Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 653

ตอนที่ 653

บทที่ 653 ไม่รู้อะไรเลย

หยูจิ่งห้วนยืนยันเวลากลับมาประเทศของเวินจิ้ง เขากับเธอพูดคุยกันเป็นเวลานาน เธอพูด“เรื่องนี้ทำให้ลำบากใจรึเปล่า?”

เขาหัวเราะอย่างไม่แยแสก่อนพูด “ก็แค่ช่วยเพื่อน เรื่องเล็กน่า”

เขาหยุดไปพักนึง ก่อนพูด “เขากำลังมองหาข้อเสนอที่เหมาะสม ถ้ามันโอเคเขาก็เลือก”

เวินจิ้งยิ้มเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “คืนนี้งานเลี้ยงของสมาคมแพทย์ประเทศ F จะไปหรือเปล่า? ”

“เธออยากจะไปไหมหละ?” หยูจิ่งห้วนย้อนถาม

“ยังคิดอยู่เลย”

“ไปสิ จะได้ไปด้วยกัน”

หลังจากวางสาย เวินจิ้งมองเอกสารตรงหน้าเธออย่างเหนื่อยล้า ไม่นานก็ได้ยินเสียงเลขาของเธอเคาะห้องก่อนผลักประตูจะเข้ามา “ประธานเวินคะ คุณหลิงมาพบค่ะ”

“คุณหลิง?” เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น ในเวลานั้นเธอนึกถึงหลิงเหยาขึ้นมา

แต่ หลิงเหยามาหาเธอทำไมกันล่ะ?

“เวินจิ้ง เราต้องคุยกัน” หลิงเหยาจิกรองเท้าส้นสูงเดินย่ำเข้ามา

ภายในออฟฟิศ หญิงสาวสวยสองคนกำลังนั่งประจันหน้ากัน

“ไม่คิดเลยว่าเธอจะละมือจากโรงพยาบาลเพื่อจะมารับช่วงต่อที่บริษัทหลินซื่อ” คำพูดของหลิงเหยาเจือเสียงถากถาง

สีหน้าของเวินจิ้งยังคงเงียบสงบอ่อนโยนเช่นเดิม “มีอะไรก็พูดมา”

หลิงเหยามุ่นคิ้ว หรี่ตาลงเล็กน้อย “ฉันรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับวี่สิงตอนนี้”

“แล้วยังไง?” ใจของเวินจิ้งยังคงสงบนิ่ง

ช่วงนี้เธอไม่รู้ว่าทำไมมู่วี่สิงเหมือนสาบสูญหายไปจากวงจรชีวิตและไม่มาหาเธออีก หรือว่าจะเปลี่ยนใจกลับไปใส่ใจกับหลิงเหยาแล้ว

หรือบางที เขาอาจจะเบื่อเธอแล้ว

ไม่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ก็ตาม มันก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย

“ฉันไม่ต้องการให้เธอทำร้ายเขา ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่แต่งงานกัน แต่คนเขาก็รู้กันหมดแล้ว ว่ายังไงฉันก็คือภรรยาของเขาในอนาคต”

“สามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้แต่ง” เวินจิ้งพูดสวนกลับไปอย่างไม่คิด

“เวินจิ้ง ถึงยังไงฉันก็ต้องได้แต่งงานกับเขา”

“โอ้ ฉันไม่คิดจะสนเรื่องของพวกเธอหรอกนะ”

“’งั้น เธอมาที่นี่เพื่อที่จะบอกฉันว่ายังไงเธอก็จะแต่งงานกับมู่วี่สิง แล้วก็หวังให้ฉันไม่เข้าไปแทรกกลางระหว่างเธอกับเขาใช่ไหมล่ะ?”

หลิงเหยามองไปยังเวินจิ้ง ท่าทีไม่แยแสของเธอทำให้หลิงเหยาหงุดหงิดใจ

เธอแค่คิดที่จะยั่วโมโห แต่อารมณ์ของเธอมันทำให้หล่อนแปลกใจเป็นอย่างมาก

“เธอควรพูดกับมู่วี่สิง เขาต่างหากที่มาตอแยกับฉัน พูดให้ถูก ฉันคือผู้ถูกกระทำนะ”เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น

หลิงเหยาคุมผู้ชายตัวเองไม่อยู่ จนต้องตามมาจิกเธอเลยหรือนี่

เธอพยายามทุกวิถีทางที่จะหนีไปให้พ้นเขา แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอยู่ดี

“เวินจิ้ง มู่วี่สิงเขาเกลียดเธอ เขาอยู่ข้างๆเธอก็เพื่อที่จะทรมานเธอเท่านั้น ไม่ใช่รึไง?” หลิงเหยาจิบน้ำ น้ำเสียงเธออ่อนลง

“เธอรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงเกลียดฉัน?” เวินจิ้งถาม

เธออยากรู้นัก ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุผลที่มู่วี่สิงเลิกกับเธอเมื่อสามปีก่อน จนกระทั่งไปแต่งงานกับโจวหย่าน

ถึงจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ตอนนั้นเธอเองก็กลับไปยังเมืองหนานไม่ได้

ราวกับโชคชะตาได้หมุนให้เธอกับเขาแยกกันมาตั้งแต่แรก

“เพราะตอนเธอไป มู่ซือซือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต” หลิงเหยาพูดช้าๆชัดๆ เธอมองเห็นสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไปของเวินจิ้ง

เวินจิ้งเบิกตากว้างขึ้น เรื่องการตายของมู่ซือซือ เรื่องนี้มู่วี่สิงเคยบอกเธอ

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?

“เธออย่าคิดที่จะปัดความรับผิดชอบ เธอไม่รู้เหรอว่าการตายของซือซือมันโหดร้ายแค่ไหน เธอนั่นแหละที่เป็นคนทำให้เธอตาย”

เวินจิ้งตัวสั่นเทา ดวงตาเบิกโพลง

หลังจากหลิงเหยาออกไป ภายในออฟฟิศที่ว่างเปล่านั้นมีเพียงแค่เธอ

เธอใช้นิ้วนวดระหว่างคิ้ว ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องที่พึ่งฟังจบ คิดไม่ตกกับสิ่งที่ได้ยิน

แต่ปีนั้น ทำไมเกิดอุบัติเหตุกับมู่ซือซือกันนะ เธอไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ

… …

ตอนเย็น

เวินจิ้งสวมชุดราตรีสีชมพูอ่อน บนคอระหงประดับด้วยสร้อยไข่มุกแวววาว

ช่างทำผมกำลังเป่าผมให้เธอ พลางพูดเสียงต่ำ “คุณเวิน ผมคุณหนามากจนน่าอิจฉาเลยค่ะ ”

เวินจิ้งแค่ยิ้มตอบ สายตาทอดไปยังรองเท้าส้นสูงข้างๆ “เปลี่ยนเป็นรองเท้าส้นแบนให้หน่อยนะคะ”

“คู่นี้ …… ” ช่างแต่งตัวมีท่าทีลังเล เพราะรองเท้าคู่นี้สั่งทำมาเพื่อให้เข้ากับชุดราตรีของเวินจิ้ง

แต่เมื่อเห็นท่าทีที่เริ่มไม่พอใจของเธอ ในท้ายที่สุดจึงจัดการเปลี่ยนคู่ใหม่ให้แต่เป็นสีเดิม เวินจิ้งยืนขึ้นอย่างพึงพอใจ

หยูจิ่งห้วนกำลังรอเธออยู่ข้างนอก

วันนี้หยูจิ่งห้วนสวมสูทสีดำดูหล่อเหลา เขาเปิดประตูให้เวินจิ้งด้วยท่าทีสง่างาม พลางผิวปากใส่เวินจิ้ง

เธอหันไปมอง เขาหันมาพูดกับเธออย่างยิ้มๆ “สวยที่สุด!”

เวินจิ้งยิ้มจาง ดึงคอเสื้อเขาอย่างไม่รู้ตัว

“ไม่ใช่ทางนี้” หยูจิ่งห้วนมองไปยังดวงตาเธอ ก่อนจะแสร้งว่าช่วย “ต้องดึงลงไปอีกหน่อย”

เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก วันนี้รถไม่ติด จึงใช้เวลาไม่นานในการมาถึงโรงแรมที่จัดงาน

งานนี้จัดขึ้นเฉพาะเพื่อการแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ เวินจิ้งลาออกจากโรงพยาบาลเหรินหมินแล้ว และอานเวยได้รับคำเชิญเหล่านี้ จึงได้ส่งมาให้เธอ

“เธอรู้ไหมว่างานนี้ใครรับผิดชอบ?” หยูจิ่งห้วนพูดขึ้นมา

“ใคร?” เวินจิ้งส่ายหัว เธอแค่รู้ว่ามีโรงพยาบาลดังมากมายเข้าร่วมในงานนี้ แต่จริงๆแล้วใครคือคนจัด เธอไม่อาจทราบ

“บริษัทมู่ซื่อกรุ้ป”

“โอ้” ใบหน้าเธอเรียบนิ่ง ซึ่งผิดกับการคาดการณ์ของหยูจิ่งห้วน“งั้นเขาก็มา?”

หยูจิ่งห้วนมองตรงไปยังดวงตาเธอ “เขามาแน่ แต่เดาแล้วคงอยู่ไม่นาน”

ในห้องโถงจัดงานใหญ่ แขกทั้งหลายกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส ส่วนเวินจิ้งกำลังคุยกับเพื่อนร่วมงาน ส่วนหยูจิ่งห้วนกำลังโดนหมู่มวลชนล้อมหน้าหลัง ตอนนี้เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการแพทย์ บัดนี้เขาโดนคนรอบข้างกลืนกินไปเสียแล้ว

เวินจิ้งละสายตา ก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในจากกระเป๋าขึ้นมา

เธอพิมพ์ข้อความไปสองสามประโยค ก่อนจะกดส่งออกไป เธอจัดแจงรูปลักษณ์ท่าทางของตัวเองผ่านกระจกที่ติดอยู่ข้างๆ

ในกระจกมีหญิงสาวหน้าตาหมดจด ปากอิ่มแดงสวย ฟันขาวราวกับไข่มุก และผิวที่เนียนละเอียดสะท้อนอยู่บนนั้น เวินจิ้งถลกชายกระโปรงเพื่อที่จะทำให้เดินสะดวก ก่อนที่จะออกจากห้องโถงไปอย่างเร็ว

อีกด้านหนึ่งของโรงแรมนี้เป็น Spa ตอนนี้อีกฝั่งกำลังจัดงานเลี้ยง ตรงนี้เลยดูท่าจะเงียบเป็นพิเศษ

ม่านน้ำตกไหลลงจากกระจกแก้วลงมา และเมื่อแสงตกกระทบลงบนน้ำจึงทำให้ดูแวววาวสวยกระจ่างใส

“คุณออกมาเถอะ” เธอพูดเบาๆ ในห้องที่เงียบกริบ เธอมองตรงไปยังนอกหน้าต่าง

ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก

เธอหันกลับมาดู ชายหนุ่มยืนห่างจากเธอไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ก็ยังไม่เข้ามาชิดจนเกินไป

“หาฉันอยู่เหรอ? หือ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนไป ริมฝีปากเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มจางๆ เพียงวินาทีเดียว เวินจิ้งกลับหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เธอเขย่งปลายเท้าจุมพิตที่ริมฝีปากของเขา มู่วี่สิงกลับไร้ซึ่งคำพูดทันใด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท