Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 659

ตอนที่ 659

บทที่ 659 หลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น

เวินจิ้งมองเขา ไม่ตอบคำถาม

กลิ่นเหล้าฉุนแรงลอยเข้าจมูก เธอรู้สึกว่าตัวเองแน่นหน้าอกอีกครั้ง จะหันเดินกลับเข้าห้อง

ฝีเท้าของเธอไม่รวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงมู่วี่สิงตามหลังมา

เธอคิดว่าเขาดื่มหนักคงจะพักที่ห้องรับแขก นึกไม่ถึงว่าขณะที่จะปิดประตู ทันใดนั้นก็ถูกขวางจากด้านนอก

เธอย่นคิ้ว หันไปมองอย่างไม่พอใจ มู่วี่สิงเข้ามาและปิดประตูแล้ว

“คุณทำอะไร!” เธอถามเสียงเกรี้ยว

“คุณคิดผมจะทำอะไรล่ะ” หลังจากเผชิญกับลมพายุรุนแรงเมื่อตอนกลางวัน เสียงของเขายังคงสุขุมได้ขนาดนี้

เธอรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของมู่วี่สิงก็ตอนนี้

ถึงแม้แต่ไหนแต่ไรเขาจะเป็นหลุมดำที่ไม่เคยมองเห็นก้นหลุม ยากที่จะรู้จักตัวตนของเขาแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้ ท่าทางที่เงียบสงบของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบาย ถึงขั้นรู้สึกถึงอันตรายที่แฝงอยู่ลึกๆ ยังไม่ทันระวังตัว ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ก็ผลักเธอลงบนเตียงแล้ว

ถึงแม้เธอรู้ว่าเขาจะกำลังจะทำอะไร แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เขาดื่มเหล้าหนักขนาดนั้น การกระทำยังคงว่องไวและดุดัน แต่ใบหน้าของเขาแทบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ

กระทั่งผิวเรียบเนียนเต่งตึงเผยให้เห็นในสายตา เขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง

แต่ก็เพียงแวบเดียว หลังจากนั้น มือข้างหนึ่งของเขาบีบคางเวินจิ้ง เธออดไม่ได้ที่จะลืมตาจ้องมองเขาด้วยความเจ็บปวด

“เสียใจมั้ย”

เวินจิ้งเอาแต่เม้มริมฝีปาก

เขาพูด “ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปอีก”

ในที่สุดสีหน้าของเวินจิ้งมีความรู้สึกขึ้นมาแวบหนึ่ง เธอถามน้ำเสียงเยาะเย้ย “คุณคิดว่าจะทำได้หรือ”

“ในสายตาของผม ไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้ รวมทั้ง ตัวคุณ” เขาถอดเสื้อผ้าของเธอ พลางมองด้วยสายตาเย็นชา “จิ้งจิ้ง คุณเป็นคนบีบผมเอง”

เวินจิ้งยิ้มน้อยๆ เธอบีบเขาหรือ

แต่ไหนแต่ไรเธอสิที่เป็นคนถูกบังคับ เธอจะเป็นคนบีบบังคับคุณหมอมู่ผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

เมื่อเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากของเวินจิ้ง สายตาของมู่วี่สิงยิ่งโกรธมากขึ้น การกระทำก็ยิ่งกักขฬะมากขึ้น

จิตใต้สำนึกเวินจิ้งคิดจะดิ้นรน แต่เธอไม่ใช่คู่ต่อกรของมู่วี่สิง เธออ่อนแอเกินไป ไม่นานสีหน้าก็ซีดเผือด แต่ปฏิกิริยาของร่างกายกลับกระตุ้นให้มู่วี่สิงบ้าคลั่งกว่าเดิม

ผมดำขลับของเธอแผ่สยาย คองามเรียวระหง เธออาจจะไม่ใช่ผู้หญิงสวยที่สุดที่เขาเคยพบเจอ แต่บุคลิกและกลิ่นอายของเธอ ทำให้เขายากจะลืมเลือน หลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น…

……

เวินจิ้งถูกปลุกให้ตื่น มองเห็นแสงแดดจ้านอกหน้าต่างก็รู้ว่าเมื่อคืนผ่านไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ มู่วี่สิงปฏิบัติต่อเธออย่างอ่อนโยนแล้ว แต่สองวันมานี้ เธอได้ลิ้มรสความรู้สึกที่แท้จริงอะไรเรียกว่าตกนรก

ผู้ชายคนนั้น คือปีศาจร้าย

เธอเคยคิดว่าเขาอ่อนโยนได้อย่างไร นั่นเป็นแค่หน้ากากเท่านั้น

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองดูเวลา เกือบเที่ยงวันแล้ว

ช่วงนี้หซู่เฟินกับรองผู้จัดการที่มารับตำแหน่งใหม่ช่วยจัดการธุระของตระกูลหลิน บางครั้งแม่ก็ไปที่ตระกูลหลิน แต่ตอนนี้เวินจิ้งยังคงรับตำแหน่งซีอีโอชั่วคราวเหมือนเดิม

เธอไม่รู้เมื่อไรมู่วี่สิงถึงจะยอมปล่อยเธอไป

อีกทั้ง เกรงว่าเขาจะไม่ปล่อยเธอกลับไปอีก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เวินจิ้งรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เขายังมีหลิงเหยาข้างกาย และลูกชายอีกคน แล้วยังอยากจะเก็บเธอไว้ข้างตัวเพื่อทรมานเธออีกหรือ

เขาไม่เพียงแต่เป็นปีศาจร้าย ยังเสียสติไปแล้ว!

เธอสูดหายใจลึก ปรับอารมณ์ของตัวเองให้ปกติ แต่ร่างกายยังคงรู้สึกไม่สบายมาก แถมแย่กว่าเมื่อคืนวานเสียอีก มีอยู่ที่หนึ่งเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ไหน

ด้านนอกคนรับใช้ทำอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เธอเพิ่งกินข้าวเสร็จ ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น

คนรับใช้ยังไม่กลับ ออกไปเปิดประตูถ่วงเวลาที่ด้านนอก

ขณะที่เวินจิ้งเดินไปถึง คนส่งของสีหน้างุนงง ขมวดคิ้วกลุ้มใจ “ที่อยู่ส่งดอกไม้คือที่นี่ ถ้าคุณไม่ยอมรับ ผมก็กลับไปส่งงานไม่ได้”

คนรับใช้เคยอยู่ที่การ์เด้นมูเจียวาน ทราบดีว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง เขายืนกราน “รับไม่ได้ ที่นี่ไม่เคยวางดอกไม้สด คุณติดต่อคนสั่งดอกไม้ยกเลิกเถอะ”

ช่อดอกกุหลาบสวยงามอ่อนโยนภายใต้แสงแดดส่งกลิ่นหอมชวนหลงใหล ยังมีหยดน้ำใสกลิ้งบนกลีบดอกไม้

เวินจิ้งรีบยื่นมือไปรับ หันกลับเข้าบ้าน “ฉันสั่งเอง เซ็นรับเถอะ”

เธอถือช่อดอกไม้เข้ามาในห้องนอนใหญ่ คนรับใช้เดินตามหลังเข้ามาด้วยความสงสัย “เอ่อ… คุณเวิน คุณมู่กลับมาจะทำอย่างไรดี”

“ฉันไม่สนเขา” เวินจิ้งไม่ได้หันกลับไป หาแจกันดอกไม้บนโต๊ะ เติมน้ำสะอาดในแจกัน จากนั้นก็ปักดอกไม้ลงไปทีละดอก

แจกันใบนี้เธอเป็นคนซื้อมาเมื่อสามปีก่อน แต่เมื่อซื้อมาแล้วถึงรู้ว่าใช้ไม่ได้ จึงเก็บไว้ตรงนั้นมาตลอด

หลังจัดดอกไม้เสร็จ เวินจิ้งชื่นชมดอกไม้อย่างพออกพอใจถึงกลับไปห้องนอนแล้วหลับไป

เมื่อก่อนทุกซอกมุมของการ์เด้นมูเจียวานไม่เคยมีดอกไม้สด เพราะมู่วี่สิงแพ้ละอองเกสรดอกไม้ เขาเคยให้ดอกไม้เธอช่อหนึ่ง ภายหลังเกาเชียนบอกเธอว่าเขาแพ้ละอองเกสร เธอถึงจะรู้เรื่องนี้

แต่คืนนี้มู่วี่สิงไม่ได้กลับมา อย่างน้อยก็ก่อนที่เวินจิ้งจะนอนหลับไป เขาไม่ปรากฏตัว

เวินจิ้งดีใจไม่น้อย ไม่เช่นนั้นตอนนี้เธอปวดท้องขนาดนี้ ไม่อาจทนรับความทรมานจากมู่วี่สิงเช่นนี้ได้อีก

วันรุ่งขึ้นท้องฟ้าสว่างเรื่อๆ คนรับใช้มาเคาะประตู “คุณเวิน คุณมู่ให้มาตามไปที่ห้องหนังสือ”

นับแต่เมื่อวานคนรับใช้มาอยู่ที่นี่ 24 ชั่วโมงแล้ว หลังจากนี้ มู่วี่สิงไม่ลงมือเตรียมอาหารให้เธอสามมื้อด้วยตัวเองอีก

“ไม่ไป” เวินจิ้งห่อตัวเองใต้ผ้าห่ม เธอส่ายศีรษะช้าๆ “เขามีเรื่องอะไร ก็ให้เขามาพูดเอง”

“แต่ว่า…”

คำพูดต่อท้ายของคนรับใช้พร่าเลือน เวินจิ้งขดตัว ไม่รู้ว่าเพราะเจ็บปวด หรือเพราะหวาดกลัวกันแน่

เธอกลัวอะไร

เธอจะกลัวไม่ได้

เธอกลั้นหายใจ ราวกับทำอย่างนี้ถึงจะคลายความเจ็บปวดลงได้บ้าง

ผลลัพธ์เช่นนี้ เธอคาดเดาไว้แล้ว

สามปีแล้ว เธอเรียนรู้ที่จะปล่อยมือจากเขา ระหว่างเธอกับเขาไร้ซึ่งเยื่อใยใดๆ อีก ทั้งสองไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม

ดังนั้น…เธอจะให้กำเนิดลูกของเขาได้อย่างไร…

อีกอย่าง เขามีลูกแล้ว แม่ของเด็กคนนั้น ก็คือว่าที่คุณนายมู่

ลูกของเธอ จะเป็นลูกนอกสมรสได้อย่างไร

ไม่มีวัน

แต่ทว่า ในที่สุดเธอยังไม่เด็ดเดี่ยวพอ ระหว่างที่ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ความคิดเดียวของเธอในเวลานั้นก็คือ ต้องรักษาเด็กคนนี้ไว้ ต้องรักษาชีวิตเขาให้ได้

แต่สวรรค์ไม่เป็นใจเกิดเรื่องไม่คาดคิด ลูกของเธอ ไม่มีทางรักษาไว้ได้ ต้องทำแท้งโดยเร็วที่สุด

ดังนั้นทุกอย่างจึงดำเนินตามแผนของเธออีกครั้ง เธอรู้ว่าเขาจะต้องสืบเรื่องที่เธอตกบันไดโดยละเอียด เพราะรู้ว่าเธอตั้งใจทำเช่นนั้น จึงโกรธเกรี้ยวจนทำบางเรื่องที่ไม่อาจช่วยได้

ตั้งแต่ตอนที่ไปถึงบ้านเก่าบนถนนอันหนิง เธอก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ช้าตัวเองจะต้องถูกเขาตามตัวเจอ

เธอยอมตามมาอย่างว่าง่าย ถึงขั้นใช้คำพูดยั่วยุเขา ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ขัดกับความปรารถนาของเธอ แต่มู่วี่สิงไม่รู้ตัวสักนิด

บางทีไม่ต้องใช้เวลานานนักเขาจะรู้ว่าตัวเองติดกับแล้ว แต่กว่าจะถึงเวลานั้น ทุกอย่างสายไปแล้ว สายไปแล้ว…

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท