Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 615

ตอนที่ 615

บทที่ 615 ความอดทนอันยิ่งใหญ่

“วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของฉัน คุณจะขาดไปเหรอ?”หน้าของหลิงเหยาอำพรางความรู้สึกหดหู่ไม่อยู่

“เธอควรรู้ ฉันมาได้ ก็ถือว่าเป็นความอดทนอันยิ่งใหญ่แล้ว”

พูดจบ ผู้ชายก็ไม่ลังเลที่จะหมุนตัว

ประตูโรงแรม มู่วี่สิงมองเห็นร่างผอมเพรียวนั่งยองๆที่ใต้ไปถนน ขยับก็ไม่ขยับ

สายตาอันลึกซึ้งของผู้ชาย สักพักใหญ่ เขาถึงค่อยๆสาวเท้ายาวๆเดินเข้าไป

เวินจิ้งนั่งยองๆที่พื้น อาเจียนอย่างเงียบๆ เหงื่อออกไปทั้งตัว

เธออยากจะโทรไปหาคนขับรถ แต่นิ้วมือค่อยๆสั้น แม้กระทั่งมือถือก็จับไว้ไม่อยู่

มู่วี่สิงยืนอยู่ด้านหลังเธออย่างเงียบๆ เธอกลับไม่มีแรงแม้แต่จะหันหัวไปมอง

เธอก้มลง ไม่พูดสักคำแล้วอุ้มเธอขึ้นมา

ลมหายใจเย็นชาของผู้ชายผสมกับกลิ่นไวน์แดง ประสบการณ์มาก่อนทำให้เธอคะนึงหารสชาติ

ทันใดนั้นเอนตัวลงนอนในอ้อมกอดที่คุ้นเคย เธอกลับหดอย่างไม่ได้ตั้งใจ ลางสังหรณ์ตอบกลับคือความกลัว

การกระทำของมู่วี่สิงแข็งทื่อบ้าง เขาอุ้มก้าวเท้าใหญ่เดินไปที่ข้างรถเก๋ง เปิดที่นั่งด้านหลัง จากนั้นเขาทิ้งเธอไว้ข้างใน สุดท้ายตัวเองไปนั่งที่คนขับ เหยียบคันเร่ง

หลังจากขับรถมาหลายนาที รถเก๋งก็หยุดลง เขาลงจากรถ ปล่อยให้เวินจิ้งนอนหลังรถคนเดียว

รถหยุดในชั่วครู่ เวินจิ้งรู้สึกปวดในกระเพาะมากขึ้น

เธอดื้อลุกจากที่นั่ง เปิดประตูรถ เปิดประตูรถทัน ก็อั้นไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา

ในที่สุดหยดเหม็นเปรี้ยวที่สกปรกกระเด็นโดนรองเท้าหนังสีน้ำตาล เวินจิ้งเงยหน้าอย่างรีบร้อนมองเห็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของมู่วี่สิง

เขาเอาน้ำและกล่องยาวางไว้ข้างๆเธอ พูดเสียงต่ำ“ดื่มเหล้าไม่เป็น ก็อย่าดื่ม”

เวินจิ้งกัดริมฝีปากตัวเอง มือทั้งสองของเขาไม่มีแรงที่จะเปิดขวดน้ำ

แต่มู่วี่สิงนั้นมองอย่างเฉยเมย ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วย

นี่คงเป็นยาแก้เมาเหล้าสินะ…..เวินจิ้งก็โยนขวดน้ำทิ้ง เอายาทิ้งเข้าปากอย่างลวกๆ แล้วพยายามกลืนลงไป

ลำคอไม่มีของเปียกมาไถล ก็เหมือนกับปิ้งย่างบนไฟ ยาเม็ดติดอยู่ที่นั่น ไม่ขึ้นไม่ลง รสชาติขมแพร่กระจาย เธอเกือบจะพูดไม่ออก

มู่วี่สิงมองจากที่สูงลงมาดูท่าทางลำบากของเธอ ไม่พูดไม่จา จนกระทั่งขึ้นรถแล้วขับรถเก่งใหม่อีกครั้ง

“ที่อยู่”เขาถามอย่างเย็นชา

เวินจิ้งบอกที่อยู่คอนโดตัวเองไป ปกติเธอเข้าเวรที่โรงพยาบาลถึงจะอยู่คอนโด ปกติแล้วเธอจะกลับบ้านโจว

ระยะห่างใกล้มาก ไม่นานก็รู้แล้ว

เวินจิ้งจะไปเปิดประตูอย่างสั่นๆ แต่มู่วี่สิงเร็วกว่าเธอไปก้าว มองเธอลงรถ จากนั้นยืนมือไปจับที่แขนของเธอ

“ชั้นเท่าไหร่?”

“21”

ประตูล็อคอิเล็กทรอนิกส์ทำให้มู่วี่สิงชะงัก เขาถอยหลังไปหน่อย มองเวินจิ้ง รอเธอกดรหัส

นิ้วของเวินจิ้งก็ชะงัก เธอมองมู่วี่สิงอย่างระมัดระวัง พูดเสียงต่ำ“คุณส่งฉันแค่นี้ก็พอแล้ว”

มู่วี่สิงค่อยๆยกคิ้ว ดวงตาทั้งคู่ไม่มีคลื่นแม้แต่น้อย เขาก็ไม่ได้แก้ไขคำพูดเธอ แค่มองทั้งหมดแล้วยิ้ม จากนั้นขยับมือเธอ แล้วกดรหัส

เสียงติ๊ง ประตูเปิดแล้ว

รอยยิ้มของมู่วี่สิงดูหยอกล้อ เวินจิ้งอึดอัดใจ ผลักเปิดอย่าโซเซเขาเดินเข้ามา

รหัสคือวันที่ได้ใบรับรองของเธอและมู่วี่สิงเมื่อสี่ปีก่อน เขาเดาไว้แบบนี้

แต่มู่วี่สิงก็ยืนอยู่ที่ประตู ไม่พูดว่าจะเข้าไป แต่ก็ไม่ได้จากไป มองเงาด้านหลังของเวินจิ้งด้วยความคิดถึง

สายตาที่จ้องมองข้างหลังทำให้คนต้องหลบซ่อน เวินจิ้งเหมือนจะวิ่งเข้าไปในห้องครัว เปิดตู้เย็นหาน้ำแร่

เวินจิ้งเหมือนแค่อึดใจเดียวก็ดื่มหมดขวด ทิ้งขวดไปนั้น หมุนตัว มู่วี่สิงนั้นยืนอยู่ด้านหลังของเธอแล้ว

ระยะห่างของพวกเขาใกล้กันมาก เธอเกือบจะสามารถสังเกตถึงลมหายใจบนหน้าเขา

มู่วี่สิงมองเธอจากด้านบน ทันใดนั้นมือก็ยื่นไปบีบที่ขากรรไกรล่างเธอ ไม่ให้เธอมีโอกาสถอยหลังอย่างแน่นอน ริมฝีปากบางเล็กผ่านคิ้วของเธอเบาๆ

คล้ายเหมือนจะจูบ แต่ไม่มีอะไร

“ก็ไม่อยากดื่มเหล้าดีๆเอง? อือ?”เสียงของเขา ดูเหมือนจะอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน

แต่เวินจิ้งกลับได้สติ มู่วี่สิงไม่น่าจะพูดน้ำเสียงแบบนี้อีก

“ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”เธอตอบกลับอย่างเย็นชา ย้ายร่างไปที่โต๊ะ

“ยังจำวันนั้นได้ จิ้งจิ้ง ฉันสามารถคิดได้ว่า เธอลืมฉันไม่ได้? ”เขายื่นมือออกไป ค่อยๆแตะที่แก้มของเธอ แล้วพูดเหมือนหัวเราะ“อืม ฉันก็ลืมเธอไม่ได้”

สีหน้าซีดขาวของเวินจิ้งมองมู่วี่สิง คนทั้งคนเหมือนรูปปั่นไม่ขยับ

ทำไมมู่วี่สิงถึงได้พูดแบบนี้ออกมา

แค่รหัสนั้น เธอไม่มีทางโต้เถียงจริงๆ

“รีบพักผ่อนเถอะ”มุมปากยิ้มอย่างเย็นชาจางหายอย่างรวดเร็ว มู่วี่สิงปล่อยเธอ

ทั้งตัวเวินจิ้งรัดแน่นอย่างระมัดระวัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่

มองเงาด้านหลังมู่วี่สิงที่เดินจากไป ลมหายใจเขายังวนเวียนอยู่ในอากาศ นานไม่จางหาย

เช้าวันถัดมา ตอนเช้าเวินจิ้งไม่ต้องเปิดคลินิก และไม่ต้องผ่าตัด ก็เลยไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล

เพราะว่าเมื่อวานตอนเย็นดื่มเหล้า สีหน้าของเวินจิ้งไม่ค่อยดี และนอนก็ไม่ดีด้วย

หลินเวยสังเกตเห็นท่าทางแปลกๆของเวินจิ้ง อารมณ์ของเธอเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด

สามปีมานี้ เหมือนไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้

หลังจากออกจากเมืองหนาน นิสัยของเวินจิ้งนั้นสดใสและเปราะบางกว่าเมื่อก่อน เหมือนไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่เอามาใส่ใจ และไม่มีเรื่องที่ทำให้เธอเอามาใส่ใจ

นิสัยของเธอเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ นอกจากอยู่ในเวลาทำงาน ถึงแสดงหน้าดุเดือด

“นอนหลังไม่ดีเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ไม่มีอะไรค่ะ”

หลินเวยขมวดคิ้ว ความคิดแวบเข้ามาในสมอง หรือว่าจะเจอกับมู่วี่สิงแล้ว?

ดูเหมือนจะมีผู้ชายคนนั้น ถึงสามารถทำให้ลูกสาวเธออารมณ์แปรปรวนหนัก

หลังจากเวินจิ้งจากมา หลินเวยเรียกผู้ช่วยมา“ตรวจสอบการเดินทางของเสี่ยวจิ้งช่วงนี้ ดูว่าไปเจอใครมาบ้างแล้ว”

หลังจากนั้นสองวัน หลินเวยก็ออกจากโรงพยาบาล เวินจิ้งลางานมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในที่สุดหยูจิ่งห้วนจะกลับประเทศแล้ว

ท่าทางเขาเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ดูเหมือนรีบมาจากที่ไหน

“จิ่งห้วน เด็กคนนี้ไม่ใช่อยู่ยุโรปเหรอ?”เจอหยูจิ่งห้วน หลินเวยก็ยิ้มถาม

“พึ่งลงจากเครื่องมาครับ เรื่องตรงนั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว” หยูจิ่งห้วนพูดอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งมองรอยยิ้มของเขา ทันใดนั้นรู้สึกหลงไปครึ่งวินาที

เหมือนกับมู่วี่สิงจริงๆ

“เธอส่ายหัวอย่างเร็ว สลัดความคิดนี้ออก”

“เด็กคนนี้เธอมีน้ำใจจริงๆ เหนื่อยมากแล้วสิ รีบกลับบ้านเถอะ”

“ผมไปส่งคุณและก็เวินจิ้งกลับบ้านโจวก่อนครับ”

เวินจิ้งมองหยูจิ่งห้วน“คุณหยู ไม่ต้องรบกวนอะไรขนาดนั้น”

“ไม่รบกวนสักนิดเลย”สายตาอันลึกซึ้งของหยูจิ่งห้วน

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หลบสายตาเขา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท