Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 638

ตอนที่ 638

บทที่ 638 เธอเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ

พอเห็นมู่วี่สิงมาอยู่ตรงหน้า เธอเลยเผลอพูดออกมา “เมื่อไหร่ฉันถึงจะหนีไปจากคุณได้นะ ทำแบบนั้นต่างดีต่อพวกเราทั้งคู่”

เท้าของชายหนุ่มหยุดลงทันที เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงข้าง ๆ เธอ จากนั้นก็ใช้มือจับคางเธอเอาไว้ ดวงตาของกลอกไปมาด้วยความโกรธ เหมือนคลื่นใต้น้ำที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ของห้วงทะเลลึก

จากนั้นเขาก็ก้มลงจูบเธอ เสียงดังล้นออกมาจากกระดูกลำคอ “จิ้งจิ้ง ฉันช่วยเธอออกมา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่เพื่อที่จะให้อิสระแก่เธอ เพราะเธอต้องถูกผูกมัดอยู่กับฉันไม่ชั่วชีวิต”

คำพูดโรคจิตแบบนี้พูดออกมาจากปากของมู่วี่สิง เวินจิ้งรู้สึกเหมือนสมองจะระเบิดดังตูม ดวงตาหลงเหลือเพียงความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ

มือของเธอกดหน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัว “มู่วี่สิง คุณจะใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไปแล้ว ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!”

เหตุผล…ทำไมเขาต้องมีเหตุผล มีเหตุผลแล้วสามารถรั้งเธอให้ดูได้หรือไง

ในเมื่อสุดท้ายยังไงก็รั้งไว้ไม่ได้อยู่ดี แล้วจะมีเหตุผลไปเพื่ออะไร

เขาก้มหน้ามองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ประณีตงดงามของเธอ มองเห็นประกายความโกรธฉายชัดในดวงตาคู่ใส ริมฝีปากเม้มเล็กน้อย ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาค่อย ๆ ร้อนขึ้น

ลูกกระเดือกกลิ้งขยับ เขาประคองใบหน้าเธอแล้วประทับจูบลงไปอย่างร้อนแรง ใช้มือโอบเอวเธอและอุ้มร่างกายอ่อนนุ่มนั้นวางลงบนตักอย่างง่ายดาย “อย่าโกรธเลยนะ จิ้งจิ้ง ฉันรักเธอ”

เวินจิ้งที่ต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในตอนแรกตัวแข็งค้างทันที หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

ชายหนุ่มจึงใช้โอกาสนี้เปิดริมฝีปากของเธอ อย่างลึกล้ำและหนักหน่วง “จิ้งจิ้ง อย่าจากฉันไปเลยนะ”

น้ำเสียงของเขาถูกย้อมทับด้วยคำวิงวอนร้องขออยู่หลายส่วน

เวินจิ้งเคยเห็นมู่วี่สิงเป็นแบบนี้ที่ไหน สติหลุดลอยไปในพริบตา มู่วี่สิงมอบจูบที่ล้ำลึกมากขึ้นกว่าเดิม

เธอรีบหันหน้าหลบจูบของเขาทันที “มู่วี่สิง สามปีก่อนคุณเป็นคนบอกเลิกฉันเอง คุณไม่รู้จักเหตุผลที่ว่าสายน้ำไม่หวนคืนแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“ต้องทำยังไงเธอถึงจะให้อภัยฉัน” เขากดร่างกายของเธอลง น้ำเสียงที่ใช้ถามเกือบคล้ายกับเสียงคำราม

น้ำเสียงของเขาราวกับบอกเธอเป็นคนผิดอย่างไรอย่างนั้น

เวินจิ้งเพียงอยากผลักเขาออกไปจากตัวเธอ “มู่วี่สิง คุณปล่อยฉันเลยนะ! ฉันไม่คิดจะเอาใจคุณอีกแล้ว!”

เขาจูบลงบนผิวของเธอ จงใจที่จะทิ้งรอยของตัวเองไว้ที่บนร่างกายของเธอ

“ไม่ต้องเอาใจ” มู่วี่สิงหรี่ตา การเคลื่อนไหวช้าลงเล็กน้อย แต่แรงที่ใช้จูบเธอยังคงลึกล้ำ ใช้เสียงหายใจหนักหน่วงหยอกล้อเธอ “จิ้งจิ้ง พวกเรามามีลูกกันเถอะ พวกเรามีลูกกันอีกสักคนนะ เชื่อใจฉัน”

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เสียงแตกระแหงค่อย ๆ ดังข้างในหูของเขา “มู่วี่สิง ฉันมีลูกกับคุณไม่ได้ ครั้งแรกมันเป็นเหตุสุดวิสัย ฉันไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นได้อีก”

เขาใช้ลูกมาแก้ปัญหาได้ยังไง

เรื่องระหว่างเราไม่ใช่อะไรที่จะใช้ลูกมาแก้ไขได้

“จิ้งจิ้ง เธอเกลียดฉันสินะ” ริมฝีปากชื้นของเขาประทับลงบนใบหน้าของเธออีกครั้ง ฟันขบลงบนปลายคางของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำปิดริมฝีปากของเธอไว้

เธอไม่เคยพูดแบบนั้น แม้แต่สีหน้าก็ยังก็เอาไว้อย่างดี

แต่ว่า…เธอเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ

จูบที่ลึกล้ำปล้นชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง ร่างกายสูงใหญ่ของชายคนนั้นกดร่างเพรียวบางของเธอลงบนโซฟานุ่ม ใช้แรงเพียงเล็กน้อย เสื้อผ้าของเวินจิ้งก็ถูกฉีกกระชากออก…

ในยามเช้าเวินจิ้งถูกแรงสั่นจากเสียงโทรศัพท์ปลุกให้ตื่น รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว แม้แต่แรงจะลืมตาก็ยังไม่มี เลยพลิกตัวนอนหลับต่อ

เจ้าคนสารเลวมู่วี่สิงยึดโทรศัพท์ของเธอไปแล้ว เสียงนั่นต้องเป็นโทรศัพท์ของเขาอย่างแน่นอน แล้วทำไมเขาถึงไม่รับ…น่ารำคาญจริง ๆ ให้ตายเถอะ…

หลังจากที่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์สั่นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามนาที ต่อให้หลับลึกแค่ไหนก็ต้องตื่นขึ้นมาแล้ว

มือคลำเจอโทรศัพท์ ไม่ทันมองให้ชัดเจนว่าเป็นใครก็กดรับสาย พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ใคร”

คนปลายสายชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นฉันก็ถามอย่างไม่แน่ใจ “ใช่เวินจิ้งไหม”

เป็นเสียงหวาน ๆ นุ่ม ๆ ของเด็กผู้หญิง

เสียงนี้…คุ้นมาก

แต่เวินจิ้งก็คิดไม่ออกว่าใคร

“ฉันคือมู่ซี”

ดูเหมือนปลายจะไม่ได้ยินการตอบสนองของเวินจิ้ง มู่ซีเลยพูดซ้ำอีกครั้ง

“ฮัลโหล”น้ำเสียงของเวินจิ้งอ่อนลงเล็กน้อย ค่อนข้างแปลกใจที่ไม่ใช่คนคุ้นเคย แต่เหมือนเธอเคยได้ยินเสียงแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

“คุณหนูเวิน คุณปู่ให้ฉันโทรมาถามพี่ชายวี่สิง ว่าเขาพอจะมีเวลาว่างกลับมาบ้านใหญ่สักรอบใหม่”

ความจริงแล้วเวินจิ้งยังคงเฉื่อยชาอยู่ ตอนนี้สมองของเธอยังไม่ทันได้ทำงาน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประตูห้องนอนถูกเปิดออก ชายคนนั้นกอดเอวเธอจากด้านหลัง จูบแก้มเธออย่างรักใคร่ “ทำไม ใครโทรมา”

เวินจิ้งกระโดดหนีออกจากอ้อมแขนของเขาทันทีราวกับนกตกใจ โทรศัพท์หล่นอยู่บนเตียง เธอลืมตากว้าง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวังและเย็นชา

พอเห็นเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานก็โถมเข้ามาในสมอง ผู้ชายคนนี้อยากทำให้เธอท้องจนขาดสามัญสำนึก

หน้าอกของเธอกระเพื่อมแรก ใบหน้าเต็มไปด้วยโทสะ

เพียงแค่ผู้ชายคนนั้นไม่สนใจความโกรธของเธอเลยสักนิด กลับกันยังรู้สึกว่าเวินจิ้งที่เป็นแบบนี้ช่างทำให้คนรู้สึกรักและทะนุถนอม แขนยาวถูกยื่นออกไป แล้วดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมก่อนอย่างง่ายดาย

ความทรงจำของเมื่อคืนทำให้เธอหวาดกลัวและโมโหผู้ชายคนนี้ตามจิตใต้สำนึก “อย่ามากอดฉัน มู่วี่สิง ไสหัวไปให้ไกลเลย”

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงมองเธออย่างลึกซึ้ง “จิ้งจิ้ง อย่าโกรธเลยนะ”

อย่าโกรธเหรอ นี่เขาคิดว่าเธอขี้โมโหเอาแต่ใจตัวเองอย่านั้นเหรอ

เวินจิ้งถลึงตามองอย่างโมโห จากนั้นก็ยกมือตบลงบนใบหน้าของเขา

ทว่าตั้งแต่ช่วงเวลานั้นเป็นต้นมา เธอก็เหมือนจะค้นพบว่า คนที่ขี้หัวร้อนโมโหง่ายคนนั้นคือโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา

เธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงโดยสวมเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่มีรอยจูบเต็มไปหมด เส้นผมยาวสีดำเงางามที่ปรกอยู่ตามลำคอทำให้ดูสวยและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ

แม้ว่าเธอจะตบเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกน้อยใจอยู่ดี “มู่วี่สิง คุณรังแกฉัน”

ฝ่ามือใหญ่ของเขาประคองใบหน้าของเธอไว้ หางคิ้วขยับเล็กน้อย เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่เวินจิ้งตบเขามากนัก จึงจูบลงตรงระหว่างคิ้วของเธอ น้ำเสียงที่เย็นเยียบมาตลอดนั้นเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดู “บอกฉัน ใครทำให้เธอโมโหกันหืม”

เข้าดึงเธอกลับเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง แล้วหยิบโทรศัพท์บนเตียงขึ้นมา เพียงแต่ตอนที่เปิดดูบันทึกการโทรกลับพบเพียงเบอร์ที่ไม่รู้จัก

เวินจิ้งหันหน้าหนี เธอไม่อยากสนใจมู่วี่สิง

แต่พอเห็นเขาถามแบบนั้น เธอจึงตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อมู่ซี เธอบอกให้พี่ชายวี่สิงกลับไปบ้านใหญ่”

เวินจิ้งเลียนแบบน้ำเสียงของมู่ซี แต่พบว่าเธอเลียนแบบได้ไม่เหมือนเลยสักนิด

ยังพี่ชายวี่สิงอะไรนั่นอีก

ฟังแล้วเหมือนกลืนแมลงวันลงไปอย่างไรอย่างนั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท