Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 668

ตอนที่ 668

บทที่ 668 ยังไม่เชื่อฟังอีกเหรอ

บนโต๊ะหินอ่อนหรูหรา พ่อครัวระดับสูงทำอาหารที่เวินจิ้งชอบแบบเมื่อก่อน

แต่เธอไม่อยาก สีหน้าไม่ค่อยดี

“ไม่สบายเหรอ?”โจวเซินถามด้วยความเป็นห่วง

“ใช่”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

กินข้าวกับโจวเซิน สามารถสบายได้เหรอ?

“ฉันพาไปหาหมอ”

“ไม่ต้อง ไม่สบายใจ”เวินจิ้งพูดเสียงต่ำ

สีหน้าโจวเซินก็เคร่งขรึม แล้วฟังเวินจิ้งต่อ“ฉันสามารถออกไปข้างนอกได้เมื่อไหร่”

“ฉันไปเป็นเพื่อนเธอเองตอนนั้น”

“ทำไม คุณกลัวฉันวิ่งหนีเหรอ?”เธอพูดประชด

โจวเซินเม้มริมฝีปากบาง สักพักถึงพูด “ใช่”

“อยู่ในภายใต้สายตาคุณ ฉันสามารถหนีได้เหรอ?” โจวเซินพูดอย่างเยือกเย็น

“เวินจิ้ง เธออยากออกไปตอนไหน ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอ”

“มันต่างอะไรจากที่คุณคุมขังฉัน?”เธอวางตะเกียบ ข้าวแม้แต่คำเดียวไม่กินอีก

“ถ้าเธอเชื่อฟังสักหน่อย ฉันจะพิจารณาให้อิสระเอมากกว่านี้”

ดูท่าทางที่เหนื่อยกว่าของโจวเซิน เวินจิ้งหงุดหงิดอย่างมาก

ตอนนี้ที่เธออยู่ต่อหน้าเขา ยังไม่เชื่อฟังพออีกเหรอ?

“ฉันกินอิ่มแล้ว”ไม่อยากพูดกับชายคนนี้มากกว่านี้ เวินจิ้งหมุนตัวกลับไปที่ห้อง

เธอไม่ได้ออกไปข้างนอกไปหลายวัน โจวเซินออกไปดูงาน หลินเวยมาแล้ว เวินจิ้งถึงได้ออกจากห้อง

อาทิตย์หน้าโจวเซิ่งก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แถมยังคงอยู่บ้านพักอีกหลัง หลินเวยอยากจะรับเวินจิ้งไปด้วย

“แม่ แม่อยู่บ้านทางใต้กับพ่อเถอะ หนูอยู่ตรงนี้ไม่เป็นไร”

ไม่ได้เจอโจวเซิน เธอรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

เพียงแค่ไม่ได้ออกไปข้างนอก

“เสี่ยวจิ้ง แม่จะคิดหาวิธีส่งลูกกลับเมืองหนาน”

“ถึงแม้จะกลับไปแล้ว กลัวว่าโจวเซินจะไม่ยุติกรณีพิพาทลงด้วยดี แม่ แม่ไปอยู่กับพ่อที่โน่นเถอะ โจวเซินชอบหนู เขาไม่ทำร้ายหนูหรอก มีเพียงแค่หนูจะไล่เขา”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

เธอรังเกียจเขามาก รังเกียจการกระทำเขาทุกอย่าง

“แต่ว่า แม่ไม่อยากให้ลูกได้รับความไม่เป็นธรรม”หลินเวยถอนหายใจ

“หนูไม่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยค่ะ แม่ หนูเต็มอกเต็มใจ”

“บริษัทหลินซื่อทางนั้น ช่วงนี้หนูจับตาดูอยู่ แม่ แม่คิดจะทำอย่างไงต่อ?”เวินจิ้งถาม

หซู่เฟินบอกเธอว่าช่วงนี้ หลินเวยคิดจะขายบริษัทหลินซื่อแล้ว หลินเวยไม่รับช่วงต่อบริษัทหลินซื่อ แถมหลินเวยไม่อยากให้โจวเซินรับช่วงต่อ ก็เลยเป็นแบบนี้

ตอนนี้มีบริษัทขนาดใหญ่หลายบริษัทติดต่อเข้ามา แต่ยังรอหลินเวยตัดสินใจ

“จากที่ดูตอนนี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแม่คิดว่ามีกำลังที่จะซื้อกิจการ”

เวินจิ้งตกตะลึง เรื่องนี้มู่วี่สิงเคยพูดกับเธอตั้งแต่แรก เพียงแต่เธอไม่ได้เอามาใส่ใจ

แต่ตอนนี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยื่นคำขอมาแบบนี้แล้ว

แถมแม่ก็พิจารณาอย่างนี้

แต่ว่าคนที่กุมอำนาจเบื้องหลังของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคือมู่วี่สิง เธอ…..ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกแล้ว

“นี่คือการเลือกจากมุมมองการค้า เสี่ยวจิ้ง ลูกก็เป็นหุ้นส่วนของบริษัทหลินซื่อ เรื่องนี้ลูกสามารถมีความเป็นของตัวเอง”หลินเวยมองออกว่าเวินจิ้งลังเล

“แม่ ในเมื่อแม่ตัดสินใจดีแล้ว นั้นก็คือการทำดีที่สุดต่อบริษัทหลินซื่อ หนูไม่มีความคิดเห็นค่ะ”

“แม่ไม่ได้กลับไปเมืองหนานชั่วคราว ถึงเวลาเซ็นสัญญารับช่วงต่อ แม่ก็คงส่งให้ลูก”

เวินจิ้งพยักหน้า

ตอนนี้ประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคือส้งวี่ เธอคิด ไม่แน่อาจจะไม่เจอมู่วี่สิง

ไม่แน่

หลังจากหนึ่งอาทิตย์โจวเซินถึงได้กลับมา ช่วงเวลางานแต่งยังห่างไปอีกครึ่งเดือน

เวินจิ้งอยู่ห้องสมุดอ่านหนังสือ แสงอบอุ่นสาดเข้ามาทางหน้าต่าง รู้สึกอบอุ่น

ฝีเท้าของโจวเซินนิ่งอยู่ที่หน้าประตู มองด้านข้างใบหน้าที่นุ่มนวลของเวินจิ้ง ในใจแพร่กระจายไปด้วยความรู้สึกสงบ

แบบนี้ มันดีมาก

เพียงแต่เขาก็รู้ดี เวินจิ้งมองเห็นเขา กลับทำท่าเยือกเย็นเหมือนเคย

เขาชอบเวลาที่เธอยิ้ม เพียงแต่ที่เธอยิ้มไม่ใช่เพราะเขา

เวินจิ้งใส่หูฟัง ดังนั้นก็เลยไม่รู้ว่าโจวเซินเข้ามา จนกระทั่งผ่านไปนาน เธอรู้สึกเหนื่อยล้ายืดเอวด้วยความขี้เกียจ ถึงได้พบว่าโจวเซินนั่งอยู่บนโซฟา

ใบหน้าสีขาวของเธอ เปลี่ยนเป็นระมัดระวังอารมณ์อย่างมาก

“คนใช้บอกว่าเธอยังไม่กินข้าวเที่ยง”โจวเซินสีหน้าบึ้งตึง

“อืม สักพักค่อยกิน”เวินจิ้งตอบอย่างเย็นชา

เพราะโจวเซินเข้ามา ทั้งตัวเธอไม่เป็นอิสระ และก็ไม่มีความคิดอยากอ่านหนังสือต่อ

“กินข้าวเสร็จพวกเราไปร้ายชุดแต่งงาน ชุดเจ้าสาวเธอมาถึงแล้ว”

“ไม่สามารถส่งมาที่บ้านได้เหรอ?”เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตอนนี้เธอไม่อยากออกไปข้างนอกแล้ว แต่ยังออกไปข้างนอกด้วยกันกับโจวเซินอีก

อย่างน้องอยู่ที่นี่ ก็เงียบสงบ

“ไม่ได้”

“อืม”เวินจิ้งตอบกลับ

เธอกินข้าวกลางวันคนเดียว โจวเซินกินเสร็จเมื่อกี้ก็ไปแล้ว รถเก๋งรออยู่ด้านนอก เวินจิ้งมองจากนอกหน้าต่างอย่างสงบ

ด้านนอกก่อสร้างอย่างสวยงาม เพียงแต่เวินจิ้งไม่มีอารมณ์ชื่นชมแม้แต่นิดเดียว

จริงๆแล้วการลองชุดแต่งงานนั้นควรเป็นเรื่องน่ายินดี เพียงแต่บนหน้าของเวินจิ้ง มองไม่เห็นความสุขแม้แต่น้อย

ผู้จัดการต้อนรับทั้งสองคนนั้น สังเกตได้ชัดว่ามีปัญหา

โจวเซินรออยู่ที่ชั้นหนึ่ง เวินจิ้งตามหนังงานไปห้องลองชุด

ชุดแต่งงานโจวเซินสั่งล่วงหน้า เธอไม่รู้แบบก่อนหน้านี้ พอมองเห็นชุดแต่งงานที่ออกแบบเรียบง่ายแต่กลับสวยสดงดงามนั้น เวินจิ้งยังรู้สึกแปลกใจ

ถ้าไม่ใช่แต่งงานกับโจวเซิน เธอจะชอบชุดแต่งงานนี้มาก

ใส่บนตัวเองนั้น ในสมองของเวินจิ้งแว๊บถึงหน้ามู่วี่สิง ยืนอยู่กระจกด้านหน้า เธอจินตนาการถึงมู่วี่สิงที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ เรียกสติกลับคืนมาได้นั้น เป็นโจวเซินใส่ชุดสูท

ไม่รู้ว่าเขามายืนตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมเปลี่ยนเป็นสูทสั่งตัดมือ เห็นได้ชัดว่าคนนั้นหล่อมาก

แต่ในสายตาเวินจิ้ง ผู้ชายคนนี้เป็นปีศาจ

“คุณโจวกับคุณเวินเหมาะสมกันมาก!”พนักงานข้างๆมองทั้งสองคน อดไม่ได้ที่จะอุทาน

“ใช่แล้ว ชุดแต่งงานนี้เข้ากับร่างของคุณเวินได้พอดี โดดเด่นอย่างมาก!”

สีหน้าของเวินจิ้งที่นิ่งเงียบนั้น สีหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยน เพียงแค่ถามโจวเซิน “คุณเวินพอใจละก็ ฉันก็จะเปลี่ยนให้”

“อืม สวยมา ชอบไหม?”เขาถามด้วยเสียงเคร่งขรึม

สายตาแพร่กระจายด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง

แต่เวินจิ้งมองไม่เห็น หรือบางที เธอไม่อยากมอง

“อืม ชอบ”เวินจิ้งพยักหน้า

ชอบชุดแต่งงานนี้จริงแต่ เพียงแต่ไม่ชอบผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

“ชอบก็ดีแล้ว”

เวินจิ้งเปลี่ยนชุดเจ้าสาว มองการเย็บที่สวยงามตรงหน้า นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอใส่ชุดเจ้าสาว แต่เป็นครั้งแรกที่อยากขับไล่เช่นนี้

ไม่รู้ตัว เธอเกือบจะฉีกชุดแต่งงานนี้ แต่สุดท้ายยังคงสงบแล้วเดินออกมา

แต่เวลานี้ เวินจิ้งไม่รู้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งสองได้ลองชุดแต่งงานที่ร้านเจ้าสาว อุตสาหกรรมของตระกูลโจวมีอยู่ทั่วโลก การกระทำช่วงนี้ของโจวเซินนั้นสูงมาก ข่าวเกี่ยวกับเขาดึงดูดมากเลยทีเดียว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท