Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 670

ตอนที่ 670

บทที่ 670 พวกเราไม่แต่งงานกันก็ได้

เห็นโจวเซินไม่พูด ทันใดนั้นเวินจิ้งรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี

เธอเงยหน้าขึ้น สายตาของโจวเซินเหมือนจะกลืนกินเธอเข้ามาในท้อง

สีหน้าเธอซีดขาว ใช้แรงทั้งหมดถึงผลักเขาออก

“เวินจิ้ง อย่าให้ฉันรอนาน”เขาไม่ได้เข้าใกล้อีก เพียงแต่น้ำเสียงหนาวเย็นทำให้น่ากลัว

เวินจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เบ้าตาเปลี่ยนเป็นชุ่มฉ่ำ กัดริมฝีปากถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองได้

หลังจากหนึ่งอาทิตย์เป็นวันที่โจวเซิ่งออกจากโรงพยาบาล เวินจิ้งและโจวเซินไปด้วยกัน

เห็นโจวเซิน สายตาโจวเซิ่งนั้นตกใจมาก

โจวเซินนั้นชินแล้ว เอ่ยปากถาม“พ่อ พ่อกับแม่จะอยู่ลอนดอน หรือว่ายังไงครับ?”

“อยู่ลอนดอนก่อน!” โจวเซิ่งพูดหน้านิ่ง

“เสี่ยวจิ้ง ลูกตามแม่มาก่อนเถอะ”หลินเวยจับมือลูกสาว

ช่วงเวลานี้เวินจิ้งอยู่ทางนั้นกับโจวเซิน เธอไม่ค่อยวางใจ

เวินจิ้งกลับส่ายหัว“แม่ หนูไม่ไป”

หลินเวยขมวดคิ้ว หน้าไม่เห็นด้วย

“ผมดูแลเวินจิ้งเป็นอย่างดี”โจวเซินขวางทางเท้าหลินเวยด้วยท่าทางดื้อรั้น

“เสี่ยวจิ้ง……”

เวินจิ้งยังคงส่ายหัวอย่าดื้อรั้น

มองโจวเซินและเวินจิ้งขึ้นรถ รอยยิ้มของเวินจิ้งค่อยๆหายไป

ด้านหลัง โจวเซินเดินมาใกล้“ไม่ดื้อแบบนี้สิ ว่าที่ภรรยาของฉัน”

สีหน้าเวินจิ้งยังคงเย็นชา ก้าวขึ้นรถไปก่อน ไม่ได้พูดกับโจวเซิน

หลังจากส่งเวินจิ้งกลับบ้าน โจวเซินยังต้องกลับไปบริษัท เวินจิ้งอยู่ห้องสมุด หลังจากมองรถโจวเซินจากไปจากหน้าต่างด้านนอก เธอถึงยืนขึ้นทันที

คอมพิวเตอร์ของโจวเซินนั้นมีรหัส เธอเสียงUSBอย่างรวดเร็ว คัดลอกเอกสารออกมา

ผ่านไปไม่ถึงห้านาที แต่เธอเหงื่อออกเกือบทั้งตัว

สักพัก เธอกลับมาที่ห้องนอนตัวเอง เอาเอกสารส่งให้อั้ยเถียน จนกระทั่งดึก เวินจิ้งยังคงดูเอกสารในคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งโจวเซินกลับมา

“คนใช้บอกว่า ตอนเย็นเธอไม่ได้กินข้าว”น้ำเสียงของผู้ชายเยือกเย็นเล็กน้อย

หลังจากที่ตัวเองเข้ามาที่นี่ การกินของเธอไม่ตรงเวลามาก

“ฉันลืมแล้ว”เวินจิ้งเรียกสติกลับมา

ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าค่ำแล้ว

“พอดีเลยฉันยังไม่ได้กิน”

ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารยาวสามเมตร อาหารดีๆมากมาย เวินจิ้งก้มหัวกินข้าวเปล่า

“ฉันได้ยินผู้ช่วยพูด งานแต่งงานเธอไม่ได้เชิญแขกมาเหรอ?”โจวเซินเอ่ยปากถาม

“อืม ไม่มี”

“เพื่อนที่อยู่เมืองหนาน เธอสามารถเชิญได้หมดเลยนะ”โจวเซินสีหน้าเย็นชา

เวินจิ้งขมวดคิ้ว คำพูดของโจวเซินดังขึ้น“อย่างน้อย เธอต้องมีเพื่อนเจ้าสาวหนึ่งคน”

“โอเค”เธอลดตาลง พยักหน้าช้าๆ

กลับมาที่ห้อง เวินจิ้งพูดถึงเรื่องนี้กับอั้ยเถียน อั้ยเถียนยินดีเข้ามา

“ฉันหวังว่าฉันคงไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงานแต่งงานนี้ เอกสารที่เธอส่งมาฉันดูเกือบหมดแล้ว หาเจอรูรั่วอยู่บ้าง เธอดูในอีเมล”

“โอเค ฉันดูเดี๋ยวนี้”

เวินจิ้งพูด เปิดอีเมล

เพียงแต่หน้าแรกเป็นข่าวอัตโนมัติ เห็นชื่อที่คุ้นเคยนั้น เธอกดเข้าไปอย่าไม่รู้ตัว

มู่วี่สิงและหลิงเหยากำลังจะจัดพิธีแต่งงาน

แถมวันที่นั่น คาดไม่ถึงจะเป็นวันเดียวกับงานแต่งงานของเธอ

สายตาเวินจิ้งแข็งทื่อ นานแล้วไม่เห็นรูปมู่วี่สิง

จนกระทั่งอั้ยเถียนตะโกนเรียกเธอ เวินจิ้งถึงได้สติกลับมา ปิดหน้าเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว

เพียงแค่ ยากที่จะรวบรวมสติ

เช้ามืดเวินจิ้งถึงได้ปิดคอม เธอนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมาไม่สามารถนอนหลับได้

ตัดสินใจปล่อยวางผู้ชายคนนี้ แต่เหมือนจะฝ่าฝืนอยู่บ่อยๆ

วันถัดมา เวินจิ้งรับโทรศัพท์ของหลินเวย เกี่ยวกับการขายบริษัทหลินซื่อ เวินจิ้งต้องกลับไปเซ็นสัญญาที่เมืองหนาน

เธอไม่อยากอยู่ลอนดอนพอดี เก็บข้าวของอย่างง่ายๆลงไปชั้นล่าง

โจวเซินเห็นเธอถือกระเป๋าถือ หน้าตาหล่อเคร่งขรึม

“ฉันต้องกลับไปเมืองหนานหน่อย”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงเย็นชา

เรื่องบริษัทหลินซื่อโจวเซินรู้ ร่างสูงยาวของเขาขวางหน้าเวินจิ้ง

“บริษัทหลินซื่อ ส่งมาให้ฉัน”เป็นคำสั่งของโจวเซิน

เวินจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าได้เหรอ?”

“จะบอกคุณให้ ตอนนี้เธอมันทึ่ม คิดว่าสามารถกลับไปอยู่ข้างกายมู่วี่สิง”โจวเซินพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมองเขา“ถ้าฉันทึ่มอย่างนั้นล่ะ?”

คำพูดนี้พูดโพล่งออกมา ทั้งหมดแค่เพื่อยั่วยุโจวเซิน

เธอก็แค่ไม่อยากให้เขาผ่านไปได้ด้วยดี

วินาทีต่อมาเป็นไปตามที่คิด สีหน้าผู้ชายเปลี่ยนทันที ทันใดนั้นมือใหญ่จับที่คอของเวินจิ้งอย่างรุนแรง

เธอไม่ได้ขัดขืน ถึงแม้จะเจ็บ สีหน้าซีดขาวมาก กลับไม่ผลักโจวเซินออก เขาเพิ่มแรงหนักขึ้น……หนักขึ้นอีก……

จนกระทั่งคนใช้ข้างๆอดไม่ได้ที่จะเตือน“คุณผู้ชาย……”

โจวเซินถึงได้เรียกสติกลับมาได้ ค่อยๆปล่อย

เวินจิ้งยังคงจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็น แม้กระทั่งมุมปากยังคงยิ้มแย้ม

เขาเม้มริมฝีปาก ในที่สุดก็ปล่อยมือ

เวินจิ้งหน้าซีดขาวอย่างน่าตกใจ ในที่สุดหายใจเข้าออกลึกๆ เธอจับที่โซฟาข้างๆ ทั้งตัวนั้นยืนไม่ไหว ล้มลงนั่ง

“บริษัทหลินซื่อรวมตัวภายใต้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่เกี่ยวกับมู่วี่สิงแม้แต่นิดเดียว โจวเซิน ความอดทนของคุณนั้นต่ำเกินไปแล้ว”

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”

โจวเซินพูดด้วยเสียงเยือกเย็น แล้วเดินไปที่ชั้นสอง

เวินจิ้งดูเวลา เกือบจะสายแล้ว ทันใดนั้นก็รีบไปที่สนามบิน

เครื่องบินลงจอดเมืองหนานนั้นเย็นพอดี เวินจิ้งคิดไม่ถึงจะเจอหลิงเหยาที่นี่

เธอพึ่งจะลงจากเครื่อง ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์เผยให้เห็นรูปร่างที่มีเสน่ห์ของเธอ ผมยาวสลวย

เห็นเวินจิ้งนั้น เธอเดินไปทางเธอ เวินจิ้งจำเป็นต้องหยุดเท้า

“เวินจิ้ง ฉันนึกว่าเธอจะไม่กลับมาเมืองหนานอีกแล้ว”

“ฉันก็คิดว่า ฉันไม่กลับมาแล้ว”เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น

“พรุ่งนี้มีเวลาไหม? พวกเรามาคุยกันหน่อย”

“พวกเราสองคนเหมือนไม่มีอะไรให้น่าพูดคุยกัน”

“เกี่ยวกับมู่วี่สิง เกี่ยวกับเรื่องเมื่อสามปีก่อน เธอแน่ใจ ไม่มีอะไรน่าพูดคุยจริงๆเหรอ?”

เวินจิ้งสีหน้าเปลี่ยน เตือนตัวเองว่าไม่ต้องไปสนใจอีก แต่ความเป็นจริง ยังอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด

รวมถึง ลูกคนนั้นของมู่วี่สิงและหลิงเหยา

“โอเค”เวินจิ้งตอบกลับ ทั้งหมดเป็นไปดั่งใจ

ข้างนอก หลิงเหยาคิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะมารับเธอด้วยตัวเอง

แถมเธอเดาได้อย่างรวดเร็ว

“รู้ว่าเธอมาแล้ว? ดังนั้นถึงได้มาเหรอ?”

มู่วี่สิงเคร่งขรึม ไม่ได้ปฏิเสธ

ถึงแม้หลิงเหยาจะตกใจ แต่เหมือนจะชินแล้ว

“วี่สิง พวกเราไม่แต่งงานกันก็ได้”ทันใดนั้นหลิงเหยาเอ่ยปากขึ้น

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เก็บสายตาจากนอกหน้าต่าง พูดกับหลิงเหยา“นี่คือสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ?”

“สิ่งที่ฉันต้องการคือคุณรักฉัน แต่คุณนั้นให้ฉันได้ไหม?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท