Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 640

ตอนที่ 640

บทที่ 640ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว

ได้ยินดังนั้น สายตาฝ่ายชายก็มองไปที่ร่างเวินจิ้ง ริมฝีปากเผยอขึ้น

“เป็นผู้หญิงที่ฉลาด”

“เรื่องข่าวสารผมจะจัดการให้ แต่ว่าคุณต้องไปกับผมที่สถานที่แห่งหนึ่ง” เขาเสยคางเธอขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเชิงออกคำสั่ง

เวินจิ้งที่แอบยิ้มเฝื่อนๆอยู่ในใจ เธอปฏิเสธได้ด้วยหรือ

“ตกลง”

มู่วี่สิงที่ได้ลุกขึ้นยืน ร่างที่สูงยาวชิดเข้ามาใกล้ หน้าตาที่หล่อเหลาได้หยุดอยู่ตรงริมฝีปากเธอที่ห่างเพียงหนึ่งมิลลิเมตร ด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวน

“ผมให้เวลาคุณเตรียมตัวหนึ่งชั่วโมง”

เวินจิ้งพยักหน้า คิดว่าไหนๆคอนโดมู่วี่สิงเธอก็ไม่ได้มีของมากมาย จึงกลับไปที่คฤหาสน์โจวเพื่อเก็บสิ่งของและจัดกระเป๋าเดินทาง บ้านที่ไม่มีคนอาศัยมาพักใหญ่แล้ว เป็นอะไรที่เงียบสงัดเหลือเกิน

โจวเซิ่งอยู่ที่ยุโรปกับโจวเซิน ยังไม่มีวันกลับที่แน่นอน เวินจิ้งยังคงไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา

ก่อนออกเดินทางเวินจิ้งที่เดิมทียังอยากจะไปโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ว่าเวลาไม่ทันแล้ว มู่วี่สิงต้องการให้เธอไปที่คอนโด เวินจิ้งจึงรีบเร่งไปในทันที

ยังมีสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ต้องจัดเก็บ เธอที่กำลังชาร์จโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเดินทาง หันหลังมาเสียงมู่วี่สิงก็ดังขึ้น “ไม่ต้องพกโทรศัพท์”

เสียงฝีก้าวยิ่งฟังยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฝ่ายชายยื่นมือมาจับสายชาร์จนั้นทิ้งลงไปข้างๆ

ฝ่ามือของเขาปัดแขนเธอ เมื่อผิวสัมผัสกัน เขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นในตัวเธอ

นิ้วมือได้หยุดชะงัก เขาขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดซ้ำๆว่า “พกไปแค่นี้พอแล้ว”

เวินจิ้งชักมือออกมาอย่างใจเย็น เงยหน้าเล็กน้อยพูดขึ้นว่า “ฉันต้องติดตามข่าวคราวของแม่”

มู่วี่สิงที่ท่าทีไม่เห็นด้วย

เวินจิ้งจึงยิ้มเยาะขึ้นทันควัน “ก็จริงนะ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น คุณก็คงจะรู้ทุกอย่าง ถึงอย่างไรก็ไม่มีเรื่องที่คุณไม่รู้อยู่แล้ว”

เธอไม่ได้พูดต่อ ทำการรูดซิปกระเป๋าขึ้น

ในห้องที่เงียบสงบมาก เวินจิ้งที่ไม่อยากจะพูดอะไรแม้แต่สักคำเดียว มู่วี่สิงที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เม้มปาก “พกกล้องถ่ายรูปไปด้วย”

“ไม่พก” เวินจิ้งตอบด้วยความเย็นชา

“คุณชอบถ่ายรูปไม่ใช่หรือ”

เวินจิ้งได้หยุดการเคลื่อนไหวขึ้น เธอไม่คิดว่าการออกไปกับมู่วี่สิงครั้งนี้ เธอนั้นจะยังคงมีอารมณ์ในการถ่ายรูป

“ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว” เธอพูดอย่างเยือกเย็น

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก แววตาที่ลึกล้ำนั้นดูไม่ออกว่ากำลังโกรธหรือกำลังมีความสุข เขาเพียงแค่หันหน้ามาเล็กน้อย

ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน การจัดเตรียมเสื้อผ้าเป็นอะไรที่ง่ายและสะดวกสบาย พวกเขาพกแค่สิ่งของเท่าที่จำเป็น แล้วมุ่งลงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน เวินจิ้งมองไปรอบๆ เธอจำได้ว่าภาพที่ลงในรายงานข่าววันนี้ สถานที่ที่โดนแอบถ่ายคือสถานที่ตรงนี้

แต่ว่าวันนี้ที่นี่กลับว่างเปล่าเงียบสงัด ดูแล้วไม่มีคน

การกระทำของมู่วี่สิงนั้นรวดเร็วแต่ไหนแต่ไรมา ต่อให้มีนักข่าวอยู่เขานั้นก็คงจัดการไปแล้ว

ผู้ชายที่ถือกระเป๋าเดินทางเดินอยู่ด้านหน้า สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเวินจิ้ง เขาจึงได้ชะลอขึ้น

เวินจิ้งเดินอ้อมมาอีกข้างหนึ่งของรถ ตอนที่จะขึ้นรถนั้นเธอได้ยินเสียงมู่วี่สิงพูดดังขึ้น “กลัวอะไรหรือ”

เวินจิ้งที่มือจับประตูรถไว้ได้ชะงักขึ้น สักพักก็นั่งลงไปในรถอย่างเงียบๆ

เธอกลัวอะไร

อันที่จริงตอนนี้เธอไม่ได้กลัวอะไรเลย เพียงแต่เส้นทางที่เดินในตอนนี้แค่กลับไปไม่ได้แล้ว เธอก็แค่สับสนกับวันข้างหน้าเท่านั้นเอง

มู่วี่สิงขับรถด้วยตัวเอง มุ่งหน้าไปสู่ชานเมือง

เวินจิ้งที่เงียบมาตลอดทาง ไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังจะไปที่แห่งหนใด และมู่วี่สิงก็ไม่ได้บอกรายละเอียดแต่อย่างใด เพียงใส่แว่นกันแดดแล้วขับรถอย่างตั้งใจ

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณสามชั่วโมง เวินจิ้งจำได้ไม่ชัดเจนเท่าไร เพียงแค่รู้สึกว่าทางรถวิ่งมานั้นยิ่งวิ่งยิ่งแคบลง ยิ่งวิ่งยิ่งขรุขระ อีกทั้งยังผ่านเนินเขาไปตั้งหลายลูกกว่ารถจะหยุด

เวินจิ้งตามมู่วี่สิงลงจากรถ ยืนอยู่ใต้ซุ้มประตูโบราณที่แปลกตา ลมที่พัดผ่านมาเบาๆในตอนเย็น เป็นความเย็นไม่อาจสัมผัสได้จากในเมือง

มู่วี่สิงที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ เดินตามเส้นทางเดินที่ปูด้วยหินบลูสโตนเพื่อเข้าไปในหมู่บ้านโบราณ

เวินจิ้งที่ไม่ค่อยได้ออกไปท่องเที่ยวสักเท่าไร ยิ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆเช่นนี้แล้วแทบจะนับครั้งได้

ในความทรงจำของเธอ หมู่บ้านเล็กๆแบบนี้มักจะเต็มไปด้วยบรรยากาศในเชิงธุรกิจ มีประตูไม้ที่ทำการตกแต่ง โคมไฟสีแดงที่ห้อยระย้า ทำให้ผู้คนรู้สึกดูคล้ายกันไปหมดและไม่เห็นมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ

แต่ที่นี่ตอนนี้ ทำให้เวินจิ้งกลับรู้สึกว่าที่ไม่เหมือนเดิม

ทางเดินเล็กๆที่ปูด้วยแผ่นหิน มีตะไคร่น้ำปกคลุม ร้านค้าข้างทางที่เปิดอยู่ประปราย ประตูด้ามจับที่ดูจะผุพังเล็กน้อยแล้ว

ที่แห่งนี้ดูเหมือนจะมีพลังเวทย์บางอย่างที่ไม่อาจจะพรรณนาได้ ซึ่งทำให้จิตใจผู้คนสงบนิ่งลงได้ แม้แต่เวลาก็ยังเปลี่ยนเป็นช้าลง

อาศัยอยู่ในประเทศFมาเป็นเวลาสามปีแล้ว เธอไม่เคยทราบเลยว่าในเขตชานเมืองจะมีสถานที่เก่าแก่ดูแปลกตาเช่นนี้

ทั้งสองได้เดินชมรอบๆหมู่บ้าน แล้วมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง

มู่วี่สิงเคาะประตูขึ้น

เมื่อประตูไม้เปิดออกก็ได้ส่งเสียงดังเอี๊ยดขึ้น มียายชราอายุราวหกสีปีได้ยื่นศีรษะออกมามองดูรอบๆด้วยหน้าตาที่สงสัย

จนกระทั่งเมื่อเห็นมู่วี่สิง ถึงปล่อยยิ้มออกมา “เป็นเสี่ยวมู่นี่เอง ยายยังคิดอยู่ว่าปีนี้คุณจะมาหรือไม่มากันแน่…..เร็วๆ เข้ามาเร็วๆ…..”

รอยยิ้มมู่วี่สิงที่อ่อนโยนและมีความสนิทสนม หันข้างเล็กน้อยเพื่อสื่อเชื้อเชิญให้เวินจิ้งเข้าไปก่อน

ยายชราจับมือมู่วี่สิงอย่างสนิทชิดเชื้อ แล้วยิ้มตาหยีพูดขึ้นว่า “สาวน้อยคนนี้…..เป็นแฟนเสี่ยวมู่หรือ”

เมื่อจบประโยค ยายชราก็หันไปมองมู่วี่สิงอีกครั้ง และพูดด้วยความดีใจ “ครั้งก่อนยายได้ย้ำนักย้ำหนาว่าให้พาแฟนสาวมาด้วย ครั้งนี้พามาจริงๆ”

มู่วี่สิงยังคงยิ้มอย่างละมุน ไม่มีการอธิบายชี้แจงใดๆ เพียงแค่พูดขึ้นว่า “ครับ เป็นแฟนสาวผมเองครับ”

ท่าทีเวินจิ้งที่ดูแข็งกร้าวแต่ไหนแต่ไร ไม่เข้าใจว่าทำไมมู่วี่สิงถึงไม่พาหลิงเหยามา ทำไมถึงพาเธอมา

ยายชรายิ่งดูมีความสุขมาก แล้วตะโกนขึ้นด้วยเสียงที่แหบว่า “ตาเอ๊ย แขกมาแล้ว…..”

เวินจิ้งเดินเข้าไปในลานหน้าบ้าน ไม่ช้ายายชราก็ได้ถือน้ำชามาสองแก้ว “ตาแกกำลังจัดห้องอยู่ พวกคุณรอสักครู่นะ อีกสักพักก็ได้ทานอาหารแล้ว”

เมื่อพูดจบยายชราก็ขึ้นไปชั้นบน คงน่าจะไปช่วยคุณตา

ชาสองแก้วที่เย็นแล้ววางอยู่บนโต๊ะ กลิ่นรสชาติจางๆได้โชยมาแตะที่จมูก

มู่วี่สิงยกขึ้นมาจิบแล้วพูดเสียงเบาขึ้น “ที่นี่คือเกสต์เฮาส์เล็กๆที่เป็ดบริการโดยสามีภรรยาตายายคู่เมื่อสักครู่”

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ที่มู่วี่สิงสามารถหาสถานที่แบบนี้เจอ

เวินจิ้งที่กระหายน้ำมาตลอดทาง จึงดื่มน้ำชาดังเอื๊อกจนหมดแก้ว มู่วี่สิงวางผ้าที่อยู่ในมือลง มองดูเวินจิ้งอย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนโยนที่หาได้ยากจากริมฝีปากของเขา .

ทำให้เวินจิ้งฉงนมึนงง เหมือนทั้งสองกลับไปเมื่อสามปีก่อน

สักพักคู่ตายายก็ลงมา เพื่อช่วยยกกระเป๋าขึ้นไป แน่นอนมู่วี่สิงได้ปฏิเสธไป แล้วยกขึ้นไปด้วยตัวเอง ทิ้งให้เวินจิ้งกับยายชราเดินอยู่ด้านหลัง

เวินจิ้งถามขึ้นอย่างลอยๆ “คุณยายคะ ในห้องนี้มีห้องอาบน้ำไหมคะ”

“ไอ้หยา ยายลืมไปเลย!” ยายชราขอโทษขอโพย “สองสามวันนี้ได้ทำการซ่อมแซมท่อน้ำอยู่ เดี๋ยวยายจะพาหนูไปอาบน้ำที่มุมถนนนะ”

เวลานี้พวกเขาได้ยืนอยู่ตรงบันไดไม้ ได้ยินดังนั้น เท้าเวินจิ้งหยุดชะงัก เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นมู่วี่สิงที่กำลังเหลียวมามองเธอ เหมือนจะได้ยินคำพูดของยายชราเมื่อสักครู่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท