Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 592

ตอนที่ 592

บทที่ 592 เวินจิ้ง เราเลิกกันแล้ว

เจี่ยนอีมองลูกสาว อยากจะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่พูด

“แม่ ทำไมแม่ต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาล เวินโม่ล่ะ?” เวินจิ้งเริ่มสงบลง แต่น้ำเสียงก็ยังคงสั่นอยู่

“เขา….เขาเสียแล้ว” เสียงของเจี่ยนอีเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง

เวินจิ้งสั่นระริกไปทั้งตัว สติหลุดหายไปนาน

“เป็นแบบนี้ได้ยังไง……”

“เขาจะมารับฉันแล้ว จริงๆแล้วฉันก็อยากเคียงข้างเขาจนถึงวินาทีสุดท้าย” น้ำเสียงของเจี่ยนอีปนไปด้วยเสียงสะอื้น ผ่านไปพักใหญ่ อารมณ์ถึงได้ค่อยๆสงบลง

“เวินจิ้ง ที่แม่ไม่ติดต่อแกไป เป็นเพราะว่าเวลาของแม่เหลือไม่มากแล้ว” เจี่ยนอีถอนหายใจออกมา

“ไม่จริง” เวินจิ้งรีบส่ายหน้า

เจี่ยนอีจะต้องไม่เป็นอะไร

แต่ว่า เจี่ยนอีจะเอาเรื่องนี้มาโกหกเธอทำไม

แต่เวินจิ้งก็อยากจะหลอกตัวเอง

“ฉันเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จริงๆแล้วฉันไม่อยากบอกแกหรอก แต่โจวเซินเป็นฝ่ายมาหาฉันก่อน ฉันเลยเปลี่ยนใจ” “แม่ ฉันรักษาแม่ให้หายได้นะ…….” เวินจิ้งพึมพำ เธอหยิบเอาประวัติคนไข้ที่วางอยู่ข้างๆแม้ขึ้นมาอ่านอย่างจริงจัง แต่เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดสุดท้าย น้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาราวเขื่อนแตก

“เด็กโง่ แม่รู้ร่างกายของตัวเองดี ตอนนี้ก็แค่ใช้ชีวิตที่เหลือไปวันๆ แต่แม่ไม่อยากให้แกรู้สึกไม่ดีเลย”

“ฉันไม่เป็นอะไรเลยแม่ ฉันสบายดีมาก” เวินจิ้งพูดเสียงหนักแน่น

แต่เจี่ยนอีไม่เชื่อ “แล้วแกกับมู่วี่สิง เลิกกันแล้วเหรอ?”

เวินจิ้งชะงัก “เรายังรักกันดี”

“ฉันเห็นข่าวช่วงนี้แล้ว เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อโจวหย่านอะไรนั่น แล้วแกจะยอมเป็นเมียน้อยให้เขาหรือไง? แม่ไม่ยอมให้แกได้รับความไม่เป็นธรรมแบบนี้หรอก!” เสียงของเจี่ยนอี่เต็มไปด้วยความโกรธ

“แม่ ฉันไม่ใช่เมียน้อย ฉันรักกับมู่วี่สิงมาตลอด ส่วนข่าวพวกนั้น…..เอ่อ….” ชั่วขณะเธอก็ไม่รู้ว่าควรโต้กลับไปอย่างไรดี

เธอยังติดต่อมู่วี่สิงไม่ได้ แม้ว่าจะเชื่อใจเขา แต่ว่าในเวลานี้ ก็ต้องมีลังเลกันบ้าง

“รูปแบบนั้น ใครๆเขาก็ดูออกว่าสนิทชิดเชื้อกันขนาดไหน เวินจิ้ง แกอย่าหาข้อแก้ตัวแทนเขาหน่อยเลย อีกอย่าง แม่ไม่อยากให้แกรักกับมู่วี่สิงอีกแล้ว” น้ำเสียงของเจี่ยนอีเด็ดขาดมาก

เวินจิ้งชะงักนิ่ง “แม่….ฉัน…..”

“เวินจิ้ง ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นแม่อยู่ ก็ยอมอยู่ที่ประเทศFดีๆซะ อย่ากลับไปที่เมืองหนานเฉิงอีกเลย แล้วก็อย่าติดต่อกับมู่วี่สิงอีก”

“ทำไมล่ะคะ?”

“ลูกแม่ แกรู้เอาไว้แค่ว่า แม่หวังดีกับแกก็พอ” ความเจ็บปวดในดวงตาของเจี่ยนอีค่อยๆแพร่กระจายไปทั่ว แต่ไม่นานเธอก็สามารถเก็บซ่อนมันเอาไว้ได้

คำพูดของเจี่ยนอีทำให้เวินจิ้งสติหลุดไปนาน ไม่ให้กลับไปที่เมืองหนานเฉิงงั้นเหรอ เลิกยุ่งกับมู่วี่สิงงั้นเหรอ

คิดว่าเธอ….ทำได้ไหม?

“โจวเซินพูดอะไรกับแม่ใช่ไหม? แม่อย่าปล่อยให้เขาชักนำสิ ฉันกับมู่วี่สิงรักกันดีมาตลอด” เวินจิ้งพยายามอธิบาย

แต่เธอมองออก ว่าเจี่ยนอีไม่ได้ถูกใครชักจูงทั้งนั้น

“โจวเซินไม่ได้พูดอะไรกับฉันทั้งนั้น เวินจิ้ง แม่อยากให้แกมีความสุข แต่มู่วี่สิงให้ความสุขกับแกไม่ได้หรอก ฉันรู้สึกคิดผิดมาตลอดที่เมื่อก่อนเคยอนุญาตให้พวกแกแต่งงานกัน” ในเวลานี้ ดวงตาของเจี่ยนอีเต็มไปด้วยอารมณ์แค้นเคือง“แม่ เรื่องข่าวในครั้งนี้ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ แม่อย่าพึ่งอคติกับมู่วี่สิงสิ” ผ่านไปพักใหญ่ เวินจิ้งถึงได้หาเสียงตัวเองเจอ

มู่วี่สิงที่เธอรู้จัก ไม่ใช่คนอย่างนี้

“ลูกออกไปก่อนเถอะไป” เจี่ยนอีถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก

เธอเองก็ไม่อยากก้าวก่ายความคิดของลูก แต่มันก็มักจะอดไม่ได้

เมื่อนึกถึงเวินโม่ เธอก็ไม่คิดที่จะยอมให้ลูกสาวกลับไปรักกับมู่วี่สิงอีก

อีกอย่างในสายตาของเธอตอนนี้ ผู้ชายคนนั้นก็กระทำความผิดไว้เยอะมาก

“ก็ได้ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้ ให้ฉันอยู่กับแม่นะ” เวินจิ้งไม่ยอมจากไปไหน

กว่าจะได้เจอเจี่ยนอีก็ไม่ใช่ง่ายๆ แล้วยิ่งมารู้เรื่องสุขภาพของแม่อีก ตอนนี้เธอต้องอยู่ข้างๆแม่

“ลูก ฟังแม่นะ ต่อไปนี้อยู่ที่ประเทศFได้ไหม? ที่ฉันไม่ปฏิเสธคำพูดของโจวเซิน ก็เพราะว่าฉันหวังว่าเขาจะดูแลแกได้” เจี่ยนอีกับโจวเซินไม่ได้รู้จักอะไรกันมากมาย แต่เธอดูออก ว่าโจวเซินชอบลูกสาวตัวเอง

และเขาก็รับปากแล้วด้วย ว่าจะปกป้องเวินจิ้งไปตลอดชีวิต

แม่ทุกคนบนโลกนี้ ต่างก็ต้องการแบบนี้กันทั้งนั้น ขอแค่ลูกตัวเองไม่เป็นทุกข์ไม่เป็นกังวล เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก ไม่ได้ตอบกลับอะไรไป

“แม่ นอกจากข่าวพวกนั้นแล้ว แม่บอกได้ไหมว่าทำไมถึงได้ต่อต้านมู่วี่สิงขนาดนั้น? เมื่อก่อนแม่ชอบเขามากไม่ใช่หรือไง?” เวินจิ้งถามอย่างสงสัย

ท่าทีของเจี่ยนอีในตอนนี้ทำให้เธอสงสัยมาก

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อที่เจี่ยนอีพูด เพียงแต่ว่า มู่วี่สิงคือคนที่เธอต้องการมาตลอด ถ้าหากไม่มีเขาอยู่ข้างกาย เธอก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าวันข้างหน้าเธอจะเป็นอย่างไร

เป็นเขาที่คอยสนับสนุนทุกการก้าวเดินของเธอมาจนถึงวันนี้

เพียงแค่คิดว่าต้องไปจากเขาจริงๆ ก็ถือเป็นความเจ็บปวดที่ในชีวิตนี้เธอคงไม่มีทางรับได้

เธอทำไม่ได้

“ที่แม่ไม่ได้ติดต่อแกมาตลอด มันมีอีกสาเหตุหนึ่ง นั้นก็เพราะตระกูลมู่คอยขัดขวางอยู่ตลอด”

เวินจิ้งนั่งฟังที่แม่พูดเงียบๆ จากนั้นก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาชั่วขณะ

“มู่วี่สิงไม่มีทางทำอย่างนี้แน่!” ผ่านไปนาน เธอถึงได้มีสติโต้กลับไป

“คนของตระกูลมู่ไม่ยอมให้ฉันกลับไปที่เมืองหนานเฉิง และฉันก็คิดว่าเป็นฝีมือของมู่วี่สิง เขาใจร้ายได้ถึงขนาดนี้ แล้วฉันจะวางใจยกแกให้เขาได้ยังไง อีกอย่างต่อให้ไม่ใช่มู่วี่สิง ตระกูลมู่ก็ไม่มีทางยอมรับแกหรอก แม่ไม่อยากให้เห็นแกโดนกระทำไม่ดีใส่ เข้าใจไหมลูก?” เจี่ยนอีพูดออกมาจากใจจริง

“ฉันไม่ได้โดนกระทำอะไรนะ” เวินจิ้งหลุบตาลง

ถึงตอนนี้มู่เฉิงจะไม่ชอบเธอจริงๆก็เถอะ แต่มู่วี่สิงก็ปกป้องเธอมาตลอด เธอไม่เคยโดนกระทำอะไรเลยจริงๆ

“แม่เหนื่อยแล้ว แกออกไปเถอะ ฉันพูดได้เท่านี้แหละ ส่วนจะตัดสินใจยังไงมันก็เรื่องแก”

เวินจิ้งไม่ได้ออกไปไหน ด้านเจี่ยนอีก็หลับไปแล้ว เธอนั่งเหม่ออยู่ข้างเตียง ตอนนี้เธออยากถามเรื่องราวทั้งหมดกับมู่วี่สิงให้มันรู้เรื่องไปเลย เธอพร้อมที่จะเชื่อเขา

แต่ก็ไม่คาดคิดเลย ว่างานแต่งงานของมู่วี่สิงกับโจวหย่านจะดำเนินการเร็วถึงขนาดนี้

สามวันต่อมา เวินจิ้งก็ได้เห็นข่าวบนอินเทอร์เน็ต โจวหย่านในชุดเจ้าสาวสีขาวคล้องแขนมากับชายหนุ่มรูปหล่อ งานแต่งงานจัดอยู่ในโรงแรมที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปร่วมลงทุน พูดได้เลยว่าเป็นงานที่เปล่งประกายเจิดจ้าเป็นอย่างมาก

รอยยิ้มของโจวหย่านดูมีความสุขเอามากๆ

ทั้งๆที่ไม่อยากเห็น แต่น้ำตาของเวินจิ้งก็ไหลอาบหน้าอย่างห้ามไม่ได้

แหวนบนนิ้วนางของโจวหย่านดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี จนเธอมองเห็นมันได้ในทันที

และตอนนี้เวินจิ้งก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ตอนแรกเธอไม่ยอมรับแหวนจากมู่วี่สิง ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ได้แต่งงานกัน แต่ถ้ามีแหวนวงนั้น ก็สามารถเป็นหลักประกันให้เธอเชื่อใจเขาได้

แต่ว่าตอนนี้ มู่วี่สิงแต่งงานกับโจวหย่านไปแล้วเรียบร้อย

เธอติดต่อเขาไม่ได้ ทำได้เพียงแค่นั่งดูมู่วี่สิงกับผู้หญิงอีกคนเข้าพิธีแต่งงานด้วยกันอยู่อย่างนั้น คนข้างกายเขา ไม่ใช่เธอแล้ว

ความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตนี้ มันเป็นแบบนี้นี่เอง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ค่อยๆดังขึ้นมา ไม่ต้องเงยหน้าไปมองเวินจิ้งก็รู้ว่าเป็นโจวเซิน

“ฉันอยากโทรหาเขา” เธอมองไปยังโจวเซินด้วยน้ำตาที่พราวระยับ

“ได้สิ”

ครั้งนี้ โจวเซินไม่ได้ปฏิเสธ ในเวลานี้ มู่วี่สิงกับโจวหย่านคงเข้าหอไปแล้วล่ะมั้ง แล้วเขาจะรับสายเธอเหรอ?

“ตู๊ดๆๆ…..”

หัวใจของเวินจิ้งเต้นเร็วมาก จนแทบจะทะลุออกมานอกอก

เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ในที่สุด เสียงของมู่วี่สิงที่เธอรอคอยอยากได้ยินมาตลอด ก็ดังขึ้นมา “เวินจิ้ง เราเลิกกันนะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท