Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 606

ตอนที่ 606

บทที่ 606 ไม่มีทางมองข้ามความเป็นเขา

ในชั้นผู้โดยสารชั้นที่หนึ่ง เวินจิ้งขดตัวในเก้าอี้หนังตัวใหญ่ แอร์โฮสเตสโค้งตัวด้านข้าง ถามเธออย่างเอาใจใส่ยังต้องการบริการอะไรไหม

เธอรู้สึกหนาวมากๆ ก็เลยขอผ้าห่ม

ความสูงสามหมื่นฟุตบนน่านฟ้าทำให้คนสงบลง เวินจิ้งโอบกอดตัวเองแน่น ตอนแรกคิดว่าตัวเองนอนไม่หลับ แต่ไม่นานก็หลับแล้ว

ตื่นมาก็รู้สึกหิวไม่ไหวแล้ว หลังจากกินอาหารบนเครื่องแล้วก็นอนต่อ นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่นั่งเครื่องบินนานที่สุด แต่กลับไม่รู้สึกลำบากยากเข็ญ เกือบจะเป็นเวลานอนของเธอทั้งหมด

เครื่องบินกำลังจะแล่นลง แอร์โฮสเตสเรียกเวินจิ้งให้ตื่น เวินจิ้งถอดผ้าปิดตา ได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลัง“คุณนี้นอนได้ดีจริงๆเลย….”

ตอนนี้เธอยากที่จะปรับแสง หันหัวไปมอง ผู้ชายคนนี้คุ้นเคยเหลือเกิน วัยรุ่นมาก ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวสบายๆ หรี่ตาขึ้นมองตัวเอง มือก็ชูขึ้น ชี้นาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วพูด“ผมคำนวณแล้ว เวลาบนเครื่องบินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คุณใช้ในการนอน!”

หยูจิ่งห้วนแสดงท่าทางไม่น่าเชื่อออกมา เวินจิ้งดึงริมฝีปากเธอยิ้มออกมา แต่พบว่าลำบากนิดหน่อย ทำได้แค่ตอบเบาๆแล้วหันหัวเปิดหน้าต่างที่บังแดด

เมื่อสติกลับคืนมานั้น เธอถึงตกตะลึง หยูจิ่งห้วนทำไมถึงได้อยู่เที่ยวบินนี้?

เขาพึ่งออกจากโรงพยาบาล ไม่พักผ่อนสักสองสามวันก็บินทางไกลแล้วเหรอ?

หยูจิ่งห้วนก็มานั่งข้างๆเวินจิ้งอย่างรวดเร็ว “เห็นผมไม่แปลกใจเหรอ?”

“แปลกใจมาก”เวินจิ้งพยักหน้า

แค่ตอนนี้สมองเธอเหมือนกาวเหนียว ไม่ค่อยอยากพูด สีหน้าตึงแน่นนิดหน่อย

“ไม่สบายเหรอ?” หยูจิ่งห้วนมองสีหน้าซีดขาวของเวินจิ้ง

“โอเค”เวินจิ้งส่ายหน้า

ในเวลานี้เครื่องบินกำลังจะจอดอย่างรวดเร็ว รู้สึกหูอื้อแปลกๆ เวินจิ้งหลับตา เครื่องบินค่อยๆสู้พื้น

สถานที่แรกของเธอคือโรม และหยูจิ่งห้วนก็ตามเธอไปตลอด

เวินจิ้งนึกอยากจะถามอะไรบางอย่าง เงยหน้าขึ้นถาม“คุณก็มาเรียวเหรอ? คุณคงไม่วางร่วมแผนการกับแม่ฉันหรอกนะ?”

การเดินทางของเธอหลินเวยเป็นคนจัดการ หลินเวยและคุณน้าหยูมีความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งสองเป็นตัวการในการติดต่อเธอกับหยูจิ่งห้วน ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

“ปฏิกิริยาตอบสนองช้าเล็กน้อยเนอะ” หยูจิ่งห้วนพูดแล้วยิ้ม

เห็นเวินจิ้งหน้าตาสะลึมสะลือ ยังอยากจะไปกอดเธอไว้จริงๆ แต่ยังคงควบคุมไว้

“รำคาญ ฉันอยากจะเดินคนเดียว”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ

ความสัมพันธ์ของเธอกับหยูจิ่งห้วน ยังไม่ได้สนิทกับถึงขั้นสามารถไปเที่ยวด้วยกันได้

แถมเธอก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วย

“อืม งั้นผมจะเดินข้างคุณไม่พูดละกัน เป็นคำอำพราง”

เวินจิ้ง……

เธอไม่สามารถมองข้ามเขาได้

เป็นครั้งแรกที่เวินจิ้งมาโรม ที่นี่อบอุ่นกว่าประเทศ F เสื้อโค้ทหนึ่งตัวและผ้าพันคอหนึ่งผืนก็เพียงพอแล้ว

แผ่นหินปูเป็นถนนเล็ก หินสร้างก่อตัวเป็นกำแพง คริสตจักรที่มียอดแหลมถึงเมฆ ตรงไปยังท้องฟ้า

ผู้คนที่เดินรอบๆเปลี่ยนคนตัวเล็กวางไหล่กันและกัน เดินไม่ไกลจากสนาม

ในเวลานี้ถึงเวลากินอาหารเที่ยงของคนโรมเวินจิ้งเลือกกาแฟ มองเมนูอาหาร นั้นเต็มไปด้วยภาษาอิตาลีทำให้เธอหงุดหงิด

เมื่อเทียบกับความสามารถทางการแพทย์แล้วความสามารถทางภาษาต่างประเทศของเธอยังอ่อน

ในเวลานี้ หยูจิ่งห้วนก็ตามเธอเข้ามา ไม่เกรงใจที่จะนั่งต่อหน้าเธอ

“นี้คือcima ก็คือเนื้อวัวม้วน ข้างในใส่ผัก ไข่และก็เนยแข็งแห้ง…”หยูจิ่งห้วนอธิบายเมนูอาหารให้เธอ

ทันใดนั้นเวินจิ้งรู้สึกว่า มีหยูจิ่งห้วนอยู่ข้างๆ ก็ไม่เลว

ไม่อย่างนั้นเธอคงใช้แอปแปลเมนูอาหารก่อนถึงจะได้สั่ง ไม่อย่างนั้นสั่งอะไรมาก่อนแล้วก็พอแล้ว

“ภาษาฝรั่งเศสคุณไม่แย่เลยนะ”เวินจิ้งพูดชม

“ภาษาไม่น้อยในแทบยุโรป ผมสามารถพูดได้อย่างชำนาญ ”หยูจิ่งห้วนยักคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

เวินจิ้งยิ้ม บรรยากาศทั้งสองคนอบอุ่นไม่ใช่น้อย

หลังจากอาหารถูกเสิร์ฟ เวินจิ้งพูดไม่น้อย หลังจากออกจากร้านอาหาร ทั้งสองเดินเล่นใกล้ๆอย่างไม่มีจุดหมาย เวินจิ้งชอบการเที่ยวแบบสบายๆอย่างนี้

แค่ไม่นาน เวินจิ้งพบว่าตัวเองเดินแยกกับหยูจิ่งห้วนแล้ว

อาจเป็นตอนเช้าที่เธอบอกว่าต้องการเดินคนเดียว ดังนั้น หยูจิ่งห้วนเลยเดิมตามไม่ใกล้ไม่ไกล เว้นช่องว่างให้เธอมากพอ

แต่ตอนนี้มองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน เธอก็ไม่เห็นเขา

เมื่อเธอกำลังจะหาโทรศัพท์ในกระเป๋า กลับพบว่ากระเป๋าถูกกรีดขาดขนาดใหญ่ โทรศัพท์ กระเป๋าเงิน พาสปอร์ต…ไม่เห็นทั้งหมดแล้ว

ยืนอยู่บนถนนคนเดินคนเดียว เธอตกตะลึงไปหมดแล้ว

ต่อไปจะเอายังไงต่อ จะไปสถานีตำรวจเหรอ? หรือจะไปสถานทูตเพื่อขอความช่วยเหลือ?

ตอนนี้เธอถึงได้พบว่าตัวเองไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยสักนิด

ใจกำลังร้อนเป็นไฟอยู่นั้น ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยข้างหู คือหยูจิ่งห้วน!

ในเวลานี้เขาในสายตาเธอคือฟางข้าวที่ช่วยชีวิต

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หยูจิ่งห้วนพึ่งไปซื้อไอศกรีมมาให้เธอ แล้วเอาไอศกรีมสองรสที่ไม่เหมือนกันกลับมา แต่กลับเห็นท่าทางที่รีบร้อนของเวินจิ้ง

“ฉันถูกขโมยกระเป๋าเงิน”เธอพูดอย่างหงุดหงิด

หยูจิ่งห้วนขมวดคิ้ว ส่งไอศกรีมให้เธอ“เอาก่อนเลย กินได้ทั้งหมด ”

พูดจบ เขาก็เดินไปข้างหน้าก่อน

เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม “ตอนนี้จะไปสถานีตำรวจเหรอ?”

หยูจิ่งห้วนส่ายหัว เพิ่มความเร็วเท้า เขาทั้งเดินทั้งมองไปทั่วทุกทิศ

เธอเดินตามเขาด้วยความงงงวย ตรงมาจนหยุดอยู่หน้าถังขยะ

ผู้ชายเปิดฝาที่สกปรก พับแขนเสื้อขึ้น แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง

เขาไม่ท้อถอย คุ้ยขยะไปเรื่อยๆจนหมดถนนสายนี้ ในที่สุดอันสุดท้ายก็เจอพาสปอร์ตและบัตรเครดิตหลายใบ

“หยิบมา”เขาถอนหายใจ

เวินจิ้งรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ยังคงเป็นหยูจิ่งห้วนที่หาเจอจริงๆด้วย

“ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งพูดอย่างจริงใจ

“ดูเหมือนผมจะเป็นความโชคดีของคุณนะ” หยูจิ่งห้วนยิ้ม

“ทำไมคุณถึงรู้ว่าอยู่ในถังขยะล่ะ?”เวินจิ้งถามด้วยความสงสัย

“เพราะ…..โจรทางฝั่งยุโรปก็เป็นแต่แบบนี้ ขโมยเงินขโมยเงินสด พวกพาสปอร์ตบัตรเครดิตพวกเขาไม่ใช้ เอาคืนให้คนที่โดนปล้นดีกว่า ทิ้งถังขยะใกล้ๆถือเป็นเรื่องปกติ” หยูจิ่งห้วนยิ้มอย่างลึก “ผมยังรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง โจรคนนั้นใจดีมากเอากระเป๋าเขาเอกสารที่ตัวเองใช้ไม่ได้ก็ส่งกลับคืนมาให้เขา”

“น่าสนใจดี”

“ยังมีอีก อย่าถือกระเป๋าแพงๆ นี้ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอว่าคุณมีเงิน?”

หยูจิ่งห้วนมองกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดของเวินจิ้งอย่างขบขัน

จริงๆแล้วเวินจิ้งใช้สินค้าหรูหราน้อยมาก นี่คือหลินเวยให้เธอเป็นของขวัญวันเกิด พอดีครั้งนี้มาเที่ยวก็เลยใช้

“โอเค ฉันผิดไปแล้ว”เวินจิ้งยอมรับผิดอย่างโดยดี หยูจิ่งห้วนรู้สึกสนุก

ตอนนี้หยูจิ่งห้วนไม่ต้องตามด้านหลังของเวินจิ้งแล้ว แต่ทั้งสองคนเดินเที่ยวรอบกรุงโรมด้วยกัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท