607

บทที่ 607 พายุกำลังจะมา

จริงๆแล้วหยูจิ่งห้วนคุ้นเคยกับถนนหนทางที่นี่ เขาพาเธอไปร้านอาหารบนถนนพ่าซ่าย

พวกเขานั่งลงข้างหน้าต่าง ในช่วงเวลากลางคืนมาถึง บรรยากาศของเมืองค่อยๆเปลี่ยนไป

เดินเข้ามาก็ปรับตัวเข้าได้ผมยาวสีน้ำตาลน่าหลงใหล ดวงตาสีเทา ส่งเมนูอาหารให้อย่างกระตือรือร้นและทักทายหยูจิ่งห้วนอย่างสนิทสนม

เขายิ้มและอธิบายไปทางเวินจิ้ง“ทุกครั้งที่มากรุงโรมผมจะมากินข้าวที่นี่ ที่นี่เนื้อวัวดีมาก”

อาหารถูกเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว หัวลูกวัวสดและนุ่ม เสิร์ฟพร้อมเหล้าสาเกอ่อน ๆ เนยละลายฉ่ำ ราดด้านบนสุด

กลิ่นหอมต่างๆรวมเข้าด้วยกัน ปลายจมูกสูดกลิ่นเบาๆรู้สึกได้ถึงความอัศจรรย์

เมนูที่สองสลัดผัก โรมอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้และกลิ่นสดชื่นของหน่อไม้ฝรั่ง ถูกราดด้วยซอสพิเศษ กลิ่นกำลังดี

เวินจิ้งกินไปหลายคำ แล้วถามเขา“ต่อไปพวกเราจะไปไหน?”

ยังไงก็รู้แล้วว่าหลินเวยจงใจจัดการให้เธอมาเที่ยวด้วยกันกับหยูจิ่งห้วน งั้นพวกการเดินทางเขาคงรู้อย่างแน่นอน

“ซิซิเลีย ที่นันถึงจะสามารถรู้จักอิตาลีจริงๆ”หยูจิ่งห้วนมองไปนอกหน้าต่าง ยิ้มอยากลึกซึ้ง“เพราะซิซิเลียเป็นเบาะแสของสรรพสิ่งทุกอย่าง นี้เป็นประโยคเกอเทอเคยพูดไว้”

“คุณคงเรียนวรรณกรรมมาใช่ไหม?”เวินจิ้งพูดโพล่งออกมา

“ผิดแล้ว ผมเป็นนักเรียนแพทย์อย่างสมบูรณ์แบบ ”

เวินจิ้งแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าหยูจิ่งห้วนก็เป็นหมอเหรอ?

ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สนใจเรื่องของหยูจิ่งห้วน ดังนั้นก็เลยไม่รู้อาชีพเขา

วันถัดมา ทั้งสองออกไปซิซิเลียด้วยกัน

นั่งอยู่บนรถแท็กซี่ เวินจิ้งมองความเงียบสงัดของเมืองแห่งนี้

เวลานี้ไม่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าว ไม่มีเสียงคน จะพูดให้ถูก ก็คือนอกจากความเงียบสงัดก็ไม่มีอะไรแล้ว

รถขับผ่านขอบแม่น้ำ ถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงก๊าบๆของเป็ด หยูจิ่งห้วนพูดแนะนำ“ที่นี่คือแม่น้ำไทเบอร์”

แม่น้ำสายนี้เงียบสงบและอ่อนโยน ในสภาพอากาศครึ่งสว่างและครึ่งมืดนี้ เหมือนน้ำตกสีมรกต

เขาเกาผมหลังจากที่พูด พูดอย่างจริงจังครึ่งหนึ่ง“คุณรู้สึกไหมมีไกด์หล่อเที่ยวเป็นเพื่อนอย่างผม คุณควรจะยิ้ม ไม่ใช่แสดงท่าทางซบเซา”

เวินจิ้งฝืนยิ้ม“ฉันจะพยายาม”

ปกติเธอชินกับกิริยาสำรวมจนกระทั่งพูดได้ว่าหน้าขรึม ยากที่จะมีเรื่องทำให้เธอดีใจ

“คุณยิ้มแล้วดูดีมาก” หยูจิ่งห้วนมองเวินจิ้งอย่างจริงจัง

……

เครื่องบินลงจอดที่เกาะซิซิเลีย

รถเก๋งวิ่งในเมืองปาแลร์โมวิ่งบนถนนอย่างรวดเร็ว ผ่านตลอดทาง มีอนุสาวรีย์ลักษณะบะร็อคโค่ก้อนหินขนาดใหญ่กองเป็นโบสถ์ที่สวยงาม

หยูจิ่งห้วนใส่เสื้อเชิ๊ตสบายๆ กางเกงขายาวสีควันบุหรี่ ใส่เสื้อแจ็คเก็ตตัวหนาอย่างเป็นธรรมชาติ

ลมพัดเข้าหน้าต่างของรถแท็กซี่ เป่าผมของเวินจิ้งแผ่สยาย

เธอหันไปมองนอกหน้าต่าง มีเส้นผมไม่กี่เส้นตกลงมาบนหน้าเขา ทำให้รู้สึกคัน

เขาในชั่ววูบนั้น อยากจะเอามือไปยึดไว้ กำลังเอามือไปพันรอบเบาๆ

รถก็มุ่งไปตลอดทาง จนกระทั่งหยุดรถข้างถนนสายหลัก

หยูจิ่งห้วนชี้ไปที่ร้านอาหาร “คุณต้องชอบของหวานของร้านนี้”

รสชาติของอาหารซิซิเลียเหมือนเป็นรสชาติเฉพาะของเกาะนี้ ผสมกับคุณสมบัติพิเศษต่างๆ กลับพิเศษทำให้ยากที่จะลืม

ความสดของซอสไข่ปลา อาหารออร์เดิฟอย่างปลาทูน่าและหอยเชลล์เข้าปากทำให้รู้สึกสดใหม่ แถมสุดท้ายแป้งไอศกรีมเย็นชุ่มชื่น รสชาติหวานฉ่ำแพร่กระจายไปทั่วลิ้น

หยูจิ่งห้วนมองเธอกินหมดเต็มๆไปหนึ่งอัน ยิ้มขึ้นมาทันที “ขนมหวานนี้แคลลอรี่ไม่ต่ำนะ”

“ฉันกำลังเพิ่มความอ้วน”เวินจิ้งยิ้ม

น้ำหนักของเธอลดลงเรื่อยๆ ปกติกินไม่น้อย ยากที่จะอารมณ์ดี เธอถึงได้กินเยอะ

หยูจิ่งห้วนสายตามองลึกไปที่เธอ ในที่สุดก็ย้ายแววตา ยืดเอวด้วยความขี้เกียจ“อยากจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแบบนี้ไปตลอด”

เวินจิ้งตกตะลึง ในเวลานี้บรรยากาศทำตัวไม่ถูก

ในสายตาเธอ ตอนนี้เธอกับหยูจิ่งห้วนความสัมพันธ์ก็แค่เพื่อน

แถมไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกก้าว

“คุณจะกลับไปเมื่อไหร่”เวินจิ้งถามอย่างเย็นชา

“ตามที่คุณขอ พรุ่งนี้ผมก็ไปแล้ว”

“อะไรนะ?”เวินจิ้งประหลาดใจ เธอนึกว่าหยูจิ่งห้วนอย่างน้อยคงร่วมเที่ยวกับเธอไปตลอดการเดินทาง ยังไงหลินเวยกับคุณน้าหยูก็จัดการแล้ว

“ดูจากการเดินทางแล้วคุณยังต้องไปดูแสงขั้วโลก น่าเสียดายมากผมไม่สามารถไปเป็นเพื่อนคุณแล้ว ประเทศFยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมต้องไปจัดการ ” หยูจิ่งห้วนไม่ถึงกับผิดหวังมาก “หลังจากกลับไป พวกเรายังมีโอกาสเยอะที่จะได้เจอหน้ากัน”

เวินจิ้งดึงริมฝีปาก ไม่ได้ปฏิเสธ

หยูจิ่งห้วนจากไปนั้น จริงๆแล้วเวินจิ้งรู้สึกจากไม่ลง เวลาที่เขาอยู่ข้างกาย เอาใจใส่ดี อ่อนโยน ดูแลเธอ

แต่ทว่าไม่ได้ไม่ยอมรับ เธอหลงใหลในตัวเขาเพราะเขาและมู่วี่สิงมีลักษณะนิสัยเหมือนกัน

เธอมองหาเงาผู้ชายคนนั้น เป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่สามารถควบคุมได้

ดังนั้นการเดินทางเที่ยวครั้งต่อไป เขาต้องปล่อยการแอบหลงใหลแบบนี้

เวินจิ้งออกเดินทางเที่ยวต่อคนเดียวนั้น เธอให้กำลังใจตัวเองแบบนี้

เธอไม่ได้ไปสถานที่มีชื่อตามที่แผนการเดินทาง แต่ตัวเองค้นพบความสนุกใหม่

ครึ่งหลังของการเดินทาง ท้องของเธอลำบากไปถึงเนเธอร์แลนด์ ไม่เหมือนกับตอนที่เพิ่งมา

ตอนนี้ผิวเธอคล้ำกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย มองไปแล้วกลับรู้สึกเพิ่มความแข็งแรง

เธอชำนาญในการใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยชำนาญในการสื่อสาร และสามารถกินของที่ตัวเองชอบได้โดยไม่ต้องแปล

ทั้งหมดนี้ เหมือนเป็นเพราะหยูจิ่งห้วนนำพาก่อนหน้านี้

เวินจิ้งออกมาจากพิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัมนั้น รับสายในประเทศ คำนวณเวลาดู ทางนั้นคงดึกมากแล้ว เธอกระวนกระวายใจไม่น้อย

คนที่โทรมาคือโจวเซิ่ง น้ำเสียงเขาดูเย็นเฉียบ ถามเวินจิ้งก่อนว่าอยู่ไหน ถึงได้พูด“เสี่ยวจิ้ง แม่เธอนั้นเข้าโรงพยาบาล ถ้าเป็นไปได้ เธอกลับมาเร็วหน่อยก็แล้วกัน”

เวินจิ้งรู้สึกสมองตัวเอง“ตูม”เสียงระเบิด

ตอนนี้เธอเข้าใจหลินเวยมาก ถ้าไม่ใช่อาการที่รุนแรง หลินเวยจะไม่ยอมไปโรงพยาบาล ยิ่งกว่านั้นโจวเซิ่งโทรมาด้วยตัวเอง

เธอถามไม่หยุดว่าป่วยเป็นอะไร รุนแรงหรือไม่รุนแรง โจวเซิ่งบอกแค่ว่าโรคเส้นเลือดในสมอง อาการไม่ได้หนักมาก เธอไม่ต้องเป็นห่วงมาก

“ฉันจะจองตั๋วเครื่องบินกลับเดี๋ยวนี้”

ตั๋วเครื่องบินจองในแอปโทรศัพท์ เป็นไฟลท์พรุ่งนี้ตอนเช้า หลินเวยนอนไม่สบายใจทั้งคืน นอนไม่หลับพลิกไปพลิกมา

ตื่นนอนเช้าถัดมา สภาพอากาศย่ำแย่ทันที ไม่มีพระอาทิตย์ เธอนั่งแท็กซี่ไปสนามบิน แค่ท่าเรือเมืองฟ้าครึ้มตลอด เหมือนพายุกำลังจะมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท