Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 633

ตอนที่ 633

บทที่633 เขารู้ดี

สองวันมานี้เวินจิ้งก็อยู่แต่ที่บริษัทหลินซื่อ ยามง่วงก็พักงีบที่ห้องรับรอง เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเคลียร์เอกสารต่างๆ

จนกระทั่งวันที่สาม เวินจิ้งได้รับโทรศัพท์จากหยูจิ่งห้วน

“เวินจิ้ง ขอโทษนะที่ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับการผ่าตัดคนไข้ ไม่มีเวลาติดต่อมาหาคุณ” น้ำเสียงหยูจิ่งห้วนที่แหบและเหนื่อยล้า

“ช่วงนี้ฉันก็ยุ่งมากเช่นกัน” เวินจิ้งหลับตาลง แต่สมองกลับวนเวียนไปด้วยตัวอักษรและข้อมูลต่างๆ

ฉับพลันนั้นรู้สึกได้ว่าการรับมือกับผู้ป่วยเป็นอะไรที่ง่ายกว่าเยอะเลย

“เกิดอะไรขึ้น”

“พักนี้ฉันอยู่แต่บริษัทหลินซื่อเพื่อจัดการงานต่างๆค่ะ”

เสียงจากฝั่งหยูจิ่งห้วน ได้หยุดชะงัก ดูเหมือนจะเปลี่ยนสถานที่

“ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องเงิน ผมสามารถช่วยเหลือ…..”

“จิ่งห้วน ฉันรบกวนคุณมามากพอแล้ว ไม่เป็นไรจริงๆ” เวินจิ้งได้ขัดคำพูดของหยูจิ่งห้วนขึ้น

“ผมถูกส่งไปต่างประเทศสักระยะเวลาหนึ่ง” น้ำเสียงหยูจิ่งห้วน ที่ค่อนข้างหดหู่

ได้ยินดังนั้น อารมณ์เวินจิ้งค่อนข้างจะเงียบสงบ

ก็ดีเหมือนกันเพราะช่วงนี้เธอก็ไม่มีเวลานัดเจอเขาเช่นกัน

อีกทั้งตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าหยูจิ่งห้วน ได้อย่างไร

เธอไม่รู้ว่าจะสานต่ออย่างไรดีกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ เธอคิดว่าเธอจะสามารถทรยศความรู้สึกตัวเองให้พยายามไปชอบเขา เธอคิดว่าเธอจะสามารถทำได้

แต่เมื่อใดที่มู่วี่สิงปรากฏกายต่อหน้าเธอ เธอถึงรู้ได้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายที่ทำให้เธอกระวนกระวายใจได้นั้นมีเพียงแต่มู่วี่สิงผู้เดียวมาตลอด

“อย่างนั้นรอผมกลับมาแล้วเราค่อยคุยกันนะ”

“ผมอาจต้องไปหลายเดือน ผมไปเขตขั้วโลกเหนือน่ะ”

“ไกลจัง” เวินจิ้งประหลาดใจ

“ใช่ครับ ผมไม่อยากจากคุณไปเลย” หยูจิ่งห้วนพึมพำ

“จิ่งห้วน พวกเราเลิกกันเถอะ” เวินจิ้งพูดอย่างใจแข็ง

“ไม่ ผมไม่เลิก! เวินจิ้งผมจะไม่เลิกเด็ดขาด! คุณรอผมกลับมานะ!” น้ำเสียงหยูจิ่งห้วนที่ค่อนข้างจะตีโพยตีพาย

เวินจิ้งเม้มปาก “ได้ ฉันจะรอคุณกลับมา”

เมื่อวางสายลง หยูจิ่งห้วนได้ออกจากห้องตรวจโรค และตรงไปที่ห้องสำนักที่อยู่ชั้นบน

แต่ว่ามู่วี่สิงวันนี้ติดภารกิจผ่าตัด ดังนั้นเขาจึงต้องรออยู่สักพักถึงจะได้เจอกับเขา

“ผมไม่ไปเขตขั้วโลกเหนือแล้ว”

ได้ยินดังนั้นสีหน้ามู่วี่สิงก็ยังคงเฉยเมยเช่นเคยตั้งแต่ไหนแต่ไรมา “คุณไม่ไป อย่างนั้นการวิจัยและพัฒนานี้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ คุณต้องทราบว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่มีความสามารถพอและเพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์”

“จิ่งห้วน การวิจัยและพัฒนานี้คุณเป็นคนรับปากที่จะทำเองตั้งแต่แรก” มู่วี่สิงเตือนสติเขา

หยูจิ่งห้วนที่หน้าตาเคร่งเครียด หยุดพูดไปชั่วขณะ

มู่วี่สิงพูดถูก

ถ้าหากเขาไม่ไปเขตขั้วโลกเหนือ การวิจัยและพัฒนานี้ก็คงต้องหยุดชะงัก

อย่างนั้นสิ่งที่โรงพยาบาลทุ่มเทและบริษัทที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ก็คงได้รับความเสียหาย แล้วใครเล่าจะเป็นผู้แบกรับความรับผิดชอบนี้

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เขารู้ดีอยู่แก่ใจ ดังนั้นเขาไม่ไปไม่ได้

เพียงแต่เวลานี้ เขาคิดว่ามันเร็วเกินไป

“ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ” หยูจิ่งห้วนกุมขมับด้วยความหงุดหงิด

“หรือบางที ถ้าคุณจะลาออก” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไม่มีทาง” หยูจิ่งห้วนพูดอย่างหนักแน่น

เขาเคยสาบานต่อหน้าครอบครัวตระกูลหยูว่า เขาจะอยู่ที่โรงพยาบาลหนานเฉิงพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เขาก็เป็นหมอที่มีความสามารถ

ตอนนี้ความสำเร็จยังไม่เกิดก็คิดจะท้อถอย เหมือนเป็นการตบหน้าตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

“ผมทราบแล้วครับ”

มู่วี่สิงมองดูหยูจิ่งห้วนจากไป คิ้วค่อยๆขมวดขึ้น ความพะวงในแววตาค่อยๆจางหายไป

ตรงหน้าคือเอกสารที่ตรวจสอบเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อ สายตาของเขาจดจ่อไปที่รายชื่อของโจวเซิน จ้องอยู่นานโดยไม่ได้ละสายตา

ตอนพลบค่ำขณะที่เวินจิ้งเพิ่งทำการประชุมเสร็จ เธอถึงกับวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย

ถ้าหากไม่มีหซู่เฟินอยู่เคียงข้าง เธอคงไม่มีทางที่จะจัดการเรื่องต่างๆให้ดีได้

“คุณเวินคะ คุณแค่ขาดประสบการณ์ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ค่อยเป็นค่อยไปแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองค่ะ “หซู่เฟินพูดปลอบประโลม

อันที่จริงประสิทธิภาพที่เวินจิ้งได้แสดงออกมาดีเกินกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก อย่างน้อยๆก็มีการจัดการเรื่องต่างๆได้อย่างรวดเร็วมีปฏิญาณไหวพริบและมีความคิดเป็นของตัวเอง

“ก็เพราะมีผู้จัดการหซู่อย่างคุณคอยแนะนำไงคะ ไม่เช่นนั้นฉันคงต้องมือไม้อ่อนทำอะไรไม่ถูกแน่ๆเลยค่ะ” เวินจิ้งยิ้ม

“วันนี้คุณรีบกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะค่ะ ช่วงนี้ทุกคนต่างทำงานหนักมามากแล้ว”

“อืม ฉันดูเอกสารเหล่านี้เสร็จแล้วก็จะกลับ” เวินจิ้งหยิบแฟ้มงานที่อยู่ตรงหน้าขึ้น

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงสี่ทุ่มกว่าเวินจิ้งถึงได้ออกจากที่นี่ไป นี่เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่เธอก้าวออกมาจากบริษัทหลินซื่อ อากาศเริ่มร้อนขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว เป็นอากาศที่ค่อนข้างจะน่าเบื่อเล็กน้อย

ท้องเริ่มร้องเรียกหาอาหาร แต่เธอไม่อยากขับรถ จึงได้เดินไปที่ร้านอาหารที่เธอมักจะไปทานประจำ

แต่ว่าแค่เดินถึงระเบียงทางเดิน ก็มีร่างที่คุ้นเคยสองคนกำลังเดินตรงมา

ดูเหมือนเท้าของเธอจะหยุดชะงัก ก้าวไม่ออก

“คุณเวิน” ไป๋ซียังจำเวินจิ้งได้ จึงได้ทักทายกับเธอขึ้น

ใบหน้าเวินจิ้งที่ไม่มีรอยยิ้มใดๆ แค่พยักหน้ารับเบาๆ

สายตาของมู่วี่สิงจ้องมองมาที่เธออย่างมิอาจปิดบังได้ เมื่อเดินผ่านเวินจิ้งจึงถามขึ้นทันทีว่า “ทานข้าวคนเดียวหรือ”

“ใช่ค่ะ”

เวินจิ้งรีบเดินเข้าร้านอาหารไปหลังจากที่ตอบคำถามเสร็จ

สายตามู่วี่สิงยังคงจ้องมองไปที่เธออย่างไม่ละสายตา เมื่อเดินออกมาจากร้านอาหาร มู่วี่สิงได้สั่งคนขับรถให้ส่งคุณไป๋ซีกลับไปก่อน

“คุณมู่ คุณมีธุระหรือ”

“ครับ” มู่วี่สิงพยักหน้าเบาๆ

แต่ไป๋ซีอ่านออกความรู้สึกลึกๆบางอย่างจากแววตาของเขาได้

เธอหันกลับไปมองร้านอาหารอีกครั้ง

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เวินจิ้งออกจากร้านอาหารหลังทานอาหารเสร็จ

รูปร่างสูงยาวที่อยู่หน้าประตูได้สะดุดเข้ามาในดวงตา

เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงยาวสีดำ ลักษณะผู้ดีท่าทีที่สง่า ดึงดูดสายตาจากผู้คนให้เหลียวมองโดยอัตโนมัติ

เมื่อเขาเหลียวหันมา เวินจิ้งก็รีบดึงสายตากลับแล้วเดินไปทางอื่นแทน

แต่ว่ามู่วี่สิงกลับเดินติดอยู่ข้างๆเธอ แทบจะไม่มีช่วงระยะห่างระหว่างพวกเขาสองคน

“คุณตามฉันมาทำไม” เธอหยุดเดินด้วยความไม่พอใจ

“ผมก็จะเดินไปทางนี้เช่นกัน” มู่วี่สิงพูดขึ้น

เวินจิ้งไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด

เมื่อสักครู่ไป๋ซีไม่ใช่อยู่กับเขาหรือ

ไปไหนเสียแล้วตอนนี้

“เธอกลับไปแล้ว” มู่วี่สิงที่ดูเหมือนจะรู้ทันความคิดเธอ

“ฉันไม่ได้อยากรู้สักหน่อย” เวินจิ้งพูดอย่างปากไม่ตรงกับใจ

“ใช่หรือ” มู่วี่สิงเผยอริมฝีปากขึ้น

“สาวข้างคุณนี่ไม่น้อยเลยจริงๆ” คำพูดเวินจิ้งพกความโกรธนิดๆ

เมื่อสักครู่ตอนทานข้าวอยู่ในสมองก็คิดฟุ้งซ่านความสัมพันธ์ระหว่างมู่วี่สิงกับไป๋ซี

มีเพียงพวกเขาแค่สองคน และไป๋ซีคงไม่ใช่ลูกน้องของมู่วี่สิง หรือว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคือความสัมพันธ์แบบนั้นที่ไม่อาจจะอธิบายได้

ด้วยมู่วี่สิงมีหน้าการงานที่ดี ข้างกายเขาจึงมักมีผู้หญิงรายล้อมตลอดเวลา

เพียงแต่ เขากับหลิงเหยา…..

“คุณกำลังหึงหรือ” มู่วี่สิงถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“คุณคิดมากไปแล้วค่ะ” เวินจิ้งโต้กลับทันใด

“คุณอยากทราบอะไร ถามผมได้เลยนะ” ดูเหมือนว่ามู่วี่สิงคืนนี้จะใจดีเป็นพิเศษ

ทั้งสองคนเดินไปอย่างช้าๆราวกับว่ากำลังเดินเล่นกัน

แต่เวินจิ้งกลับรู้สึกว่าเขาเดินชิดเกินจนแม้แต่อากาศก็ดูเหมือนจะแคบลงราวกับว่าต้องแย่งกันสูด

“ฉันไม่มีอะไรที่อยากถาม รบกวนคุณมู่ได้โปรดอย่าเดินตามฉันอีก”

เห็นว่ากำลังจะเดินถึงคอนโดตัวเอง เวินจิ้งที่ไม่อยากชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านอีก

“จิ้งจิ้ง ผมเคยให้โอกาสคุณ” มู่วี่สิงทิ้งประโยคสุดฉงนใจ ทำให้เธอถึงกับชะงักเดิน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท