Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 649

ตอนที่ 649

บทที่ 649 เขาจะพยายามช่วยเธออย่างเต็มที่

อากาศในต้นฤดูใบไม้ร่วง มีฝนตกปรอยๆอย่างไม่หยุดหย่อน

ชายหนุ่มวัยรุ่นลงจากรถแท็กซี่ มือข้างหนึ่งกางร่ม มืออีกข้างยันประตูเอาไว้ รอหญิงสาวอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่

เขาและเธอรักษาระยะห่างระหว่างกันอยู่ตลอด แต่กระนั้นชายหนุ่มก็คอยระวังไม่ให้หญิงสาวข้างกายเปียกฝน

ในห้องโถงขนาดใหญ่กำลังเปิดเพลงสบายๆ เวินจิ้งสั่งน้ำชามาแก้วหนึ่ง จากนั้นก็ชงชาให้หยูจิ่งห้วน แล้วถึงได้ส่งไปให้เขา

สายตาของเขาทอดมองมือเรียวของเธออยู่ตลอด เมื่อรับเอาน้ำชามา เขาก็พูดยิ้มๆว่า “ขอบคุณครับ”

ทั้งสองไม่ได้เจอกันมานานพอสมควร ข่าวของเธอกับมู่วี่สิงเป็นประเด็นดุเดือดในประเทศFอยู่สักพัก แต่ว่ายังไม่ถึงหนึ่งวันดีข่าวนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ช่วงนั้นเขาออกไปทำงานนอกสถานที่พอดี โทรมาหาเวินจิ้งทีไรโทรศัพท์ของเธอก็ปิดเครื่องอยู่ตลอด

ไม่ใช่ว่าเขาไม่กังวล แต่พอคิดได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ใช่คนรักกันแล้ว สุดท้ายเขาเลยไม่ไปหาเธอ

ถึงยังไงตอนนั้น เธอก็พูดปฏิเสธเขาอย่างเย็นชาถึงขนาดนั้นแล้ว

แต่พอตอนนี้ได้มาเจอเวินจิ้ง เธอก็เหมือนไม่ใช่คนเดียวกับผู้หญิงคนนั้นที่เขาได้รู้จักครั้งแรก

เหมือนเธอจะเคยชินกับการใช้รอยยิ้มปกปิดอะไรบางอย่าง ในตอนแรกที่ได้รู้จักเธอ แววตาของเธอดูใสแจ๋วชัดเจน แต่ตอนนี้แววตาคู่นั้นกลับมืดครึ้มราวกับผืนน้ำมหาสมุทร จนทำให้เขาอดนึกไปถึงมู่วี่สิงที่ก็มีดวงตาลึกล้ำจนยากจะคาดเดาเหมือนกันอย่างช่วยไม่ได้

“ขอบคุณนะที่ยอมมาเจอฉัน” เวินจิ้งจิบชา เมื่อนึกไปถึงท่าทางอึดอัดของตัวเองตอนที่ทั้งสองมาเจอกันครั้งสุดท้าย ก็อดยิ้มเยาะตัวเองไม่ได้

เดิมทีหยูจิ่งห้วนสวมใส่ชุดสูทอย่างเป็นทางการ แต่พอออกมาข้างนอกเขาก็ปลดเนกไทออก อยู่ในลุคสบายๆ บวกกับทรงผมสั้นๆของเขา ก็ยิ่งขับให้ใบหน้าของเขาหล่อเหลายิ่งกว่าเดิม

เขาคลี่ยิ้ม จนเผยให้ฟันขาวเรียงตัวสวย “ไม่เป็นไร”

“แล้วก็เรื่องที่ฉันเคยไหว้วานคุณ ขอบคุณนะ ” เวินจิ้งช้อนตาขึ้น หน้าม้าแผ่ปกคลุมเกะกะลูกตา จนเธอต้องหยีตาลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

หยูจิ่งห้วนเงียบไป จากนั้นก็กุมแก้วชาเอาไว้แน่น แล้วพยักหน้ารับ

เวินจิ้งสบตากับเขา แล้วยิ้มออกมาอย่างสดใส “คุณก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่เก่งเรื่องห้างสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงอยากขอรบกวนให้คุณคอยหนุนหลังให้สักหน่อย แต่ถ้าลำบากใจ ก็ไม่เป็นไรนะ”

หยูจิ่งห้วนมองเธออยู่นาน จากนั้นถึงได้พูดขึ้นว่า “ผมรู้”

เธอลุกขึ้นยืน “งั้นก็ตามนี้นะ คงรบกวนเวลาของคุณแย่ ขอโทษด้วยนะ”

เขาเองก็ผุดลุกขึ้น ยื่นมือออกไปตบไหล่เธอเบาๆ พูดเสียงทุ้มหนักว่า “เวินจิ้ง อย่าฝืนมากเกินไปล่ะ”

เธอยิ้มให้เขา จากนั้นก็ค่อยๆหันหลังกลับ ราวกับเวลาหยุดนิ่ง หยูจิ่งห้วนขมวดคิ้ว รู้สึกแค่ว่าเวินจิ้งในตอนนี้ ทำให้เขามองอะไรเธอไม่ออกจริงๆ

แม่ของเธอป่วย บริษัทหลินซื่อเริ่มทรงตัวไม่อยู่ ตอนนี้เธอถึงได้เป็นฝ่ายมาขอให้เขาช่วยมองหารองประธานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม อันที่จริงแล้วเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร เงื่อนไขของตำแหน่งนี้ที่บริษัทหลินซื่อต้องการก็คือต้องมีประวัติเคยเรียนเกี่ยวกับการแพทย์ ทั้งยังต้องมีความสามารถในด้านงานวิจัย และก็โชคดีที่ในกลุ่มของเขามีคนที่มีความสามารถระดับนี้อยู่ไม่น้อยเลย

เพียงแต่ว่า ส่วนใหญ่ถูกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหว่านล้อมไปทำงานด้วยจนเกือบจะหมดแล้ว

ดังนั้น เอาจริงๆเขาเองก็ไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองจะสามารถช่วยเธอได้ แต่ว่า เขาจะพยายามช่วยเธออย่างเต็มที่

จู่ๆเขาก็นึกถึงตอนที่ได้เจอเธอครั้งแรกที่โรงพยาบาล ตอนที่เขาฟื้นขึ้นมา ก็เห็นเธอในชุดกาวน์สีขาว ใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนจริงใจ แต่ว่าตอนนี้ เหมือนเวินจิ้งจะออกห่างเขาไปไกลมากแล้ว

หัวใจของเขา ปวดหน่วงเล็กน้อย

ห้องที่เวินจิ้งจองไว้เป็นห้องธรรมดา เธอสอดคีย์การ์ดลงในตัวเครื่อง จากนั้นก็ต้มน้ำร้อน แล้วถึงได้เริ่มจัดการของในกระเป๋า

ทันใดนั้น ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอย่างเนิบช้า คนที่มาก็คงไม่ได้รีบร้อนเท่าไหร่

เวินจิ้งแสยะยิ้มเย็น ไม่ได้รีบร้อนไปเปิดประตูเช่นเดียวกัน ทำเพียงแค่จัดการของในกระเป๋าจนเสร็จ จากนั้นถึงได้ไปเปิดประตู

มู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู เขาไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไร มีแค่รอยยิ้มจางๆ ร่างกายสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คสีดำ

เธอให้เขาเข้ามาอย่างไม่คิดอะไรมาก “คุณมาพอดีเลย น้ำเริ่มร้อนพอดี”

พูดจบ เธอก็ยกกาน้ำร้อนขึ้นมา จากนั้นก็รินใส่แก้วน้ำชาอย่างนุ่มนวล หลังจากรินเสร็จ เธอก็ชงชาแก้วที่สองส่งให้มู่วี่สิง

เขามองการกระทำที่แสนเรียบนิ่งของเธอ สายตากลับสะดุดเข้ากับแผลน้ำร้อนลวกที่ยังไม่หายดีบนมือของเธออย่างช่วยไม่ได้

ชั่วขณะหนึ่งที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีแค่ไอความร้อนที่ลอยฟุ้งออกมาจากถ้วยน้ำชา ค่อยๆแผ่ปกคลุมบริเวณโดยรอบของทั้งสองคน

“รอผมเหรอ?” เขายื่นมือออกไปลูบหัวเธอเบาๆ จากนั้นก็ถามยิ้มๆอย่างที่นานๆทีจะมีมาให้เห็น

“ถ้าคุณยังไม่มา ฉันก็ว่าจะนอนแล้ว” เวินจิ้งหาวออกมาวอดหนึ่ง ดันมือของเขาออกอย่างอ้อยอิ่ง ในน้ำเสียงพกพาแววขี้อ้อนมาด้วย

ถึงแม้จะรู้ดีว่าเธอแค่เสแสร้งทำเป็นนุ่มนวลเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แต่เขาก็ยังปล่อยเลยตามเลย

“ทำไมไม่พักที่โรงแรมผม?”

“ฉันไม่อยากถูกนักข่าวถ่ายลงหน้าหนึ่งอีกแล้ว”

“ที่นี่ไม่ใช่ประเทศFนะ” มู่วี่สิงพิงโซฟา จากนั้นก็มองมาที่เธออย่างลึกซึ้ง “คุณกลัวว่าจะถูกถ่ายตอนอยู่กับผม แล้วตอนอยู่กับหยูจิ่งห้วนล่ะ?”

เธอมองเห็นความเย็นชาในดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังยิ้มออกมาบางๆเหมือนเดิม “ทำไม คุณโกรธ ที่ฉันไปเจอเขาเหรอ?”

ภายใต้แสงไฟสีนวล เวินจิ้งสวมใส่ชุดกระโปรงสีขาว ผมดำสลวย โครงหน้าละมุน และเสียงเล็กเสียงน้อยที่อ่อนหวานแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เธอใช้มันพูดกับเขาหลังจากที่ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้ง

มู่วี่สิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เอื้อมมือออกไปดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด พูดเสียงนุ่มว่า “รู้ว่าผมจะโกรธ แล้วทำไมยังไปเจอเขาอีกล่ะ? หืม?”

“เรื่องงานน่ะ” เธอกำลังเพลิดเพลินกับสัมผัสนุ่มนวลจากฝ่ามือของมู่วี่สิงที่ลูบหัวของเธออยู่ จากนั้นก็หลับตาลงอย่างอ้อยอิ่ง เธอที่เป็นแบบนี้ช่างเหมือนแมวตัวน้อยที่เล่นซนมาจนอ่อนเพลียเสียจริง

“คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ?”

“ผมไม่รู้” มู่วี่สิงพูดออกมาราวกับคิดอะไรอยู่ในหัว “ทำไมคุณต้องไปขอความช่วยเหลือจากเขา ทำไมไม่มาขอผมล่ะ?”

“เพราะฉันอาจจะใส่ร้ายคุณยังไงล่ะ…..” เวินจิ้งยังคงหลับตา เริ่มง่วงขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็แผ่วเบาลง

“งั้นเหรอ?” เขากลับรู้สึกน่าสนใจ จากนั้นจึงดันเธอออกเบาๆ “ใส่ร้ายยังไงล่ะ?”

“เปล่าๆ ฉันก็แค่ให้เขาช่วยหารองประธานคนใหม่ให้น่ะ”

พูดจบ เวินจิ้งก็หลับไปจริงๆ ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาอีก

มู่วี่สิงมองใบหน้านิ่งสงบของเธอ ผิวของเธอขาวเนียน ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ทุกส่วนบนใบหน้าดูสมบูรณ์แบบราวกับเป็นเด็กสาววัยรุ่น

แต่ว่า เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

“ไปนอนบนเตียงเถอะ คนดี” มือของเขาลูบหลังของเธออย่างไม่หนักไม่เบา เอ่ยพูดด้วยเสียงทุ้มหนักเล็กน้อย

เวินจิ้งส่งเสียง “อื้อ” ออกมาโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็นอนนิ่งต่ออย่างขี้เกียจ ชายหนุ่มจนปัญญา จึงตัดปัญหาด้วยการอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาว หลังจากวางเธอลงบนเตียง ก็เปิดไฟบนหัวเตียงเอาไว้ จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำไป

ห้องนี้เป็นห้องเตียงคู่ เตียงทั้งสองไม่ได้ใหญ่มาก ตอนที่มู่วี่สิงเดินออกมาเขาสวมใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำ จากนั้นก็เดินมาเอนกายนอนลงข้างๆเวินจิ้ง

เธอหลับตา ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกได้ชัดว่าเธอกำลังหลับ แต่พอเขาขยับเข้าไปใกล้ เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกตัวหนีพร้อมพูดพึมพำอะไรสักอย่าง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท