Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 622

ตอนที่ 622

บทที่ 622 เชื่อฉันได้ไหม

หลังจากได้รับโทรศัพท์จากหลินเวย หยูจิ่งห้วนก็รีบมาที่บ้านตระกูลโจวทันที

“เสี่ยวจิ้งขังตัวเองอยู่ในห้องหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว”

หยูจิ่งห้วนเต็มไปด้วยความกังวลบนใบหน้า เขารีบเดินขึ้นไปที่ห้องของเวินจิ้งและเคาะประตูอยู่เรื่อยๆ

เวินจิ้งยังนอนหลับอยู่ ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้นอนยาวแบบนี้นานมากแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าเป็นคนรับใช้ เธอใส่เสื้อคลุมแล้วก็เปิดประตู

แต่เมื่อเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างนอก ร่างกายของเธอก็แข็งไป

ในวินาทีต่อมา เธอก็ล็อคประตูทันที

หันไปมองผมยุ่งๆของเธอในกระจก เวินจิ้งแทบอยากจะกรี๊ดออกมา

ในเวลานี้ หยูจิ่งห้วนก็อึ้งไปเหมือนกัน

ท่าทางของเวินจิ้งเมื่อกี้… มันจริงกับชีวิตเหลือเกิน

ผมยุ่งเหยิง ผิวของเธอขาวสดใสมาก ใส่แต่เสื้อคลุมลายสพันจ์บ็อบสแควร์แพนส์ ทันใดนั้นเขาก็นึกคำออกคำหนึ่งว่าน่ารัก

เขายิ้ม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก

ผ่านไปยี่สิบนาที เวินจิ้งเปิดประตูอีกครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยและหวีผมอย่างเรียบร้อย

“คุณมาได้ยังไง” เธอมองเขาอย่างโกรธๆ

“ป้าหลินบอกว่าคุณขังตัวเองอยู่แต่ในห้องทั้งวันทั้งคืน”

“ฉันกำลังนอนอยู่” เวินจิ้งพูดอย่างเคร่งขรึม

“ตอนนี้คุณนอนหลับเพียงพอหรือยัง”

“คุณทำให้ฉันตื่นแล้ว”

“ขอโทษนะ ผมแค่เป็นห่วงคุณมาก”

“ฉันไม่เป็นไร หรือว่าคุณคิดว่าฉันจะฆ่าตัวตายเหรอไง” เวินจิ้งพึมพำ

“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่คุณเข้มงวดกับตัวเองมาตลอด เพราะฉะนั้นผมคิดว่าคุณต้องโทษตัวเองแน่”หยูจิ่งห้วน มองเธออย่างจริงจัง

“ฉันไม่เป็นไร คุณไม่ต้องห่วงหรอก ”

“ในเมื่อคุณไม่เป็นอะไร งั้นก็ไปงานฉลองกับผมดีไหม”หยูจิ่งห้วนผายมือขึ้นอย่างสุภาพบุรุษ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “งานฉลองอะไร”

“การผ่าตัดร่วมกันครั้งแรกของเราประสบความสำเร็จ โรงพยาบาลหนานเฉิงจะจัดงานเฉลิมฉลองในคืนนี้”

“ฉันไม่ไป” เวินจิ้งส่ายหัว

“ถือว่าไว้หน้าฉันนะ แถมคุณก็เป็นตัวเอกด้วย เวินจิ้ง ในห้องผ่าตัดคุณทำได้ดีมากแล้ว”

“อย่าปลอบฉันเลย”

“เวินจิ้ง เชื่อใจฉันได้ไหม” เสียงของหยูจิ่งห้วนอ่อนโยนมาก

เมื่อก่อนก็เคยมีคนๆหนึ่งถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า—เชื่อใจฉันได้ไหม

แต่ความเชื่อของเธอไม่สามารถทำให้สองคนไปต่อด้วยกันได้

เธอยิ้มอย่างประชดประชันขึ้นมา

รอยยิ้มนี้ทำให้หยูจิ่งห้วนแปลกใจเบาๆ

“เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนกระโปรงก่อนนะ”

เมื่อได้ยินคำตอบของเวินจิ้ง หยูจิ่งห้วนก็ยิ้มขึ้นเบาๆ

ก่อนออกจากบ้าน เวินจิ้งกินอะไรรองท้องก่อนถึงออกไป

“คุณไม่ได้พักผ่อนมานานแล้วใช่ไหม” เมื่อเห็นรอยคล้ำที่เห็นได้ชัดบนใบหน้าของหยูจิ่งห้วน เวินจิ้งก็ถามอย่างกะทันหัน

“ฉันจัดการเรื่องต่างๆในโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนถึงเมื่อกี้ ฉันก็ชินแล้ว”หยูจิ่งห้วนยิ้ม

“นี่จะทำให้แก่เร็วนะ” เวินจิ้งแซวเล่น

“ตอนนี้คุณคิดว่าฉันแก่แล้วหรือ” หยูจิ่งห้วนสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งเงียบทันที เมื่อเธออยู่กับหยูจิ่งห้วน เธอก็รู้สึกสบายใจเสมอ

แต่ดูเหมือนว่า มันจะไม่ใช่เรื่องที่ดี

เขามีเสน่ห์สำหรับเธอ แต่ความดึงดูดแบบนี้ อาจเป็นเพราะออร่าของเขาคล้ายกับมู่วี่สิงมาก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา สองคนก็มาถึงโรงแรมที่จัดงานเฉลิมฉลอง

ในห้องจัดเลี้ยงนั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก

คนที่มาร่วมงานฉลองส่วนใหญ่จะเป็นแพทย์และอาจารย์ชั้นนำในวงการ และส่วนใหญ่ก็รู้จักกัน

หยูจิ่งห้วนเพิ่งจบการศึกษาในต่างประเทศกลับมาไม่นาน ไม่ได้รู้จักคนในประเทศมากเท่าไหร่ แต่เวินจิ้งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยF และยังทำงานในโรงพยาบาลเหรินหมินของมหาวิทยาลัยFด้วย คนที่รู้จักเธอก็เลยไม่น้อย

เธอเดินอยู่ข้างๆหยูจิ่งห้วน แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนสนใจหยูจิ่งห้วนมากกว่า

แพทย์คนนี้ที่เข้าร่วมการผ่าตัดกับเวินจิ้ง ได้รับความสนใจและยกย่องในระดับสูงภายในเวลาเพียงวันเดียว

“หมอหยู คุณมีชื่อเสียงแล้วนะ ” เวินจิ้งชนแก้วกับเขา

แต่ทันทีที่เธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา หยูจิ่งห้วนก็หยิบแก้วไวน์ในมือของเธอออกไป

“คืนนี้ห้ามดื่มไวน์ ”

“ไวน์นี้มีแอลกอฮอล์ต่ำมาก”

“นั่นก็ไม่ได้ ป้าหลินบอกว่าช่วงนี้ คุณสุขภาพไม่ค่อยดีและให้ฉันดูแลคุณด้วย ”

“คุณฟังแม่ของฉันแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ” เวินจิ้งรู้สึกแบบเอือมระอา

ในเวลานี้ มีเสียงอุทานดังขึ้นอยู่ไม่ไกลอย่างกะทันหัน เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นสองคนที่คุ้นเคยเดินเข้ามาจากประตู

หลิงเหยาที่ใส่ชุดกระโปรงหางปลาทูเล่ เดินไปกับมู่วี่สิงที่ใส่ชุดสูทแฮนด์เมดสีดำ เกือบจะดึงดูดสายตาไปทั่วห้องจัดเลี้ยง

เวินจิ้งยืนอยู่ในที่ที่ค่อนข้างมืด เธอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เธอไม่อยากให้มู่วี่สิงเห็นเธอ

“เจ้านายของฉันมาแล้ว”หยูจิ่งห้วนยิ้ม

“คุณจะไปทางนั้นไหม ฉันอยู่คนเดียวได้”

“อืม ฉันจะทักทายหน่อย คุณไม่ไปกับฉันหรอ”

เวินจิ้งส่ายหัว “ฉันยังกินไม่อิ่มเลย”

เวินจิ้งรีบหันหลังเดินไปที่บริเวณรับประทานอาหาร หยูจิ่งห้วนมองเธอไปอย่างเร่งรีบ ทำไมดูเหมือนว่าเธอกำลังหนีมู่วี่สิงอยู่

จริงๆแล้วเวินจิ้งไม่อยากกินอะไรอยู่แล้ว เมื่อมองเค้กที่สวยงามอยู่ตรงหน้า เธอกลับรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย

เลยเดินไปที่ห้องน้ำ เพิ่งเข้าไปก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังแต่งหน้าอยู่

ในแสงไฟสว่างไสวของห้องน้ำ เธอกำลังทาแป้งบนใบหน้า เวินจิ้งมองไปจากด้านข้าง และอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเธอหลายครั้ง

เด็กผู้หญิงคนนี้ดูอายุน้อยมาก ท่าทางการแต่งหน้าก็ไม่คุ้นเคยมือ อาจเป็นเพราะเนื้อแป้งไม่ละเอียดอ่อนและดูหยาบกว่าเดิมเมื่อทาไป

เมื่อสังเกตว่ามีคนมองอยู่ เธอก็ยิ่งดูไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และมือก็สั่นเบาๆด้วย

“คุณก็เป็นแขกรับเชิญของคืนนี้ด้วยเหรอ” เสียงของหญิงสาวนั้นค่อนข้างอาย ดวงตาขาวดำมองเวินจิ้งอย่างไร้เดียงสา

เธอพยักหน้าและรีบมองไปทางอื่น

ออกมาจากห้องน้ำ หยูจิ่งห้วนก็มาทางนี้พอดี เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะไปหาเวินจิ้ง

“ไม่ได้กินอะไรเหรอ” เขาถาม

“ฉันดูเหมือนจะไม่มีความอยากอาหาร” เวินจิ้งพูดตามตรง

“รู้สึกเบื่อหรือเปล่า เรากลับกันเลยมั้ย” อันที่จริงยูจิ่งห้วนไม่ชอบมางานแบบนี้ แต่ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมก็จำเป็นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในโลกของผู้ใหญ่

เวินจิ้งพยักหน้า เมื่อกี้ก็ไปทักทายกับคนที่รู้จักหมดแล้ว และเธอไม่อยากพูดคุยเกี่ยวกับการผ่าตัดของเมื่อวานนี้ สำหรับเธอแล้ว ยังไงก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอด

ในขณะที่เพิ่งออกจากทางเดิน มู่วี่สิงก็ยืนอยู่ไม่ไกล และสถานที่ที่เขากำลังมองอยู่ คือเด็กผู้หญิงที่แต่งหน้าในห้องน้ำของเมื่อกี้

ในระยะที่ไม่ใกล้มาก แต่เวินจิ้งรู้สึกว่า … ดวงตาของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยแสงที่สว่างมาก

มู่วี่สิงที่เป็นแบบนี้ กับผู้ชายที่เย็นชาเฉยเมยตลอด มันค่อนข้างแตกต่างมาก

เขาไม่ได้สังเกตเห็นสายตามองของเวินจิ้ง และเวินจิ้งก็ไม่ได้หันหน้าไปทันที จนกระทั่งเสียงของหยูจิ่งห้วนดังขึ้นในหู เขาถามว่า “คุณกำลังมองผู้หญิงคนนั้นอยู่เหรอ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท