Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 672

ตอนที่ 672

บทที่ 672 คุณมักจะอยู่ไม่สุขแบบนี้เสมอ

ใช่ … ฉันกำลังบอกเธอว่าฉันได้รับอีเมลนิรนาม พร้อมหลักฐานการละเมิดของโจวเซินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา …”

เวินจิ้งเปิดโน้ตบุ๊คทันที และขอให้อั้ยเถียนเปิดอีเมลล์นั้นให้เธอดู แต่เธอก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน

“ฉันขอให้พ่อตรวจสอบที่อยู่ IP นี้ และน่าจะได้เรื่องเร็วๆนี้ แต่เจ้าของอีเมลรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังตรวจสอบอยู่ มันแปลกมาก”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และทันใดนั้นก็นึกถึงสิ่งที่หลิงเหยาพูดกับเธอ

อาจเป็นมู่วี่สิง

ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ก่อนที่เวินจิ้งจะปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

เขาควรเกลียดเธอมากกว่ารัก

เธอจะไม่มีวันลืมความสูญเสียที่เขาก่อให้เกิดกับเธอก่อนหน้านี้ เธอลืมไม่ได้ และปล่อยไปไม่ได้

อั้ยเถียนใช้เวลาไม่นาน ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเธอ หลังจากวางสายแล้วเธอก็มองไปที่เวินจิ้ง

“เป็นอะไรไป เธอรู้ไหมว่าเป็นใคร”

“เป็นที่อยู่ต่างประเทศของมู่วี่สิง” อั้ยเถียนพูดเสียงล้ำลึก

เวินจิ้งรู้สึกเพียงเปลือกตาของเธอกระตุก และเธอก็ตะลึง

ส้งวี่ไม่มีทางช่วยเธอแน่ ดังนั้นจึงเป็นไปได้แค่มู่วี่สิง

สมองของเธอเหมือนเจอทางตันที่หาทางออกไม่เจอ

“เวินจิ้ง เธอเคยเห็นมู่วี่สิงในหนานเฉิงไหม” อั้ยเถียนโน้มตัวไปถาม

เวินจิ้งหลุดจากภวังค์ และส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

“ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ … บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นศัตรูกับบริษัทหลินซื่อมาหลายปีแล้ว นี่ดูจะสมเหตุสมผล แต่หลักฐานถูกส่งมาให้ฉัน แสดงว่ามีแต่คนที่เรารู้จักอยู่แล้วเท่านั้น”

อั้ยเถียนมั่นใจว่าคนๆนี้คือมู่วี่สิง

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

“หลักฐานพวกนี้ต้องตรวจสอบจริงเท็จก่อน”

“อืม เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง แต่ถ้าหลักฐานเป็นจริง เธอจะทำยังไง” อั้ยเถียนถามเสียงเบา

“แจ้งความ” ใบหน้าของเวินจิ้งสงบและเย็นชา

ยังมีเวลาอีกสองวันก่อนงานแต่งงาน อั้ยเถียนยุ่งอยู่ที่สถานที่จัดงานแต่งงานตลอด ในขณะที่เวินจิ้งต้องอยู่ในวิลล่าเพื่อลองชุดกี่เพ้า

ในห้องเสื้อ เวินจิ้งเพิ่งเปลี่ยนชุดกี่เพ้า มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องนอน เธอขมวดคิ้วและรีบเดินออกไปทันทีหลังจากดึงซิปเสร็จ

โจวเซินเดินเข้าไป โดยมีโน้ตบุ๊คของเวินจิ้งยังอยู่บนโซฟาอยู่ และเธอยังไม่ได้ออกจากอีเมลล์

เมื่อเธอเห็นโจวเซินหยิบโน้ตบุ๊คของเธอขึ้นมา สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที ก่อนจะรีบไปปิดโน้ตบุ๊ค

แต่ทว่าโจวเซินกลับได้เห็นเนื้อหาในนั้นแล้ว

ใบหน้าของเขามืดมนมาก แต่เขาไม่ได้ระเบิดออกมาในทันที

เขาเงยหน้าขึ้นมองเวินจิ้ง เธอสวมชุดกี่เพ้าสีเขียวอ่อน ผมยาวของเธอม้วนขึ้น เผยให้เห็นลำคอเรียว รูปร่างของเธอสวยงาม มีเสน่ห์ดึงดูดเขามาก

ต่อจากนั้น เขาก็ได้จับข้อมือของเวินจิ้งไว้แล้ว และดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาทันที

“อ๊ะ!” เวินจิ้งร้อง และผลักโจวเซินออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่เธอกลับถูกกักขังไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นหนาไม่สามารถขยับได้

ปลายจมูกของเธอ ถูกลมหายใจของผู้ชายแปลกหน้าและน่ารังเกียจเป่ารดอยู่ เธอยกมือขึ้นอย่างโกรธจัดและตบลงไปที่ใบหน้าของเขา แต่เขาก็ปัดป้องได้ทั้งหมด

นิ้วยาวของเขาบีบคางเวินจิ้ง เวินจิ้งจึงสบกับสายตาเย็นชาของเขา

“เวินจิ้งคุณมักอยู่ไม่สุขอย่างนี้เสมอ จะแจ้งจับผมหรอ” เขายกริมฝีปากยิ้มด้วยความอันตราย

หัวใจของเวินจิ้งเหมือนตกอยู่ในห้องเยือกแข็ง

ความหนาวเย็นแผ่กระจายจากฝ่าเท้าไปยังแขนขา

เขาเห็นมัน

เธอกัดริมฝีปากและจ้องไปที่โจวเซิน “อย่างที่คุณเห็น”

ก่อนหน้านี้อั้ยเถียนได้ยืนยันหลักฐานทั้งหมดและส่งให้สถานีตำรวจแล้ว

ดังนั้นแม้ว่าโจวเซินจะเห็นตอนนี้ เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

“ผมประเมินคุณต่ำเกินไปจริงๆ” น้ำเสียงของโจวเซินดูเหมือนมาจากนรก

เวินจิ้งหัวเราะเยาะ “เจ๊ากัน”

“คุณไร้เดียงสาเกินไป แม้ว่าผมจะทำอะไรบางอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจริง แต่หลักฐานเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง” โจวเซินกล่าวอย่างมั่นใจ

“แค่ให้คุณได้อยู่ในคุกหนึ่งวัน ฉันก็พอใจแล้ว” เวินจิ้งกล่าวอย่างเคร่งขรึม

แน่นอนว่าเธอรู้ถึงความสามารถของโจวเซิน เขาไม่มีทางไม่เตรียมตัว ตราบใดที่เขาสามารถฟ้องร้องได้ เขาก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวร้ายเกินไป

“มู่วี่สิงให้หลักฐานคุณหรอ” นิ้วของโจวเซินค่อยๆบีบคางของเธอแรงขึ้น

“ฉันไม่บอกคุณ” เวินจิ้งหันศีรษะของเธอหนี

ครู่เดียวโจวเซินก็ดึงใบหน้าของเธอกลับมาอีกครั้งและพูดว่า “ที่แท้คุณก็ยังติดต่อกับมันอยู่ เวินจิ้งผมเทียบกับมันไม่ได้ตรงไหน บอกมาสิ”

“คุณเทียบกับเขาไม่ได้ทุกตรง โจวเซินคุณไม่ใช่เขา ไม่เคยใช่ และฉันจะไม่รักคุณ” เวินจิ้งพูดออกไป

เธอกับโจวเซินปฏิบัติต่อกันอย่างราบรื่นมาตลอด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีท่าทีว่าจะเลิกรากัน

แม้แต่โจวเซินเองก็ประหลาดใจมาก

เวินจิ้งนิ่งเฉยในสายตาของเขามาตลอด ที่แท้ก็เป็นเพราะมันยังไม่ระเบิด

“แม้ว่าคุณจะไม่รักผม คุณก็ต้องแต่งงานกับผม เวินจิ้งนี่คือชีวิตของคุณ!” โจวเซินปล่อยมือและผลักเวินจิ้งลงบนโซฟา

เวินจิ้งดูการเคลื่อนไหวของเขาด้วยความตื่นตระหนกฉายผ่านดวงตาของเธอ เธอดันหน้าอกของเขาออก แต่กลับไม่เป็นผลเลยเมื่อแรงของเธอมีน้อยกว่า

เธอถูกกดลงใต้ร่างของเขาอย่างง่ายดาย และมือของเขาก็ฉีกเสื้อผ้าของเธอออกจากกัน

ทันใดนั้นความหนาวเย็นก็เข้ามาปะทะกับร่างกาย เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเพราะความหนาวเย็น เธอจ้องมองโจวเซินด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

แต่เขาก็เมิน และยังคงทำต่อไป เขาต้องการให้เธอยอมจำนน เขาต้องการให้เธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์

เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ มือและเท้าของเธอผลักดันโจวเซิน แต่ยิ่งเธอเตะเขามากเท่าไหร่ โจวเซินก็ยิ่งหงุดหงิดมากเท่านั้น เขาใช้เวลาไม่นานในการดึงเสื้อคลุมที่ปกปิดร่างกายของเธอออก เสื้อผ้าของเธอบางมาก โจวเซินยื่นมือออกไป …

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้น และคนรับใช้ข้างนอกก็มาเคาะประตู “ท่านครับ มีปัญหาแล้ว”

การกระทำของโจวเซินยังคงไม่หยุดนิ่ง ในขณะนี้ไม่มีอะไรหยุดเขาได้

จู่ๆเวินจิ้งก็เงยหน้าขึ้น และจ้องไปที่โจวเซิน จากนั้นก็กัดเข้าที่ไหล่ของเขา

เธอกัดอย่างแรง แม้ว่าเธอจะกัดอยู่บนเสื้อ แต่ก็สามารถทำให้เลือดไหลได้ จึงทำให้โจวเซินต้องปล่อยเธอไปด้วยความเจ็บปวด

เสียงเคาะประตูด้านนอกยังคงดังขึ้น และเสียงของคนรับใช้ก็กังวลมาก “ท่านครับ คุณเวินจิ้งครับ ตำรวจมาแล้ว”

เวินจิ้งยิ้มจางๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้ และมองไปที่โจวเซินอย่างประชดประชัน “โจวเซิน ถ้ามีข้อหาข่มขืนอีก …”

“หุบปาก” โจวเซินขัดจังหวะเวินจิ้งอย่างเย็นชา

แต่เวินจิ้งยังใจเย็น เธอไม่กลัวอะไร ตอนนี้เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

โจวเซินจัดเสื้อผ้าของเขา ก่อนจะลงไปชั้นล่าง เวินจิ้งยืนอยู่ข้างบันได ดูโจวเซินถูกพาตัวไป จากนั้นมุมปากของเธอก็ค่อยๆยกขึ้น

ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ แต่หัวเราะไปหัวเราะมากลับกลายเป็นร้องไห้จนน้ำตานองหน้า

เธอหดไหล่ลง บนคอยังมีร่องรอยของโจวเซินที่บีบคอเธออยู่ เธอหายใจเข้าลึกๆ และสุดท้ายก็หมดสติไปโดยไม่สามารถกลั้นไหว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท