Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 677

ตอนที่ 677

บทที่ 677 คุณไม่ชอบให้ผมดีกับคุณแบบนี้หรอ

เขามองไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน มู่วี่สิงจับแขนของเธอหนักขึ้น โดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาลึกล้ำ“มากินข้าวเป็นเพื่อนผมก่อน”

เวินจิ้งไม่อยากคุยกับเขา แต่เขาตกลงที่จะช่วยเธอตามหาพี่ชาย เธอจึงไม่ชักสีหน้าให้เขาเห็นอีก เธอทำได้เพียงแค่ค่อยๆออกจากอ้อมแขนของเขา แล้วก้มลงไปสวมรองเท้า “ได้สิ กินข้าว”

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงของมู่วี่สิงข้างใบหูของเธอ “เราจะกลับไปที่หนานเฉิงพรุ่งนี้ใช่มั้ย”

เวินจิ้งหลุบมองต่ำลงไป เธอไม่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม คดีของโจวเซินกำลังจะเริ่มขึ้น และเธอกำลังจะปรากฏตัวในฐานะพยาน

สามวันต่อมาเวินจิ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากตามมู่วี่สิงกลับไปที่หนานเฉิง

ก่อนออกเดินทางหลินเวยมาหาเธอ

เมื่อเธอเห็นมู่วี่สิง สีหน้าของเธอก็ไม่สู้ดีนัก แต่มู่วี่สิงก็ทักทายเธออย่างสุภาพเสมอ

“แม่ หนูจะคอยตรวจสอบที่อยู่ของหลินยี่เอง ไม่ต้องกังวล”

หลินเวยถอนหายใจ และจับมือลูกสาว

เมื่อใกล้เวลาจะขึ้นเครื่องบิน มู่วี่สิงก็เดินเข้าไปรับเวินจิ้ง “คุณหลิน ผมจะดูแลเวินจิ้งให้ดี”

“มู่วี่สิงถ้าคุณกล้าทำร้ายเวินจิ้งอีก ฉันจะไม่ปล่อยเอาไว้แน่” น้ำเสียงของหลินเวยเย็นชา

ใบหน้าของมู่วี่สิงยังคงอ่อนโยน และยิ้มอย่างแผ่วเบา “ผมจะเลี้ยงเธอเท่านั้น”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินสิ่งนี้ และเมื่อผ่านไปครู่ใหญ่ มุมปากของเธอก็ค่อยๆยกยิ้มขึ้น

ในตอนเย็น เมื่อทั้งสองกลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลมู่ คนรับใช้ก็เตรียมอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว

เวินจิ้งก้มหน้าลงกินอาหารด้วยความยากลำบาก แม้ว่าอาหารบนโต๊ะนี้จะอร่อยและเป็นของโปรดเธอก็ตาม

มู่วี่สิงนั่งข้างเธอ โดยที่แขนข้างหนึ่งโอบรอบเอวของเธอไว้ เมื่อเห็นว่าเธอไม่อยากอาหาร เขาจึงวางตะเกียบลงและเสิร์ฟชามซุปให้เธอ

“ไม่ชอบเหรอ” เขาขมวดคิ้วและถามด้วยเสียงต่ำ

เวินจิ้งหยุดนิ่ง ในขณะที่มือถือตะเกียบ และเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้ๆ “ก็ดี”

“มู่วี่สิงคุณไม่จำเป็นต้องดีกับฉันมากขนาดนี้ก็ได้”

ระหว่างทั้งสอง ไม่มีทางย้อนกลับไปเหมือนอดีตได้แล้ว

นอกจากนี้เขาสามารถแยกเรื่องการตายของมู่ซือซือออกจากเธอได้หรอ

เขาไม่รู้สึกผิดแล้วหรอ

แน่นอนว่าเธอไม่ได้ถามเรื่องนี้ เธอไม่โง่ถึงขนาดเตือนเขาให้โทษตัวเอง

เขากระแอมแล้วถามอีกว่า “คุณไม่ชอบให้ผมทำดีกับคุณแบบนี้หรอ”

ลมหายใจของเวินจิ้งสะดุดไปชั่วขณะ เธอกัดริมฝีปากของเธอไว้และไม่ตอบออกไป

ตอนนี้…ไม่ชอบ

เธออยากให้มู่วี่สิงไม่สนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยวิธีนี้ก็จะทำให้เธอตื่น

เลิกหลงระเริงกับความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้

มู่วี่สิงมองไปที่ใบหน้าของเธอ ที่ยังคงมีใบหน้าที่บริสุทธิ์ แต่วิธีที่เธอมองเขา เธอไม่มีความอ่อนโยนและความเชื่อฟัง อย่างที่เธอเคยเป็นอีกต่อไป

หัวใจของเขาลุกเป็นไฟและขุ่นมัวมากขึ้น

“จิ้งจิ้ง ผมขอโทษ” เขาบีบคางเธอเบาๆ และมองเข้าไปในหัวในของเธอ “คุณยกโทษให้ผมได้ไหม”

เขารู้ดีว่าเรื่องที่เกิดกับเธอนั้นยากที่จะชดเชย

แต่ครั้งหนึ่ง เขาไม่สามารถปล่อยสิ่งเหล่านั้นไปได้จริงๆ

“ถ้าฉันบอกว่าไม่ คุณจะไม่ช่วยฉันตามหาหลินยี่หรอ” เวินจิ้งพูดด้วยตาสั่นไหว

ตอนนี้เธอพึ่งเขา และเธอก็เข้าใจดีว่ากาลเทศะหมายความว่าอย่างไร

มู่วี่สิงรีบหันกลับมา “ทำไมคุณไม่กินปลา”

เวินจิ้งอ้าปากค้าง และพูดไปว่า “ก้างเยอะไป”

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงจึงขยับจานไปตรงหน้าของเขา เขาถือตะเกียบอย่างคล่องแคล่ว และเริ่มเอาก้างออกให้เธอ

เวินจิ้งกัดตะเกียบ และดูการกระทำของเขา รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นอย่างฉับพลัน

คดีของโจวเซินได้รับการตัดสินอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งเห็นเขาในศาล เขาดูแย่ลงมาก ผอมจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน

เขาเคยเต็มไปด้วยความสง่า แต่ตอนนี้เขากลับมีคราบสกปรกมากมาย และผิวของเขาก็กลายเป็นสีเหลือง ดูแล้วช่วงนี้เขาคงผ่านไปได้อย่างลำบากมาก

หลังจากที่โจวเซินเข้าคุก ตระกูลโจวก็ประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โจวเซิ่งเข้ามารับงานอีกครั้ง และใช้เวลานานมาก ในการที่จะทำให้สถานการณ์ค่อยๆคงที่

หลังจากเวินจิ้งคุยโทรศัพท์กับแม่แล้ว เธอก็ออกจากศาล

โจวเซิ่งรู้สึกผิดหวังกับลูกชายของเขามาก เขาไม่ปรากฏตัวในศาล แต่เขาได้ให้หลักฐานเพิ่มอีก ทำให้โจวเซินเกือบถูกจำคุกตลอดชีวิต

อารมณ์ของเวินจิ้งสงบมาก แม้ว่าเธอจะอยู่กับโจวเซินทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลาสามปี แต่เธอก็เข้าใจอารมณ์ของเขาว่า เขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานมาตลอด ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากโลกของเธออย่างสมบูรณ์ แต่เวินจิ้งกลับไม่รู้สึกผ่อนคลายเลย

จนวันหนึ่ง เธอจะจากหนานเฉิง

ดวงอาทิตย์ส่องแสงด้านนอกบ้าน ในขณะที่เวินจิ้งรู้สึกเบื่อหน่ายกับการอ่านหนังสือบนโซฟามาก

มีเสียงของวีลแชร์หมุนมา เวินจิ้งจึงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นมู่เฉิงนั่งอยู่บนวีลแชร์เข็นมาทางเธอ

เขาหยุดห่างจากเธอหนึ่งเมตร

มู่เฉิงอายุมากแล้ว มีผมหงอกบนศีรษะ และไม่ได้มีจิตใจดีเป็นพิเศษ แต่ใบหน้าของเขาสง่างามมาก

เวินจิ้งตกตะลึง และเธอก็พูดอย่างสุภาพในทันทีว่า “คุณปู่มู่”

เธอรู้ว่ามู่เฉิงไม่ต้องการพบเธอ ดูเหมือนว่ามู่วี่สิงก็ไม่อยากให้เธอเจอมู่เฉิงเช่นกัน แต่ตราบใดที่มู่เฉิงกลับมาที่หนานเฉิง เธอก็จะพบเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเธออยู่ข้างๆมู่วี่สิง

มู่เฉิงจ้องที่ใบหน้าของเธอเป็นเวลานาน เขารู้เกี่ยวกับเรื่องล่าสุดของเธอและมู่วี่สิง เขาจึงโกรธมากขึ้น

เขาแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “เธอมีความสามารถกว่าที่ฉันคิดไว้มาก”

เขาคิดว่าการตายของมู่ซือซือจะทำให้มู่วี่สิงละทิ้งผู้หญิงคนนี้ แต่เขาก็ไม่ทำ

“เธอทำให้ฉันสูญเสียหลานสาวไป และตอนนี้เธอก็ทำให้ฉันสูญเสียหลานชายไป” มือของมู่เฉิงค่อยๆยกออกจากที่วางแขนของวีลแชร์ “ฉันต้องขู่เธอเท่านั้นใช่ไหม”

เวินจิ้งมองลงไปที่เขา “มู่วี่สิงสัญญาว่าจะช่วยฉันหาที่อยู่ของพี่ชายฉัน ดังนั้นฉันจึงอยู่ ไม่ต้องห่วง ฉันจะจากไปแน่นอน และวันนั้นคุณจะไม่ได้เจอฉันอีกต่อไป”

มู่เฉิงยังคงยิ้มอย่างเย็นชา “เหรอ เธออยู่กับหลานชายของฉันตอนนี้ ไม่ใช่เพราะเธอรักเขา แต่เธอแค่ต้องการใช้เขา”

“ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่า คุณจะไม่สูญเสียหลานชายของคุณไป” ใบหน้าของเวินจิ้งสงบลง คนรับใช้ออกไปซื้อของข้างนอกกันหมดแล้ว และบอดี้การ์ดของมู่วี่สิงที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็ไม่กล้าที่จะหยุดมู่เฉิง

“หรือคุณจะยังต้องการให้ฉันออกไปอีก งั้นข้อแลกเปลี่ยนก็คือคุณต้องช่วยฉัน” เวินจิ้งพูดอย่างสงบ

คิ้วของมู่เฉิงขยับเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ฉันจำได้ว่า เธอเพิ่งบอกว่ามู่วี่สิงสัญญาว่าจะช่วยเธอตามหาพี่ชายของเธอนี่ เธอกล้าจากไปจริงๆน่ะหรือ”

ริมฝีปากสีชมพูของเวินจิ้งยกขึ้นเล็กน้อย “เขามักจะรู้สึกว่าฉันฆ่าน้องสาวของเขาทางอ้อม ดังนั้นถ้าจะเป็นการชดเชยให้กับตระกูลมู่ ฉันพร้อมจะจากไป แล้วฉันจะตามหาพี่ชายของฉันเอง”

ครึ่งชั่วโมงต่อมามู่วี่สิงก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่บ้าน

“คุณชายครับ… คุณบอกว่าคุณเวินจิ้งไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ แต่ฉันเพิ่งกลับมาและพบว่าคุณเวินจิ้งไม่อยู่แล้ว เธออยู่กับคุณหรือไม่ …”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท