Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 664

ตอนที่ 664

บทที่ 664 คนต่อไปที่จะเกิดเรื่อง

ครึ่งเดือนต่อมา ชีวิตของเวินจิ้งนั้นคือโรงพยาบาลและคฤหาสน์โจวสองที่

งานยุ่งทุกวันทำให้เธอไม่มีเวลานึกถึงอย่างอื่น ถึงแม้สุดสัปดาห์จะมีเวลาว่าง ก็ไปช่วยแม่จัดการธุระของบริษัทหลินซื่อ

แค่ ชีวิตสงบอยู่ได้ไม่นาน รับโทรศัพท์ของแม่นั้น เวินจิ้งพึ่งผ่าตัดเสร็จ

โจวเซิ่งเกิดอุบัติเหตุตกบันไดได้รับบาดเจ็บหนัก ทันใดนั้นหลินเวยก็จองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตอนนี้โจวเซินฮึกเหิมทะเยอทะยาน เธอไม่วางใจให้แม่ไปคนเดียวอย่างแน่นอน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?” หยูจิ่งห้วนพึ่งตรวจโรคเสร็จ เห็นสีหน้าซีดของเวินจิ้ง ถามด้วยความกังวลใจ

“ฉันจะต้องลากงานแล้ว”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ

“อืม คนป่วยในมือเธอฉันช่วยรับช่วงต่อเธอเอง วางใจเถอะ” หยูจิ่งห้วนพูดอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งมองชายตรงหน้า เขาดูแลเธออยู่เสมอ

แต่เธอไม่มีวิธีตอบกลับน้ำใจเขา

“คุณหมอหยู ขอบคุณนะคะ”

“ระหว่างพวกเราไม่ต้องเกรงใจอะไร ตอนนี้คุณจะกลับบ้านเลยไหม? ผมไปส่งคุณ”

พูดจบ หยูจิ่งห้วนมอบหมายงานวันนี้แล้ว

เวินจิ้งพยักหน้าช้าๆ กลับบ้านไปเก็บของ รีบไปสนามบินพร้อมกับหลินเวย

หยูจิ่งห้วนยังคงขับรถ เวินจิ้งถามแม่ด้วยความตื่นเต้น“ทำไมถึงได้เกิดเรื่องกับพ่อแล้ว?”

“น่าจะขัดแย้งกับโจวเซิน ตอนนี้ยังอยู่ในห้องผ่าตัด แม่ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร”หลินเวยสีหน้าหนักใจ

เธอไม่ควรอยู่เมืองหนาน เธอควรไปประเทศอังกฤษตั้งนานแล้ว

ตอนนี้เธอหงุดหงิดกังวลใจ สั่นไปหมดทั้งตัว

“แม่ แม่ไม่ต้องหนักใจ ไม่เป็นไร”เวินจิ้งไม่รู้สถานการณ์ แต่ก็ทำได้แค่ปลอบใจแม่แบบนี้

“เสี่ยวจิ้ง ลูกทิ้งไว้เถอะ แม่ไปครั้งนี้ คงไม่ได้กลับมาเร็ว…..”

“แม่ ฉันไปดูเป็นเพื่อนแม่ โรงพยาบาลนั้นยังมีหมอหยู ฉันไม่รีบร้อน”

“ใช่แล้ว คุณน้าหยู คุณไปกับเวินจิ้งอย่างสบายใจเอะ” หยูจิ่งห้วนพูดอย่างอ่อนโยน

หลินเวยมองหยูจิ่งห้วน แล้วมองเวินจิ้ง สีหน้ากลับไม่ค่อยหน้าดู

ถึงสนามบินแล้ว หยูจิ่งห้วนช่วยทั้งสองคนถือกระเป๋าเดินทาง ส่งทั้งสองถึงทางตรวจเช็ค

“เวินจิ้ง เรื่องทางนี้จัดการเสร็จคุณยังไม่กลับมา ผมจะไปหาคุณดีไหม?”ทันใดนั้นหยูจิ่งห้วนเรียกให้เวินจิ้งหยุด สายตาเขาทิ้งไม่ลง

เวินจิ้งตกตะลึง สบสายตากับหยูจิ่งห้วน ในเวลานี้ไม่ได้พูดอะไร

“จิ่งห้วน ฉัน…..”

“คุณไม่ต้องดีกับฉันขนาดนั้นก็ได้”สักพัก เวินจิ้งถึงถอนหายใจแล้วพูด

หยูจิ่งห้วนสีหน้ายังคงแน่วแน่ “ผมดีกับคุณ ก็เพราะผมคิดอย่างนี้ คุณไม่ต้องกดดันนะ เวินจิ้ง”

“แต่ว่า ตอนนี้ฉันยังไม่คิดอยากมีความรัก”

วินาทีต่อมา นิ้วมือของหยูจิ่งห้วนยกขึ้น แตะที่ริมฝีปากเวินจิ้ง หยุดคำพูดของเขาทั้งหมด

“ผมรู้หมด แต่ว่า ผมรอ”

ขึ้นเครื่องบิน คำพูดนั้นของหยูจิ่งห้วนวนเวียนข้างหูเวินจิ้ง เธอหลับตาด้วยความเหนื่อยล้า เสียงแม่ดังขึ้นข้างหู

“เสี่ยวจิ้ง ลองยอมรับจิ่งห้วนเด็กคนนั้นดู แม่และคุณนายหยูหวังอยากให้พวกลูกอยู่ด้วยกัน”หลินเวยจับมือลูกสาว

เวินจิ้งลืมตา พูดอย่างเฉียบขาด“แม่ พวกเราเป็นไปไม่ได้”

“ทำไม?หรือว่าลูกยังคิดถึงมู่วี่สิง?”หลินเวยพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

“หนูยังไม่อยากแต่งงาน”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ

“เสี่ยวจิ้ง ลูกจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ นอกจากมู่วี่สิงแล้ว ใครลูกก็ไม่อยากแต่งงานด้วยใช่ไหม?”หลินเวยถามด้วยความโกรธ

เวินจิ้งเม้มปาก เวลานั้นไม่พูดอะไร

ได้ยินชื่อมู่วี่สิง เธอไม่สามารถทำให้จิตใจสงบลงได้

“รอหลังจากแม่กับโจวเซิ่งกลับประเทศก่อน แม่พูดกับคุณนายหยูเรื่องเตรียมงานแต่งพวกลูก”หลินเวยพูดอย่างไม่ยอม

“แม่ หนูไม่แต่งงาน”เวินจิ้งตีหน้าขรึม ต่อต้านอย่างมาก

“เสี่ยวจิ้ง แม่หวังดีกับลูก”

“เรื่องนี้ไม่รีบ”เวินจิ้งหันหน้า

เธอหลับตาลึก จริงๆแล้วเธอไม่มีแรงพอที่จะไปจัดการกับความรู้สึกนี้อีก การแต่งงาน

มู่วี่สิงกลายเป็นสิ่งที่เธอก้าวผ่านไปไม่ได้

แต่เธอไม่ได้จะก้าวผ่าน

ถึงประเทศอังกฤษนั้นเป็นเวลาสองทุ่มพอดี เวินจิ้งนอนหลับบนเครื่องบินนาน ลงจากเครื่องบินนั้นก็เลยไม่รู้สึกเหนื่อยมาก

ทั้งสองคนตรงไปที่โรงพยาบาล โจวเซิ่งถูกย้ายออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว ตอนนี้อยู่ที่นี่ผู้ป่วยเฝ้าดูอาการ

เวินจิ้งไปเป็นเพื่อนแม่ หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอ โจวเซิ่งแก่ขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อนแล้ว

ตอนนี้ตระกูลโจวเหมือนอยู่ในการดูแลของโจวเซิน อำนาจของโจวเซิ่งค่อยๆเสื่อมลงแล้ว

เธออยู่ห้องผู้ป่วยสักพักก็ออกมา ให้พื้นที่หลินเวยกับโจวเซิ่ง

นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ระเบียง จิตใจเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนกระทั่งเสียงฝีเท้าแต่ไกลเข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน

หน้าตาผู้ชายยังคงหล่อเหลา เพียงแค่ทั้งตัวมีกลิ่นความมืดมน

“เวินจิ้ง ในที่สุดเธอก็มาแล้ว”น้ำเสียงของเขา ดูเหมือนว่าเวินจิ้งจะเป็นเหยื่อที่เขารอคอยมานาน

เวินจิ้งเม้มฝีปาก หันหน้าอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่โจวเซินกลับนั่งอยู่ข้างเธอ เวินจิ้งถามด้วยเสียงเยือกเย็น“คุณตั้งใจผลักพ่อลงมาใช่ไหม?”

“ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม?”

“มีเรื่องอะไรบ้างที่นายทำไมได้”เวินจิ้งพึมพำ

“จุ๊ๆ เรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวดฉันทำไมลง”น้ำเสียงของโจวเซินจริงจัง

เวินจิ้งเสียงต่ำเยือกเย็น ไม่เชื่อโจวเซิน

“เขาเป็นพ่อเธอนะ โจวเซิน”

“เวินจิ้ง ฉันออกแล้วไง ฉันไม่ได้ผลักเขา ”

เวินจิ้งเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไรอีก

แต่โจวเซินกลับดึงเธอลุกขึ้น“แม่เธออีกนานก็ไม่ไป ฉันไปกินข้าวเป็นเพื่อนเธอ”

“ไม่ต้อง”เวินจิ้งใช้แรงสะบัดออกจากโจวเซิน

แต่แรงเขาเธอก็ไม่สามารถต่อสู้ได้ จนกระทั่งถูกพาเข้าไปในลิฟต์

“โจวเซิน!”

“เวินจิ้ง ทำไมเธอไม่รู้จักฟังคำพูดบ้าง”น้ำเสียงของโจวเซินค่อนข้างหลงรักเอ็นดู

แต่เวินจิ้งรู้สึกรังเกียจมาก

“ทำไมฉันต้องฟังคำพูดนายด้วย”

“หรือว่า เธอหวังคนต่อไปที่จะเกิดเรื่อง คือแม่เธอ”

น้ำเสียงโจวเซินเงียบสงบ เพียงแต่เวินจิ้งตกใจจนหน้าซีด

เธอเงยหน้ามอง สายตาปิดบังความหวาดกลัวไม่อยู่

เธอรู้โจวเซินนั้นทำได้ เขาทำได้

“โจวเซิน คุณ….คุณมันบ้าไปแล้ว”เวินจิ้งใช้แรงผลักเขาออก

ผู้ชายเม้มปากยิ้มเล็กน้อย “ดังนั้น เธอต้องเชื่อฟังสักหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นบ้ายิ่งกว่านี้”

ประตูลิฟต์เปิดออกนั้น เวินจิ้งวิ่งออกสุดฝีเท้า เพียงแต่โจวเซินสองสามก้าวก็ตามถึงแล้ว เธอจ้องเขาอย่างเยือกเย็น

นึกถึงคำพูดเขาเมื่อกี้ เธอยังรู้สึกกลัว

เธอไม่มีทางทำให้แม่เกิดเรื่อง ไม่มีทาง…..

“เธอคิดยังไง?”สงบลง เวินจิ้งเงยหน้ามองเขา

ฝ่ามือผู้ชายยกขึ้นมาอย่างช้าๆ จับเขาที่ผิวที่เย็นของเวินจิ้ง เขาลูบเบาๆที่แก้มขาวของเธอ สายตาหลงใหลแพร่เข้ามา

“เวินจิ้ง แต่งงานกับฉันนะ”

คำพูดโรแมนติก ออกจากปากผู้ชายคนนี้ เวินจิ้งโกรธอดไม่ได้ยกมือขึ้นตบเข้าที่หน้าหล่อของเขา

เพียงแต่ โจวเซินจับข้อมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว จับเธอเข้ามาในอ้อมกอด

“เธอกล้าตีฉันเหรอ?”เขาพูดด้วยเสียงเยือกเย็น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท