Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 661

ตอนที่ 661

บทที่ 661 ไม่เชื่อในพระพุทธศาสนา

พูดถึงมู่วี่สิง สีหน้าพยาบาลเปลี่ยนเป็นตกใจด้วยความอิจฉาเล็กน้อย นึกแล้วพูด “ฉันเห็นเธอนอนหลับแล้ว ไม่ได้จะตื่นเร็ว ก็แค่อยากให้เขารอเสียเปล่า หรือว่าตอนเย็นหน่อยค่อยมาใหม่ แต่เขาก็ไม่ฟังฉัน นั่งอยู่คนเดียวที่โซฟา เกือบจะชั่วโมงแล้ว รินน้ำให้เขาก็ไม่ดื่ม มองดูเธออยู่ตลอด”

ได้ยินคำพูดนี้ เวินจิ้งตกตะลึงเล็กน้อย สายตาต่ำลง ตอบไปอย่างไม่รู้ตัว “ใช่เหรอ?”

“ใช่สิ เขานั่งอยู่คนเดียวนานมาก ฉันยังคิดว่ารอจนเธอจะตื่นขึ้นมา เขาไม่ใช่แฟนเธอจริงๆเหรอ?”

เห็นเวินจิ้งยังคงส่ายหน้า พยาบาลน้อยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย หรือว่าผู้ชายรูปหล่อเหมือนเทพบุตรจะแอบหลงรักเวินจิ้ง?

ไม่อย่างนั้นตอนเขาเหม่อลอย จะมีสายตาแบบนั้นได้อย่างไร?

ในเวลาเมื่อสักครู่นี้ เขามองเวินจิ้งอย่างเงียบๆ ไม่มีเสียง สายตาซ่อนความเจ็บปวดไว้อย่างลึก สายตาที่มองร่างเธอนั้น ตั้งใจขนาดเธอรินน้ำให้เขายังไม่สังเกตมอง

ถึงแม้เขาจะเคร่งขรึมตลอด แต่อารมณ์ของคนทั้งคนเด่นชัดมาก เหมือนไม่ต้องการถูกคนรบกวน

หลังจากที่คิดพิจารณาแล้วเธอพยายามอีกครั้ง สุดท้ายอดไม่ได้ที่จะเตือนเขา “คุณคะ ที่นี่ห้องคนไข้ห้ามสูบบุหรี่ค่ะ”

เขาเหมือนได้สติกลับมา เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองสูบบุหรี่ สีหน้าตกใจเล็กน้อย “ขอโทษครับ”

เขาเอากล่องบุหรี่และไฟแช็ควางไว้บนโต๊ะน้ำชา ไม่นานโทรศัพท์ไม่เสียงสั้นขึ้น ทันใดนั้นเขาก็ตัดสาย สายตายังคงอยู่จ้องอยู่ที่ร่างของเวินจิ้ง

เวินจิ้งพึ่งหลับไปเมื่อสักครู่ พยาบาลน้อยเตือนด้วยความหวังดี “คุณคะ คุณดื่มน้ำหน่อยเถอะค่ะ เกรงว่าคุณเวินอีกนานถึงตื่น”

ในเวลานั้นเขาเคร่งขรึม แล้วลุกขึ้นยืน กลับปฏิเสธอย่างมีมารยาท “ขอบคุณครับ ไม่ต้องแล้วครับ”

สิ้นคำพูด แล้วเดินไปที่ประตู

แต่เท่าหยุดอยู่ที่ประตู พูดเสียงอ่อยโยน “รบกวนดูแลเธอดีๆหน่อยนะครับ”

“นี้เป็นสิ่งที่ฉันควรทำอยู่แล้วค่ะ”พยาบาลน้อยสบตาที่ลึกซึ้งของเขา แววตานั้นสวยงามมาก ถึงขนาดทำให้เธอตกตะลึง ละสายตาไม่ได้

ผู้ชายพยักหน้าอย่างช้าๆ ตอบกลับด้วยเสียงเบาแล้วก็เดินจากไป

เพราะได้ยินเวินจิ้งปฏิเสธความสัมพันธ์ของเธอและมู่วี่สิง พยาบาลน้อยอดไม่ได้ที่จะอยากฟังเรื่องราวเกี่ยวกับมู่วี่สิง “งั้นเขาโสดเหรอ? มีหรือไม่มีแฟน?”

“ทำไมถามคำถามนี้?” เวินจิ้งถาม

พยาบาลเล็กยิ้ม “ก็พวกเราเพื่อนที่ทำงานหลายคนต่างแปลกใจ เขาส่งเธอมาโรงพยาบาล ต่อมาก็มาเยี่ยมเธอใบหน้าเขาถูกทุกคนคิดถึงตลอดเวลา หลายคนนั้นชอบเขา”

เวินจิ้งหลับตาลึก เหมือนรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย น้ำเสียงค่อยๆเย็นชา

“ฉันไม่ค่อยแน่ใจ”

พยาบาลน้อยเข้าใจคำพูดและสีหน้า น้ำเสียงของเวินจิ้งแบบนี้ พอจะเดาได้ว่ามีเรื่องในใจ แต่มีเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เขาเลยเปลี่ยนหัวข้อพูด หัวเราะแล้วพูด “ทุกคนต่างก็พูดว่ายิ่งกว่าหมอหยู ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เธอรู้ไหม? หมอหยูถูกพยาบาลเลือกให้เป็นคนหล่ออันดับหนึ่ง แต่เสียดายตอนนี้ย้ายไปประเทศF แล้ว”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และก็ไม่ได้คิดว่าจริงๆแล้วคุณหมอหยูคือใคร แค่หลับตาลง ฟังพยาบาลน้อยพูด

หลังจากสามปี หลังจากเธอผ่าตัดการฟื้นตัวถือว่าไม่เลว เธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

เธอจองตั๋วล่วงหน้ากลับประเทศF ร่างกายชีวิตเหมือนผ่านไปกับสายน้ำ เหมือนระหว่างเธอกับมู่วี่สิง ในที่สุดก็ไม่เกี่ยวข้องกันอีก นี้เป็นเพียงหนึ่งเดียว และเป็นการติดต่อนิดเดียวครั้งสุดท้าย ในที่สุด การผ่าตัดที่เยือกเย็นก็หยุดชะงักลง

กลับถึงประเทศ F เวินจิ้งพึ่งรู้ แม่ได้รับช่วงต่อเรื่องของบริษัทหลินซื่ออีกครั้ง แถมเธอมาอายุมากแล้ว ดังนั้นงานไม่น้อยให้บุคคลที่ไว้ใจจัดการ ตัวเองก็ไม่ยุ่งมาก

แถมเวินจิ้งก็ไม่ต้องรีบกลับไปโรงพยาบาล ช่วงเวลานี้ เธอยังต้องปรับอารมณ์ตัวเองดีๆ

อยู่ในคฤหาสน์โจว หลินเวยพึ่งไปดูงาน ดังนั้นไม่สังเกตเห็นว่าจริงๆแล้วเวินจิ้งร่างกายไม่ดี

หลังจากพักฟื้นหนึ่งอาทิตย์ ร่างกายของเวินจิ้งฟื้นตัวแล้วไม่น้อย อยากจะไปไหว้พระที่วัดบนภูเขาสักหน่อย

เดินออกไปนอกระเบียงนั้น สายตาเธอมองเห็นรถเก๋งสีดำคันนั้นอยู่ตรงประตูอย่างไม่รู้ตัว

จริงๆแล้วเวลานี้ โดยเฉพาะตอนเย็น เธอมักจะเห็นรถเก๋งคนนี้หยุดอยู่บนถนนเล็กข้างนอก บางทีก็หยุด อยู่ตลอดทั้งคืน

เธอขมวดคิ้ว อาทิตย์หนึ่งแล้วไม่ได้ออกไปไหน เธอไม่อยากทำตารางการเดินทางตัวเองล่าช้า

แค่ออกไปข้างนอก ทันใดนั้นมู่วี่สิงก็ลงมาจากรถ “ไปไหน?”

เวินจิ้งไม่ได้มองเขา พูดด้วยความเย็นชา “ฉันจะไปวัดบนภูเขา”

น้ำเสียงเธอนิ่งสงบ เหมือนไม่รู้สึกอะไร

มู่วี่สิงไม่ได้รับโทรศัพท์อีก แต่กลับเปิดประตูรถให้เธอ เห็นเวินจิ้งไม่ขยับ ถึงได้เอ่ยปาก “ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอ”

เวินจิ้งหันหัว รู้นิสัยของมู่วี่สิง ถ้าเธอไม่ขึ้นรถ คาดว่าคงตามตลอดทาง

เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น ถึงได้เข้าไปนั่งในรถ

บนถนน ทั้งสองคนปิดปากไม่พูดถึงเรื่องลูก

เมื่อก่อนคนของเขาพาเธอกลับมาที่การ์เด้นมูเจียวานเล็กนั้น เขาเคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอไม่เคยเห็นเขาเจ้าอารมณ์แบบนี้มาก่อน

ไม่นานเธอก็แท้งลูก หลังจากผ่าตัด เข้าโรงพยาบาลจนถึงออกโรงพยาบาล เห็นได้ชัดร่างกายและจิตใจที่ทุกข์ทรมาน แต่ทั้งหมดนี้ก็เหมือนโดนอัดอยู่มากมาย ไม่เพียงแต่ยังไม่ระเบิด จนกระทั่งทำมาดให้สงบ

เธอไม่อยากรู้มู่วี่สิงคิดอย่างไร เธอมองเขาไม่ค่อยออก

แต่เขาจะมีร่องรอยความเจ็บปวดและรู้สึกผิดบ้างไหม อาจจะไม่ เขาเกลียดเธอมากขนาดนี้ ยังคิดว่าการตายของมู่ซือซือเกี่ยวข้องกับเธอ เขามาเป็นห่วงได้อย่างไร?

เห็นเธอเจ็บปวดทรมาน จริงๆเขารู้สึกสบายใจถึงจะใช่สินะ

บนภูเขากำลังซ่อมถนน รถใหญ่เล็กไม่สามารถจราจรไปต่อได้ เขาทำได้แค่เอารถจอดไว้ที่ตีนเขา เปลี่ยนมานั่งกระเช้าไฟฟ้าไป

เวินจิ้งไม่ค่อยสมัครใจ ลังเลอยู่สักพัก จนกระทั่งกระเช้ามาถึงด้านหน้าเขา

มู่วี่สิงอยู่ข้างๆมองเธอ ยืนมือให้เธออย่างเป็นธรรมชาติ เธอลังเลใจสักพัก ยังคงกัดริมฝีปาก จับมือเขาขึ้นไปบนกระเช้า

ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่มีชื่อเสียงของประเทศF เข้าใกล้ยอดเขาตำแหน่งของวัด เพราะนักท่องเที่ยวเดินไม่น้อย แถมประชากรทั่วไปของประเทศF เชื่อพระพุทธศาสนา หนึ่งปีสี่ฤดูในวัดเจริญเฟื่องฟูการเซ่นไหว้

หลังจากกระเช้ามาถึง ยังห่างจากวัดอีก สามารถได้ยินเสียงพระอย่างคลุมเครือ

มู่วี่สิงมองเวินจิ้งล้างหัวอย่างตั้งใจ จากนั้นก็จุดธูป คุกเข่าต่อหน้าพระพุทธรูปและขอพรอย่างจริงใจ

เวินจิ้งแบบนี้ สำหรับมู่วี่สิงแล้วแบบนี้รู้สึกแปลกๆ

ในสายตาเขา เธอสับสนอยู่บ่อยๆบ้าง เมื่อก่อนถึงขนาดไม่เชื่อเรื่องพวกนี้

เวินจิ้งคุกเข่าอยู่นาน นานถึงขนาดคนไหว้พระรอบข้างไปมาเคลื่อนย้ายค่อยๆรู้สึกไม่มีเหตุผล ในที่สุดก็เอาความในใจมาพูดจนหมด จากนั้นไหว้พระอยู่กับพื้น

เธอไม่เชื่อในพระพุทธศาสนา แต่เวลานี้ มีแค่ที่นี่ที่สามารถทำให้ในใจเธอสงบขึ้นมาหน่อย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท