Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 637

ตอนที่ 637

บทที่ 637เหมือนเป็นการทรมาน

เมื่อออกจากบริษัทหลินซื่อ เวินจิ้งที่นั่งอยู่ในรถ เวลาผ่านไปสักพักแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สตาร์ทเครื่องยนต์สักที

แน่นอนเธอจำที่อยู่คอนโดของมู่วี่สิงได้ แต่แค่ต้องการใช้เวลาในการทำใจก่อน จากนั้นเธอถึงค่อยๆเหยียบคันเร่งรถ

ชั่วโมงเร่งด่วนหลังเลิกงานได้ผ่านไปแล้ว แต่รถก็คงยังติด เวินจิ้งขับรถอย่างช้าๆ

จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เธอถึงจะขับมาถึงคอนโดมู่วี่สิง

เธอเคยเห็นโฆษณาของคอนโดนี้ ตามถนนตรอกซอยในประเทศF ว่ายามที่รักษาความปลอดภัยนั้นเข้มงวดมาก แต่คงเป็นเพราะว่ามู่วี่สิงได้แจ้งไว้ล่วงหน้า ดังนั้นเธอจึงเข้าไปได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้ถูกกั้นแต่อย่างใด จนกระทั่งมาถึงชั้นบนสุด

เธอกำลังคิดว่ามู่วี่สิงนั้นไม่ได้อยู่ที่ประเทศFตลอดเวลา รอเขากลับไปที่เมืองหนาน จากนั้นเธอก็คงจะได้รับอิสระเหมือนเดิม

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ความอึดอัดที่มีก็เริ่มผ่อนคลายลงในทันใด

เดินมาถึงจุดนี้ได้ ก็ไม่ทราบว่าเป็นด้วยสาเหตุใด

ระหว่างคนสองคนทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้

เวินจิ้งยิ้มอย่างขมขื่น แม้แต่ของใช้ของตัวเองเธอก็ไม่ได้ขนมา เธอตรงไปที่ห้องนอนแล้วเปิดดูตู้เสื้อผ้า ในนั้นมีชุดนอนผู้หญิงหลายชุดที่ไม่เคยถูกเปิดใช้มาก่อนวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ทั้งหมดเป็นขนาดเท่าตัวของเธอ

ขณะที่เธอฉงนใจอยู่นั้น มีความเคลื่อนไหวที่ห้องรับแขก

เวินจิ้งออกไปทั้งที่เท้าเปล่า แต่มู่วี่สิงได้เดินเข้ามา มือข้างหนึ่งที่กำลังปลดกระดุมอยู่ เมื่อเห็นเธอริมฝีปากก็เผยอขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อย่าดื้อน๊า”

เวินจิ้งพิงอยู่ข้างประตูมองดูห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ถ้าเทียบกับชุดห้องเรือนหอของพวกเขาเมื่อตอนที่อยู่เมืองหนานแล้ว ที่นี่ช่างดูเหมือนไร้ซึ่งอุณหภูมิไร้ซึ่งความรู้สึกสิ้นดี

“คุณจะอยู่ยาวประเทศFเลยไหม” เวินจิ้งถามเรื่อยเปื่อย

“ใช่” คำตอบมู่วี่สิงทำให้เวินจิ้งที่อารมณ์กำลังดีกลับรู้สึกหดหู่ขึ้น”

มู่วี่สิงไม่รู้ตัวว่าเดินไปตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไร ก้มหัวลงแล้วจูบเข้าที่ริมฝีปากของเธอ แล้วยิ้มเบาๆ “ไม่ดีใจหรือ”

“ไม่ใช่” เวินจิ้งยิ้มเจื่อนๆ

“หลิงเหยาอาจจะทราบความสัมพันธ์ระหว่างเราได้”

“ไม่มีทาง”

“อ่อ แล้วความสัมพันธ์ของเราแบบนี้จะดำเนินไปถึงเมื่อไร” เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมองเขา

“จนกว่าผมจะเบื่อ” น้ำเสียงมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเย็นชา

จบประโยค ฝ่ายชายก้าวเท้ามุ่งตรงไปที่ห้องหนังสือ ห้องหลังใหญ่เช่นนี้เวินจิ้งรู้สึกถึงความอ้างว้าง คำพูดของมู่วี่สิงที่ไร้ความปรานีได้วนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สถานะเช่นนี้ เธอเองก็รู้สึกสุดที่จะเหลือทน

หมุนตัวแล้วตรงไปที่ห้องอาบน้ำ เธอปรับอุณหภูมิของน้ำอยู่ในระดับสูงสุด แล้วยืนนิ่งอยู่ใต้ฝักบัวโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

จนกระทั่งปลายนิ้วที่แช่น้ำนานจนเริ่มเหี่ยว เธอถึงได้เดินตัวเปียกออกมาจากห้องอาบน้ำ จากนั้นก็เป่าผมจนแห้งแล้วทอดกายลงบนเตียง

ความจริงแล้วเธอยังไม่รู้สึกง่วงนอน นาฬิกาข้างฝาบอกเวลาว่าตอนนี้เพิ่งจะสี่ทุ่มเอง

เวินจิ้งปิดไฟ ทอดกายลง แล้วข่มตานอน

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่เธอกลับยิ่งนอนตายิ่งสว่าง

จนกระทั่งมีคนเปิดประตูเข้ามา แล้วเตียงก็ค่อยๆยุบลง เธอจึงได้เขยิบไปข้างเตียง

มู่วี่สิงที่ยังไม่ทอดกายลงบนเตียง แต่กลับอ้อมไปอีกฝั่ง แล้วโน้มตัวลง

“ถ้ายังไม่หลับ เรามาทำอะไรกันก่อนดีไหม”

น้ำเสียงที่นุ่มนวล ฝ่ามือที่ค่อนข้างเย็นค่อยๆลูบไล้วนอยู่รอบเอวเธอ

เวินจิ้งตัวแข็งทื่อ แต่ก็ไม่กล้าที่จะห้ามมู่วี่สิง เพียงแต่พึมพำออกมาว่า “วันนี้ฉันเหนื่อยมากเลย”

แต่เขากลับทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดเธอ มือยังคงค่อยๆลูบไล้ไปทั่ว ส่วนปากจูบไซ้ที่ซอกคอของเธอ

“เหนื่อยหรือ รอคุณไปบริษัทหลินซื่อในวันพรุ่งนี้ คุณก็จะหายเหนื่อยไปเอง”

เวินจิ้งถึงกับลืมตาขึ้น ไม่เข้าใจในสิ่งที่มู่วี่สิงพูด

เพียงแต่ว่าในเมื่อเธอรับปากกับมู่วี่สิง ก็จะไม่มีทางผิดสัญญา

ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดความสัมพันธ์แบบนี้

แต่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอยังคงหลงระเริงไปกับความอ่อนโยนอันจอมปลอมที่เขาได้สร้างขึ้น

เวินจิ้งที่นอนลง เอียงหน้ามองด้วยแววตาเรียบเฉย มู่วี่สิงถึงกับออกอาการหงุดหงิด

เขาไม่ชอบเวินจิ้งที่เป็นแบบนี้ ไม่ชอบสักนิดเดียว

แต่ว่าอารมณ์เช่นนี้ดำเนินไปเพียงชั่วครู่ เขาก็กลับเข้าสู่สภาวะเฉยเมยเช่นเคยอย่างรวดเร็ว

เขาค่อยๆปลดกระดุมเธอออกทีละเม็ดๆ นัยน์ตาที่ลุ่มลึกของเขาได้แทะโลมไปช่วงไหล่ลงไปไหปลาร้าที่สวยงามของเธอ

เขาชอบส่วนนี้ของเธอมาโดยตลอด ไหล่ที่บางอ่อนนุ่ม และดูไม่ผอมเกิน สมกับเวินจิ้งที่ได้ชื่อกระดูกผีเสื้อจริงๆ เธอดูเหมือนกับผีเสื้อที่ปีกไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว ดูประณีตและงดงาม

มู่วี่สิงบรรจงจูบอย่างอ่อนโยน ค่อยๆประทับรอยจูบของตัวเองไว้บนตัวเธอ

ในค่ำคืนที่เงียบสงัด เวินจิ้งที่พยายามปลดปล่อยอารมณ์ให้คล้อยตาม ราวกับว่ากำลังดื่มด่ำ แต่ในความเป็นจริงสำหรับเธอเหมือนกับเป็นการทรมานมากกว่า

เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นฉับพลัน เวินจิ้งเดิมทีไม่ได้สนใจ แต่ว่าเสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่อง ดังเกือบจะครึ่งนาทีได้ เสียงนั้นถึงได้หยุดลง

มู่วี่สิงจึงได้หยุดการเคลื่อนไหวของร่างกาย พยุงร่างของเขาขึ้นแล้วเอื้อมไปหยิบมือถือของเวินจิ้งมา เขาเห็นสายโทรเข้ากะพริบที่หน้าจอแล้วยิ้มขึ้นเบาๆ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เวินจิ้ง “รับสิ”

เวินจิ้งที่ตัวมีเหงื่อไหลนิดๆ กระทบเข้ากับปอกโทรศัพท์ที่เย็นเฉียบนั้น ตัวเธอถึงกับสั่นกระตุกไปหนึ่งที

เมื่อเห็นสายที่โทรเข้ามา เธอถึงกับตาสว่างฉับพลัน

จิตใต้ลึกๆของเธออยากจะกดวางสายนั้นทิ้งไป

เพียงแต่มือเจ้ากรรมดันไปกดโดนรับสาย

เวินจิ้งทำได้แค่เพียงควบคุมลมหายใจตัวเองแล้วพูดขึ้นเบาๆ “จิ่งห้วน”

“ต้องขอโทษด้วยเวินจิ้ง สองสามวันมานี้ที่เขตขั้วโลกเหนือไม่มีสัญญาณเลย ตอนนี้พวกเรากำลังจะออกจากที่นี่ พอมีสัญญาณผมรีบติดต่อคุณทันที” น้ำเสียงหยูจิ่งห้วนดูตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ที่มากไปกว่าความตื่นเต้นคือความดีใจ

ในที่สุดเขาก็สามารถกลับเมืองหนานได้แล้ว

เขาจะได้เจอกับเวินจิ้งสักที

แต่ว่าเวินจิ้งกลับดีใจไม่ออก หนำซ้ำอยากจะร้องไห้ออกมา

“ก็ดีแล้ว” เธอตอบรับ อยากจะลุกขึ้นนั่ง เพียงแต่เวลานี้มู่วี่สิงได้บรรจงจูบอยู่ที่แก้มเธอแล้วจูบลงไปเรื่อยๆ จรดถึงติ่งหูของเธออย่างช่ำชอง

เธอพยายามที่เลี่ยงหนีเขาเพื่อให้เสียงของตัวเองฟังดูปกติที่สุด

แต่ว่าหยูจิ่งห้วนยังคงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเวินจิ้ง “เวินจิ้ง……คุณเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า”

เวินจิ้งที่ไม่สามารถพูดต่อไปได้จริงๆ จึงได้ตัดสายทันทีแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไป

มู่วี่สิงทำตามที่เขาพูดไว้จริงๆ ว่าจะทำให้หยูจิ่งห้วนกลับมา

แบบนี้ก็ดี ดีที่สุดเลย

แต่เวลานี้ สายตามู่วี่สิงได้จ้องมองเธอตลอด แววตาปรากฏความเย็นชาที่คอยเชือดเฉือน

“ในเมื่อตกลงปลงใจกับผมแล้ว อย่างนั้นคุณกับหยูจิ่งห้วนก็สมควรที่เลิกกันถูกต้องไหม” มู่วี่สิงได้ยื่นข้อเสนอด้วยน้ำเสียงที่คุกคาม

เวินจิ้งกัดปากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทันใดนั้นจึงได้ผลักชายที่อยู่ตรงหน้าให้พ้นออกไป แล้วลุกขึ้นจากเตียง แต่ด้วยความตื่นตกใจ เข่าของเธอไปกระแทกเข้ากับหัวเตียง จึงทำให้เธอซวนเซล้มลง

แต่ฝ่ายชายกลับยังคงจ้องมองเธอที่ล้มลงอย่างเย็นชา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท