Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 626

ตอนที่ 626

บทที่ 626 แจกันที่สวยงามในสายตาของเขา

ทั้งคู่ก็ยุ่งงานมาก และไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนที่เหมือนกัน

หยูจิ่งห้วนไม่ได้ใช้วิธีบังคับในการมีอิทธิพลต่อชีวิตของคนๆหนึ่ง แต่จะนัดเวินจิ้งกินข้าวและดูหนังด้วยกัน

เวินจิ้งเพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด เมื่อเธอได้รับโทรศัพท์จากหยูจิ่งห้วนในวันหยุดสัปดาห์

จริงๆแล้วหยูจิ่งห้วนอยู่ห่างไกลที่อีกด้านหนึ่งของโลก น้ำเสียงของเขาก็แซวมาก”วันนี้คุณทำงานล่วงเวลาไหม”

“ทำค่ะ”เวินจิ้งพูดอย่างสั้นๆ “เดี๋ยวยังมีการผ่าตัดอีกเรื่อง”

เธอพูดไปและรับข้อมูลผู้ป่วยที่เวยอานส่งมาให้ด้วย ซึ่งนี้เป็นคนไข่โดยแพทย์อีกคนหนึ่งที่ลาออกส่งต่อมาให้

แต่ดูรูปด้านบน รู้สึกคุ้นตามาก

“ฉันจะไปทำงานแล้ว เดี๋ยวฉันจะโทรหาคุณนะ”เวินจิ้งวางสายโทรศัพท์

มองดูรูปนี้อย่างจริงจังสักพักหนึ่ง ในที่สุดเธอก็จำได้ว่าเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหนแล้ว

ในงานเฉลิมฉลอง ผู้หญิงที่ดูเหมือนเธอในสายตาของหยูจิ่งห้วน

“เธอมาหรือยัง”เวินจิ้งถาม

“อยู่ในห้องผู้ป่วยแล้ว แต่ว่า… หมอมู่เหมือนก็มาด้วย”เวยอานขมวดคิ้ว

“มู่วี่สิงเหรอ”เวินจิ้งหยุดเดิน แม้ว่าจะไม่แปล แต่เธอก็ลังเลอยู่สักครู่

“อืม คุณคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นอะไร แม้หมอมู่จะมาอยู่เพื่อนเธอด้วย แต่มีคุณหลิงอยู่ข้างๆหมอมู่แล้วไม่ใช่เหรอ”เวยอานพึมพำ

เวินจิ้งเม้มปาก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอตึงหน้าขึ้น

ผู้หญิงคนนั้นชื่อไป๋ซี เวินจิ้งเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย ผมของเธอมัดเป็นหางม้า และไม่ได้แต่งหน้าเล

เห็นรอยไหม้เล็กน้อยน่ารักที่ดั้งจมูกของเธอด้วย

“หมอเวิน ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอดูเหมือนคุณมากเลย”เวยอานเดินเข้ามาด้วย อดไม่ได้ที่จะกระซิบอยู่ข้างหู

เวินจิ้ง “โดยเฉพาะดวงตาและริมฝีปาก อิอิ ถ้าไม่ได้รู้จักคุณ ฉันคิดว่าพวกคุณเป็นฝาแฝดจริงๆ”

สายตาของเวินจิ้งตกอยู่ในดวงตาของไป๋ซี เธอกำลังฉีดเข็มที่ฝังอยู่ในขณะนี้ ดวงตาของเธออยู่กลมๆ

เหมือนลำไย แต่ถ้าเธอยิ้มขึ้นมาก จะดูเหมือนพระจันทร์เสี้ยวๆ

สำหรับริมฝีปากนั้น จริงๆแล้วไป๋ซีไม่มีการแสดงออกไดๆ แต่ริมฝีปากบนเม้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ดูน่ารักมาก

เวินจิ้งเม้มปากเบาๆ”คุณไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้แล้ว”

“สวัสดีค่ะ” ไป๋ซีทักทายเมื่อเวินจิ้งเข้ามา

เวินจิ้งอธิบายรายละเอียดของการปฏิบัติงานและข้อควรระวังหลังการผ่าตัดให้เธอฟังสั้นๆ จากนั้นก็ออกไปเตรียมตัวแล้ว ในเวลานี้มู่วี่สิงกำลังเดินมาทางนี้

เมื่อเธออยากหนีไปก็ไม่ทันแล้ว

“วันนี้คุณเป็นคนทำการผ่าตัดเหรอ” คิ้วของผู้ชายขมวดขึ้นเล็กน้อย

“ใช่ค่ะ”เวินจิ้งพยักหน้าช้าๆ

“คุณเป็นญาติของผู้ป่วยเหรอ ฉันเห็นว่ามีแต่เธอคนเดียว”เวินจิ้งมองมู่วี่สิง

ถึงแม้ว่าการผ่าตัดของไป๋ซีไม่ได้ซับซ้อนและอันตราย แต่ถ้ามีญาติอยู่ด้วยก็จะดีกว่าไป๋ซี

มู่วี่สิงก้มลง เขาเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ เขาไม่ได้ตอบ แต่กลับถามอย่างเย็นชาว่า “คุณคิดว่าเธอเหมือนคุณไหม”

มีความคิดถึงเล็กน้อยในน้ำเสียงของเขาด้วย

เวินจิ้งตกตะลึง เธอมีความรู้สึกเหมือนถูกหลอกขึ้นมา ไม่ได้ตอบ เธอเดินออกไปอย่างรอดเร็ว

มีความคิดบางอย่างแวบเข้ามาสมองของเธอ แต่เธอก็ห้ามมันไว้อย่างรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้หรอก

อยู่ด้านหลังของเธอ มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้นอย่างเงียบๆ หลังที่เดินออกไปอย่างรวดเร็วนั้นจะตกอยู่ดวงตาของเขาโดยตลอด

สามชั่วโมงผ่านไป เมื่อการผ่าตัดของไป๋ซีเสร็จเรียบร้อย เวินจิ้งก็ถอดหน้ากากออกและเดินออกจากห้องผ่าตัดอธิบายสถานการณ์ให้ญาติผู้ป่วยฟังอย่างที่เคยชิน แต่ไม่มีใครอยู่ในนอกห้องผ่าตัดเลย

เธอขมวดคิ้วและหันกลับไปที่ห้องทำงาน

ผ่านไปไม่นาน ไป๋ซีก็ถูกผลักกลับไปที่ห้องผู้ป่วย เวยอานก็อยู่เคียงข้างเธอตลอด เมื่อเธอเห็นมู่วี่สิงนั่งอยู่บนโซฟาในหอผู้ป่วย ดวงตาของเธอก็มีความตื่นเต้นอย่างเก็บไม่อยู่

แต่สายตาของเขา ดูเหมือนจะตกอยู่ที่ไป๋ซีคนเดียวทันทีที่เธอเข้ามา

เมื่อไป๋ซีตื่นขึ้นมาเห็นมู่วี่สิงอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มเบาๆ ความโค้งของดวงตานั้นสวยงามมาก

ด้วยรอยยิ้มนี้ ริมฝีปากของเธอจึงโค้งขึ้นอย่างน่ารัก

ดวงตาของมู่วี่สิงสงบอยู่ตลอด แต่รอยยิ้มของไป๋ซีก็ค่อยๆแข็งไป เธอคิดว่าความงามของตัวเองจะอยู่ในระดับกลางขึ้นไป อย่างน้อยก็มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่จะปฏิเสธเธอได้

แต่ผู้ชายเย็นชาที่อยู่ตรงหน้า เขาอยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมกับเธอมาโดยตลอด

“คุณชอบฉันไหม”ไป๋ซีพูดอย่างความกล้า น้ำเสียงของเธอค่อนข้างกลัวนิดหน่อย

ถ้าไม่ชอบเธอ ผู้ชายคนนี้จะมาเป็นเพื่อนเธอผ่าตัดทำไมล่ะ

แต่ถ้าชอบเธอ ทำไมถึงเย็นชากับเธอขนาดนี้ล่ะ

“ไป๋ซี จำฐานะของตัวให้ดีๆ ต่อหน้าฉัน อะไรพูดได้ อะไรที่พูดไม่ได้ คุณไม่รู้หเหรอ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงกลายเป็นเย็นชาขึ้น

ไป๋ซีหัวเราะเยาะเย้ย เธอเข้าใจความหมายของผู้ชายคนนี้แล้ว

เธอคงเป็นเพียงแจกันที่สวยงามในสายตาของเขามั้ง

“ขอบคุณที่มาในวันนี้ค่ะ”ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง

ใบหน้าของมู่วี่สิงก็เย็ยเยือกเหมือนเดิม แต่ก็อ่อนโยนกว่าเมื่อกี้แล้ว

“เมื่อออกจากโรงพยาบาล โทรหาฉันได้”พูดเสร็จ เขาก็รีบออกไปอย่างเย็นชา

ไป๋ซีเอียงหัวคิดอยู่ตั้งนานก็ไม่เข้าใจ ตกลงผู้ชายคนนี้อยากทำอะไรกันแน่

หลายวันต่อมา เวินจิ้งก็ไม่เห็นมู่วี่สิงอีกเลย เธอจะมาห้องผู้ป่วยของไป๋ซีในทุกวัน เธอจะยิ้มอ่อนๆเมื่อเห็นเวินจิ้ง ทันใดนั้นเธอก็นึกออกคำหนึ่งว่า แป๋วแหว๋ว

ทั้งๆที่รอยยิ้มนั้นเบามาก แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของไป๋ซี ก็จะรู้สึกสบายใจและอบอุ่นมาก

“คุณหมอเวินคะ พรุ่งนี้ฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้หรือยัง”

“อืม ร่างกายของคุณฟื้นตัวดีมาก”เวินจิ้งพยักหน้า

ผ่านไปไม่นาน ไป๋ซีก็โทรหามู่วี่สิง ในขณะนี้เวินจิ้งกำลังจะออกไป แต่เมื่อได้ยินไป๋ซีเรียกชื่อ”คุณมู่” เธอก็หยุดเดินโดยไม่รู้ตัวเลย

เธอออกไปอย่างไม่ลังเล

บ่ายนี้เธอนัดกับหยูจิ่งห้วนว่าจะไปรับเขาที่สนามบินนานแล้ว แต่ไม่คิดว่ารถติดตลอดทาง เมื่อมาถึงสนามบินก็ช้าเล็กน้อยแล้ว

ในฝูงชน เวินจิ้งเข้าไปก็เห็นหยูจิ่งห้วนใส่แว่นกันแดด ผมสั้นและกระเป๋าเป้สีดำ กำลังผลักรถเข็นกระเป๋าและมองไปรอบ ๆ

เวินจิ้งยืนอยู่ที่ทางออก มองเขาหาเจอตัวเอง ท่าที่ถอดแว่นตาออก น่าตามความสุข

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา และโบกมือให้เขาจากระยะไกล

เพราะว่าสองคนไม่ได้เจอกันมาครึ่งเดือนแล้ว หยูจิ่งห้วนพูดเยอะมาก เกือบจะพูดไม่หยุดเลยในระหว่างทางกลับบ้าน

เวินจิ้งฟังเรื่องต่างๆที่การแลกเปลี่ยนทางวิชาการในออสเตรเลียของช่วงนี้อย่างมีความอดทน จนกว่าขับเข้าไปในกลางเมือง เห็นได้ชัดเลยว่าการจราจรถูกติดขึ้น ขับไปหยุดไปตั้งหลายครั้ง ในที่สุดหยูจิ่งห้วนก็หลับไปที่เบาะหลังสักที

เวินจิ้งหันไปมองเขาอย่างจริงจังไปเรื่อยๆ

ผู้ชายที่มีตาชั้นเดียว หน้าตาดีและมีออร่าที่สดใส

จมูกของเขาสูงมาก เพราะความเหนื่อยล้าจึงมีสีรอยน้ำเงินดำอยู่ใต้แว่นตา

ขอบเสื้อหน้าอกมีรอยย่น เขาชอบแต่ใส่เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายซักด้วยน้ำเท่านั้น ไม่เหมือนมู่วี่สิงที่กระดุมข้อมือสีสันและขอบเสื้อหน้าอกตรงตลอด

หลายปีที่เขาและเธออยู่ด้วย รู้จักคนร่ำรวยหรือชนชั้นสูงในอาชีพ ต่างก็มีออร่าที่แตกต่างกัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท