Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 593

ตอนที่ 593

บทที่ 593 สามปีต่อมา

สามปีต่อมา

ณ โรงพยาบาลเหรินหมิน ประเทศF

ในตอนที่เวินจิ้งเพิ่งเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ผู้ช่วยก็ถือช่อดอกไม้เดินตรงมายังเธอ “หมอเวิน คนไข้ส่งมาให้อีกแล้วค่ะ บอกว่าเพราะการผ่าตัดเมื่อครั้งก่อนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็เลยอยากจะขอบคุณเป็นพิเศษ”

เมื่อเวินจิ้งถอดหน้ากากอนามัยออก ก็ไม่สามารถปกปิดความเหนื่อยล้าบนใบหน้าได้อีกต่อไป

เพิ่งจะทำการผ่าตัดที่ใช้เวลาสิบชั่วโมงกว่าๆเสร็จ ตอนนี้เธอเลยรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย

“ฝากขอบคุณคนไข้ด้วยนะคะ บอกว่าไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้” เวินจิ้งยิ้ม

“ในห้องทำงานของคุณมีทั้งป้ายขอบคุณเอยของขวัญเอยวางอยู่เต็มไปหมด แล้วตอนนี้ผอ.ก็ดูให้ความสำคัญคุณมากๆด้วย แต่ว่าคุณยังไม่ได้ลาพักร้อนสักทีเลยนี่? ช่วงนี้ขนาดวันชาติคุณยังทำโอทีอยู่ที่โรงพยาบาลเลย รักงานเกินไปแล้วนะคะ” ผู้ช่วยพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

เธออยากให้เวินจิ้งหาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทุ่มเทให้กับงานเหมือนหนึ่งปีที่ผ่านมานี้

“ฉันคิดว่าแบบนี้ดีออก ไหนๆฉันก็ไม่มีเรื่องอื่นให้ทำแล้ว” เวินจิ้งนั่งลง จากนั้นก็ดื่มน้ำอย่างเนิบนาบ

“เวลาพักคุณก็ใช้เวลาอยู่กับประธานโจวให้มากๆยังไงเล่า เขาทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้น ต้องมีผู้หญิงหลายคนแน่ๆที่อยากได้เขา” ผู้ช่วยยังคงพูดจ้อ

เวินจิ้งยังคงมีท่าทีเย็นชา “เขามีสิทธิ์เลือกเองอยู่แล้ว ฉันไม่เข้าไปก้าวก่ายหรอก”

“ใช่สิ ที่ฉันลาหยุดอาทิตย์หน้าได้รับอนุมัติหรือยัง?” เวินจิ้งถาม

อีกสามวันก็จะถึงงานแต่งของหลินเวยแล้ว ครั้งนี้จึงเป็นการลาหยุดครั้งแรกของเธอตั้งแต่เข้ามาทำงานในโรงพยาบาล

“อนุมัติมาแล้วค่ะ ในที่สุดฉันก็ได้ลาหยุดด้วยเหมือนกัน” ผู้ช่วยบิดขี้เกียจ

“มาติดตามฉัน คุณคงลำบากแย่” เวินจิ้งถอนหายใจ

“ไม่ใช่ซะหน่อย ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็ยังโสด ยุ่งนิดยุ่งหน่อยก็ดีเหมือนกัน คนในบ้านจะได้เลิกคิดว่าฉันว่างและเร่งฉันเรื่องแต่งงานสักที”

คุยกับผู้ช่วยได้สักพัก เวินจิ้งก็ได้รับสายจากโจวเซิน บอกว่าเขามาถึงแล้ว

เธอเก็บกระเป๋าเดินออกมาโรงพยาบาล หลังจากที่ขึ้นรถ ก็หลับตาลงอย่างอ่อนล้า

“ต่อไปนี้อย่ารับช่วงผ่าตัดเยอะขนาดนี้นะ แผนกไม่ได้ขาดแคลนหมอขนาดนั้น” โจวเซินค่อนข้างจะไม่พอใจ

“ฉันคิดว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว” เวินจิ้งพูดมุบมิบ

โจวเซินขมวดคิ้วอย่างจนใจ จากนั้นก็สั่งคนขับรถให้ออกรถ

กลับมาถึงตระกูลโจว คนใช้ก็เตรียมอาหารเย็นเอาไว้รอแล้ว หลินเวยกับโจวเซิ่งไปเที่ยวพักผ่อนยังไม่กลับ คิดว่าน่าจะกลับมาก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน

“ไม่สบายหรือเปล่า?” เมื่อเห็นสีหน้าเวินจิ้งไม่ค่อยดี โจวเซินก็เดินเข้าไป แล้วโน้มตัวลงไปหา

“ไม่รู้ เวียนหัวมากเลย” เวินจิ้งไม่กินข้าว แต่กลับตรงเข้าไปนอนในห้องเลย

เธอคิดว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะเธออดนอนมาทั้งคืนล่ะมั้ง

โจวเซินไม่สบายใจ จึงเดินตามเธอเข้ามา ในตอนที่ฝ่ามือแนบชิดกับหน้าผากของเธอ สีหน้าของเขาก็ขรึมลง

“คุณเป็นไข้”

“อืม กินยาลดไข้ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว” เวินจิ้งพึมพำ

จริงๆแล้วหลายปีมานี้ร่างกายของเธอไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่เธอก็มักจะทำงานหนัก ซึ่งในความคิดของคนอื่น มันก็คือการไม่รักชีวิตดีๆนี่เอง

แต่เวินจิ้งมีนิสัยดื้อมาก ใครห้ามก็ไม่ฟัง

“ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล” โจวเซินพูดยืนกราน

เวินจิ้งพลิกตัวหนี ไม่สนใจเขาอีก “ไม่เอา ไม่ได้ป่วยหนักอะไรสักหน่อย”

“เวินจิ้ง!”

“โจวเซิน คุณเอายาลดไข้มาให้ฉันหน่อย ฉันนอนสักตื่นก็คงดีขึ้นแล้ว” เวินจิ้งกอดตัวเองไว้แน่น

“ถ้าพรุ่งนี้ไข้ไม่ลด ต้องไปโรงพยาบาลนะ เข้าใจไหม?” น้ำเสียงของโจวเซินเข้มงวดเป็นอย่างมาก

“อืม ค่อยพูดกันอีกที”

นอกห้อง เมื่อโจวเซินเห็นรายชื่อแขกผู้เข้าร่วมงานแต่งงานที่ผู้ช่วยส่งมาให้ คิ้วก็ขมวดมุ่น

สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ชื่อ “มู่วี่สิง” บนรายชื่อเป็นเวลานาน

วันรุ่งขึ้น ไข้ของเวินจิ้งลดลงนิดหน่อย โจวเซินจึงลาหยุดให้เธอ เวินจิ้งจึงถือโอกาสนี้ลาพักผ่อนไปด้วย

หลังจากที่ตื่นขึ้นมา ก็คิดไม่ถึงเลยว่าโจวเซินจะไม่ไปทำงานเหมือนกัน ตอนนี้เขาเป็นถึงประธานตระกูลโจว ถ้าจะพูดว่าในแต่ละวันมีเรื่องให้ยุ่งไม่เว้นวันก็คงจะไม่เกินไปเท่าไหร่

“มากินโจ๊ก” เมื่อเห็นเวินจิ้ง โจวเซินก็ยกโจ๊กผักออกมาจากห้องครัว

“คุณทำเหรอ?”

“อืม ช่วงนี้คนใช้ก็ลาพักร้อนเหมือนกัน”

“รบกวนคุณแย่” น้ำเสียงของเวินจิ้งก็ยังคงมีแต่ความห่างเหินเหมือนอย่างเคย

โจวเซินเองก็เคยชินไปเสียแล้ว

“อีกสักพักชุดราตรีก็คงมาส่งแล้ว คุณลองใส่ดูนะ ถ้าขนาดไม่พอดีตัวจะได้แก้ได้ทัน”

“อืม”

กินข้าวเช้าเสร็จได้ไม่นาน เวินจิ้งก็อยู่แต่ในห้องลองเสื้อผ้า พรุ่งนี้เป็นงานแต่งงานของหลินเวย และในฐานะที่เธอเป็นลูกสาว จึงต้องใส่ชุดราตรีสีขาวให้เข้ากับชุดเจ้าสาวของหลินเวย ถึงชุดของเธอจะดูเรียบง่าย แต่กลับขับให้เธอดูสดใสบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

เมื่อสวมใส่ชุดเสร็จ จู่ๆความทรงจำของเธอก็ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ภาพงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ของมู่วี่สิงกับโจวหย่าน และภาพที่โจวหย่านคล้องแขนมู่วี่สิง มันช่างสวยงามเหลือเกิน

เธอยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เธออยากลืมภาพนี้มาตลอด แต่ทุกๆรายละเอียดมักจะโผล่เข้ามาในความฝันเสมอ จนทุกคืนเธอต้องนอนร้องไห้น้ำตาอาบหน้า

“ชุดพอดีตัวไหม?” เสียงของโจวเซินดึงความคิดของเวินจิ้งกลับมา

เธอพยักหน้าส่งๆ “พอดีมาก”

“อืม ตอนเย็นพ่อกับแม่ก็จะกลับมาแล้ว” โจวเซินพูดขึ้นมา

ใบหน้าของเวินจิ้งยังคงไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ หลังจากที่สามปีก่อนหน้าเธอถูกโจวเซินพาตัวมาที่ประเทศF ไม่นานหลังจากนั้นหลินเวยก็ตามมาด้วยเหมือนกัน และสิ่งที่ทำให้เธอไม่คิดไม่ฝันก็คือ ที่แท้หลินเวยก็คือรักแรกของโจวเซิ่งนี่เอง  โจวเซิ่งถึงกับใช้เวลาฟ้องหย่าเลี่ยวหยงถึงสามปีเต็มๆเพื่อแต่งหลินเวยเป็นภรรยา จนกระทั่งถึงตอนนี้ในที่สุดก็หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ และก็กำลังเตรียมตัวที่จะจัดงานแต่งงานกับหลินเวย

ในความกะทันหันนี้ ราวกับว่าเธอได้มีพ่อ

เพียงแต่ว่าโจวเซิ่งเจ้าชู้ออกลายมาตลอด เวินจิ้งเลยไม่ได้มีความรู้สึกอะไรดีๆให้กับโจวเซิ่ง แต่ถ้าหากหลินเวยชอบ เวินจิ้งก็เคารพการตัดสินใจของเธอ

ด้วยเหตุนี้ต่อจากนั้นมา เธอเลยมาอาศัยอยู่ในตระกูลโจวอย่างสมบูรณ์แบบ

สามวันต่อมา งานแต่งงานของโจวเซิ่งและหลินเวยจัดอยู่ในโรงแรมกุยลี่ของประเทศF แขกที่เชิญมาร่วมงานมีไม่มากไม่น้อยจนเกินไป คร่าวๆก็ประมาณร้อยกว่าคน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพื่อนสนิทญาติชิดใกล้ คู่ค้าร่วมธุรกิจกลับมีจำนวนน้อย

เวินจิ้งมองแม่ที่กำลังแต่งหน้าในกระจก หลินเวยใกล้จะเลยช่วงวัยกลางคนไปแล้ว แต่กระนั้นก็ยังคงดูแลร่างกายตัวเองได้เป็นอย่างดี ดูเผินๆแล้วคงคิดว่าอายุไม่ถึงสี่สิบด้วยซ้ำ บุคลิกก็ดูเรียบร้อยสูงส่ง

“เสี่ยวจิ้ง แกคิดว่าแม่แต่งหน้าเป็นยังไงบ้าง?”

“สวยเพอร์เฟคสุดๆ” เวินจิ้งตั้งใจมองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่เห็นข้อบกพร่องที่จุดไหน

“แม่ตื่นเต้นจังเลย เมื่อก่อนตอนที่แต่งเข้าตระกูลฉี ตอนนั้นไม่ได้จัดงานแต่งงานเลย” หลินเวยพูดเสียงเบา

“งั้นตอนนี้ก็สมตามที่แม่ปรารถนาแล้วนะ” เวินจิ้งโน้มตัวลง รอยยิ้มมุมปากยกโค้งขึ้นมา

หลินเวยลูบผมยาวๆของลูกสาวอย่างรักใคร่ “เสี่ยวจิ้ง แม่มีความสุขมากจริงๆนะ ที่แกยอมรับการตัดสินใจของแม่ได้ ”

เวินจิ้งยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า พูดกันตามตรงเธอกับโจวเซิ่งไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมากเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นตัวตนของเขาจึงเป็นสิ่งที่สื่อต่างๆคอยแต่งเติมเสริมแต่งอยู่ตลอด เธอเลยไม่ค่อยรู้จักเขามากเท่าไหร่

แต่หลังจากสามปีมานี้ที่โจวเซิ่งและหลินเวยอยู่ด้วยกัน ก็ไม่มีข่าวโลกีย์อะไรถูกเผยแพร่ออกมาอีกเลย เขาทำถึงขนาดนี้ก็เพื่อหลินเวย เวินจิ้งจึงไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไร

ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเธอ ก็คือในอนาคตหลินเวยห้ามเสียใจเด็ดขาด

ไม่นานโจวเซินก็ตามมา ในวันนี้เขาสวมใส่ชุดสูทที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะ ทั้งเนื้อทั้งตัวดูหล่อเหลาโดดเด่นไม่ธรรมดา

“แม่ครับ ทุกอย่างพร้อมแล้ว”

โจวเซินเรียกแม่ของเธอด้วยสรรพนามใหม่แบบนี้มาสักพักแล้ว แต่เวินจิ้งก็ยังรู้สึกไม่ชินอยู่ดี

แต่ว่า ตอนนี้เธอก็มองโจวเซินเป็นพี่ชายของเธอตลอด ไม่มีความรู้สึกอื่นปะปนเลยสักนิด

เพียงแต่ว่าโจวเซินกลับไม่คิดอย่างนั้น สายตาที่เขามองเวินจิ้ง มันดูเร่าร้อน ลุ่มลึก ทั้งยังแฝงความรู้สึกที่ร้อนแรงเอาไว้ด้วย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท