Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 675

ตอนที่ 675

บทที่ 675 มันสำคัญไหม

ในความมืด ชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาของเธออย่างแน่วแน่ ราวกับว่าเขาตัดสินใจแล้ว เขาค่อยๆพูดว่า “คุณลืมไม่ได้เหรอ งั้นก็แก้ใหม่”

“จิ้งจิ้ง อยู่เคียงข้ามผมเถอะนะ ตั้งแต่วินาทีนี้ไป ผมจะทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม”

คดีของโจวเซินอยู่ระหว่างการสอบสวน เวินจิ้งไม่รู้ว่ามู่วี่สิงใช้วิธีไหน หลังจากวันนั้น เธอก็ไม่ได้เข้าไปในสถานีตำรวจอีกเลย แถมสามารถอยู่ในการ์เด้นมูเจียวานได้อย่างปลอดภัย

ไม่อ่านหนังสือก็ดูหนังอยู่อย่างนั้น

บ่ายวันนี้ ในช่วงต้นฤดูหนาวข้างนอกอากาศหนาวมาก มีเพียงแสงแดดอ่อนๆเท่านั้นที่สาดเข้ามาในบ้าน ทำให้พอมีความอบอุ่นน้อยๆ

เธอหยิบหนังศิลปะสไตล์ยุโรปมาดูผ่านๆ เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ เวินจิ้งเกือบจะหลับไปแล้ว แต่ก็มีเสียงฝีเท้าเบาๆดังขึ้นข้างหลังเธอ

เธอคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของมู่วี่สิง ที่มักจะมาได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นเธอก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย

เขายกร่างกายท่อนบนของเธอขึ้น แล้ววางตามท่าที่ตัวเองถนัด นิ้วเรียวของเขาสอดเข้าไปในเส้นผมของเธอแล้วลูบไปมาเบาๆ พลางพูดตามที่คิดว่า “จิ้งจิ้ง ช่วงนี้พวกเราย้ายกลับบ้านเก่ากันเถอะ”

“อะไรนะ” เวินจิ้งที่ตอนแรกพักสายตาอยู่ แต่ถูกเขาปลุก ถามด้วยเสียงต่ำ

“โรงหนังที่นั่นกว้างขวาง และสะดวกสบายกว่าที่นี่” เขายังคงเอนกายอยู่บนโซฟาอย่างสบายๆ ปลายนิ้วของเขาลูบไล้ไปตามเส้นผมของเธอเบาๆ

“สิ่งที่คุณตัดสินใจไปแล้ว คงไม่ต้องการความคิดเห็นของฉันหรอกมั้ง” เวินจิ้งหัวเราะหยัน พร้อมพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง และเดินไปที่ห้องนอน

หลังจากก้าวไปเพียงก้าวเดียว เธอก็ถูกมู่วี่สิงจับไว้

เธอหยุดเดิน และยืนนิ่งอย่างเชื่อฟัง

น้ำเสียงของมู่วี่สิงหม่นหมองเล็กน้อย “ผมบังคับให้คุณทำในสิ่งที่คุณไม่ต้องการรึเปล่า ตอนนี้”

น้ำเสียงของเขาอาจไม่เป็นที่พอใจเล็กน้อย แต่เวินจิ้งไม่สนใจ เธอเพียงแค่ยิ้มจางๆ พร้อมกับประชดในดวงตาของเธอ “ใช่ ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนคุณจะไม่ได้ทำเยอะขนาดนี้นะ”

เขามองลงไปที่เธอดวงตาเธอ ดวงตาของเขาซับซ้อนมาก ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือลง

เวินจิ้งเดินกลับไปที่ห้องนอน และเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเธอออกมาอีกครั้ง ก็เห็นเขายืนอยู่หน้าหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งห้องนั้นเงียบสงบ มีเพียงแสงของดวงอาทิตย์ส่องกระทบลงบนร่างโปร่งของเขาอย่างโดดเดี่ยว

“ฉันนัดกับอั้ยเถียนไว้” เธอลังเลสักพัก จากนั้นก็หันกลับมา “ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว งั้นก็ย้ายกลับไปเถอะ”

“วันนี้อากาศหนาว” เขาเดินไปวางเสื้อกันลมบนไหล่ของเธอ พร้อมยิ้มและจูบเธอที่แก้มของเธอ “เที่ยวให้สนุกนะ”

วันนี้เป็นวันที่อั้ยเถียนจะกลับไปเมืองเป่ยเฉิง เวินจิ้งจึงมาส่งเธอ

“จิ้งจิ้ง เธอวางแผนจะอยู่ที่หนานเฉิงจริงๆหรือ” อั้ยเถียนพูดอย่างเป็นห่วง

ตอนนี้เวินจิ้งดูผอม และซีดมาก ราวกับว่าเธอไม่มีวิญญาณ

เธอทุกข์ใจมาก แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี

“อืม ตั้งใจจะทำอย่างนั้น”

“เธออยากอยู่กับมู่วี่สิงจริงๆหรือ” อั้ยเถียนจับมือเล็กๆ ที่เย็นเฉียบของเธอไว้

เวินจิ้งยิ้ม “มันสำคัญด้วยหรอ”

“มันไม่สำคัญเหรอที่มู่วี่สิงบังคับเธอ”

เวินจิ้งไม่ได้ส่ายหัวหรือพยักหน้า

มู่วี่สิงปกป้องเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่เคียงข้างเขามันคือ …การตอบแทน

เช่นเดียวกับเมื่อสี่ปีที่แล้ว ที่พวกเขาแต่งงานกัน ก็เป็นการตอบแทนเหมือนกัน

ทุกอย่างเหมือนกลับไปสู่จุดเดิมอีกครั้ง

“อั้ยเถียนฉันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ต้องกังวล”

“ฉันจะมั่นใจได้ยังไง …”

“รีบไปเช็คอินเถอะ” เวินจิ้งเตือนสติ

อั้ยเถียนเม้มริมฝีปากและถอนหายใจออกมา

เธอทำได้เพียงกอดเวินจิ้ง และปลอบเธอ “ถ้าเธอมีอะไรเธอต้องบอกฉัน ฉันรออยู่ตลอด”

เมื่อออกจากสนามบิน คนขับรถก็มารับเวินจิ้ง และขับตรงไปที่บ้านเก่าของตระกูลมู่

แม่บ้านเก่ายืนอยู่ที่ประตูโค้งคำนับให้เวินจิ้งเล็กน้อย

เวินจิ้งกล่าวอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ”

“คุณชายยังไม่กลับ ฉันจะพาคุณไปที่ห้องนอนก่อน”

เวินจิ้งมองไปในบ้านอย่างระมัดระวัง ก่อนจะรู้ว่าบ้านได้รับการปรับปรุงใหม่ และแม้แต่ใบหน้าของคนรับใช้ก็ดูแปลกไป ยกเว้นแม่บ้านเก่าที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอ

จากนั้นเธอก็เริ่มสนใจขึ้นมา “คุณช่วยพาฉันไปทัวร์ที่นี่ได้ไหม”

ห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่งของบ้าน ได้รับการตกแต่งในสไตล์สมัยเก่าสีแดงเข้ม และมีรูปถ่ายอยู่แถวเตาผิง

เวินจิ้งหยิบขึ้นมาหนึ่งใบ และหนึ่งคนในรูปนั้นคือมู่วี่สิงอายุประมาณสิบขวบ ยืนอยู่ข้างๆมู่เฉิง พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า

เธอรีบวางมันลง และมองไปที่เตาผิงที่ว่างเปล่าด้วยความสนใจ “อันนี้ถ้าอากาศอีกนิดนึงใช้ได้ไหมคะ”

“ฉันเกรงว่ามันจะใช้ไม่ได้ ตอนนี้ปล่องไฟด้านบนปิดสนิทแล้ว” แม่บ้านคนเก่าชะงัก แล้วพูดด้วยความลำบากใจ “บ้านติดตั้งระบบทำความร้อนใต้พื้นแล้ว มันจะไม่หนาวในฤดูหนาว”

เวินจิ้งตอบรับไปเบาๆ

“ถ้าคุณต้องการใช้ ฉันจะเรียกคนมาทำให้ทันที มันเปิดใหม่ได้ไม่ยาก” แม่บ้านเก่าแก่พูดออกมา “คุณชายต้องการให้คุณที่นี่อย่างสบาย ถ้าคุณต้องการอะไรเรียกฉันได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”

เวินจิ้งโบกมือเบาๆ “ไม่ค่ะ ฉันแค่ถามไปแบบนั้นแหละ ใครจะรู้ว่าฉันจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”

แม่บ้านเงยหน้าขึ้นมองเธอความประหลาดใจ ในดวงตาของเธอเป็นประกาย ก่อนจะหายเป็นปกติในเวลาไม่นาน

มีระเบียงขนาดใหญ่ที่ชั้นสาม และที่นี่มีห้องไม่มาก ห้องแรกทางซ้ายถูกปิดอย่างแน่นหนา เมื่อเวินจิ้งเดินผ่านเธอก็หยุดทันที “ที่นี่คือ”

เธอยังจำได้ว่าตอนที่เธอมาที่นี่ครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อน ห้องนี้เป็นห้องของผู้หญิง

“คุณเวินจิ้ง ขอโทษด้วยค่ะ นี่คือที่ที่คุณผู้หญิงอาศัยอยู่ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต คุณชายไม่ต้องการให้ใครเข้าไปค่ะ”

“ฉันเข้าใจค่ะ” เวินจิ้งพยักหน้า “ขอบคุณนะคะ”

ตกดึก ประตูห้องนอนก็ค่อยๆเปิดออก และมู่วี่สิงก็เดินเข้าไปยืนข้างโซฟามองลงไปที่เวินจิ้ง

แม้ว่าเธอจะหลับไป แต่คิ้วของเธอก็ยังขมวดอยู่ เขาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปลูบแก้มของเธอด้วยปลายนิ้ว

เวินจิ้งมักจะนอนหลับไม่ลึก และตื่นขึ้นมาในทันที

เธอลุกขึ้นนั่ง และถามด้วยประหม่าว่า “คุณกำลังจะทำอะไร”

มู่วี่สิงยื่นมือออกไปเพื่อเปิดไฟ และนั่งข้างเธอพร้อมยิ้มเบาๆ “ทำไมไม่ไปนอน”

ตอนนี้เวินจิ้งตื่นเต็มตาแล้ว เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมา เธอจึงขมวดคิ้ว และขยับหลีกเบาๆ “คุณดื่มมาหรอ”

เขาไม่ยอมให้เธอขยับห่าง แต่กลับดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด และพูดยอมรับไปเบาๆ

“ไปไกลๆมันเหม็น” เวินจิ้งดิ้นรน และดันมือของเธอไว้บนหน้าอกของเขา

“จิ้งจิ้ง คุณแข็งแรงขึ้นเยอะเลย” มือของมู่วี่สิงโอบรอบตัวเธอไว้ และใช้เวลาไม่นานชุดนอนของเธอก็ถูกถอดออก ริมฝีปากบางของเขาจากที่เย็นอยู่เสมอ ตอนนี้กลับจูบกันอย่างเร่าร้อน เขาค่อยๆไล่จูบมาที่ไหล่ของเธอและกดตัวเธอไว้

เวินจิ้งต้องการจะร้องออกมา แต่มู่วี่สิงกลับปิดกั้นเสียงทั้งหมดของเธอไว้จนหมด

ทักษะการจูบของเขาดีมาก จนทำให้อาการขัดขืนของเธอหยุดไป เขาเรียกเธอเบาๆ “จิ้งจิ้ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท