Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 680

ตอนที่ 680

บทที่ 680 ยังไม่พร้อมปล่อยเธอไป

อู๋ชิงเดินนำไปข้างหน้า เวินจิ้งถูกบังคับให้เดินตามเขา และมีชายสองคนในชุดดำอยู่ข้างหลัง

“คุณเวินจิ้ง ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่ก่อน ต้องการอะไรให้บอกพวกเราได้เสมอ” หลังจากกดรหัสผ่านหลายชุดแล้ว อู๋ชิงก็พาเธอเข้าไปข้างใน

มันไม่ใช่คอนโดขนาดใหญ่ แต่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายทันทีที่เดินเข้ามา การตกแต่งโทนสีและเฟอร์นิเจอร์ล้วนเผยให้เห็นถึงความอบอุ่น

“ฉันออกไปข้างนอกได้ไหม ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ตลอดเวลา” เธอถาม

อู๋ชิงนิ่งและยิ้มในไม่กี่วิต่อมา “แน่นอน ถ้าคุณเวินจิ้งต้องการออกไป พวกเราจะไปคุ้มกันเอง”

เวินจิ้ง : …

คุ้มกัน…ไม่ใช่จับตาดู

เธอเดินไปที่โซฟา กอดหมอนข้าง แล้วทำหน้ามุ่ยคิดว่าเจ้านายเขาชอบเธอจริงหรือ

เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง และมองไปที่อู๋ชิงที่หล่อเหลาและพยายามแสดงความดีของเขาต่อเธออยู่ เธออดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

เวยอานพักอยู่ในบ้านพักที่ชานเมืองหนานเฉิง หลังจากที่ลาออกจากโรงพยาบาล

เธอมัดผมสีดำยาวของเธอด้วยยางมัดผม ใบหน้าที่บอบบางและสวยงามของเธอขาวสะอาด ไม่มีร่องรอยของเครื่องสำอางใดๆ

ไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอค่อยๆเปิดประตูห้องนอน และเดินเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้นจากระเบียง

มันเป็นเสียงที่น่ายินดี และรักใคร่ ซึ่งต่างจากเมื่อเขาคุยกับเธออย่างสิ้นเชิง

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหายไปอย่างช้าๆ

“นายหางานอดิเรกให้เธอทำหน่อย เธอชอบกินไก่ทอดกับชาบู…”

“ตอนนี้ฉันยังไม่ไป ฉันยังมีบางอย่างที่ยังไม่ได้จัดการ นายแค่ต้องตามไปปกป้องเธอทุกที่ที่เธออยากไป …”

“แค่นี้แหละ”

หลังวางโทรศัพท์ เขาก็หันกลับมา และเดินไปหาเธอ โดยที่มือข้างหนึ่งของเขายังล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาพูดอย่างเนือยๆว่า “เวยอานมีนิสัยแอบฟังคนอื่นหรือ”

ใบหน้าของเวยอานนิ่งขึ้น ก่อนจะรีบส่ายหัว “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ … ”

เธอเข้ามาและบังเอิญได้ยินพอดี

เธอพิงกำแพง และพูดอย่างหมดหนทาง “ฉันจะทำความสะอาดห้องนั่งเล่น”

ดวงตาที่ลึกล้ำของชายคนเดิมนั้นแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และเขาพูดว่า “คุณจะให้ผมนอนในห้องนั่งเล่นหรอ”

ร่างสูงของเขารีบลุกขึ้น ลดศีรษะลง และยื่นใบหน้าอันหล่อเหลามาตรงหน้าเธอ ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากบางของเธออย่างจงใจ “ผมก็คิดว่าที่คุณ เวยอานรีบให้ผมเข้ามาขนาดนี้ เพราะอยากให้ผม..นอนกับคุณซะอีก”

มือของเขาโอบรอบเอวบางของเธอ และบีบเบาๆ พร้อมกับเลียปลายลิ้นของเขารอบริมฝีปากของเธอ และเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น “แฟนเก่าของคุณอ่อนไปรึเปล่า หืม”

ใบหน้าของเวยอานเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เขาพูดอย่างนี้ได้ยังไง….

เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะผลักเขาออกไป แต่เขาก็ยังคงยืนได้อย่างนิ่งเฉย

เขาก้มหน้าลงและประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ

เวยอานถูกบังคับจูบอย่างไม่มีแรงที่จะต้านทาน เธอตัวอ่อนปวกเปียก และถูกอุ้มพาดไปบนไหล่ของเขาได้โดยไม่รู้ตัว

เขาจูบอย่างชำนาญ ดวงตาปรือของเธอเบิกขึ้น และทันใดนั้นพวกเขาก็สบตากัน เกิดเป็นการจูบที่ลึกซึ้ง

ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เย็นเยือก และผลักเขาออกไปทันที

“ฉันจะทำความสะอาดห้องพักแขก”

หลังจากพูดเสร็จเธอก็เดินไปที่ประตู

“คุณไม่ต้องการให้ผมนอนกับคุณจริงๆหรือ”

เวยอานหยุดฝีเท้าลง ดวงตาของเธอมองไปที่พื้น “คุณไม่สนใจฉันไม่ใช่หรอ”

เขาไม่ได้อยากจูบเธอด้วยซ้ำ เขาจะอยากนอนกับเธอทำไม

เธอเดินไปที่ห้องพักแขก และปิดประตูเพื่อตัดตัวเองจากภายนอก

ร่างกายของเธอหมดแรงแล้ว

เธอยืนพิงประตู ก่อนจะค่อยๆไหลลงไปที่พื้นและซบหน้าไว้กับเข่า

เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก จนทำได้เพียงกอดตัวเองไว้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

ชายคนนั้นยืนเงียบๆ อยู่นอกประตู เขาไม่ได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง แต่เขาได้ยินเสียงน้ำตาหยดใหญ่ที่หยดลงบนพื้นภายในห้อง

ร้องไห้หรอ

เป็นผู้หญิงขี้แยจริงๆ

เขาเอื้อมมือไปเคาะประตู และพูดเสียงต่ำอย่างรวดเร็ว “เวยอานเปิดประตู”

ภายในประตูไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา เห็นได้ชัดว่า เวยอานไม่ได้ตั้งใจจะเปิดประตูให้เขา คิ้วของเขาขมวดมุ่น

สิบนาทีต่อมา ชายร่างสูงก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วมองลงไปที่หญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เขากอดเธอไว้โดยไม่พูดอะไรสักคำ “ผมจะอยู่กับคุณ ไม่ต้องร้องไห้ โอเคมั้ย”

เขาเปิดประตูด้วยมือข้างเดียว และหลังจากกลับไปที่ห้องนอนใหญ่แล้ว เขาก็วางเธอลงบนเตียงที่นุ่มและกว้างขวาง จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอน พร้อมจูบไปที่คอของเธอ

เธอหลับตาลง และร่างกายของเธอยังคงเกร็งแน่น เพราะก่อนหน้านี้เธอร้องไห้มาอย่างหนัก ตอนนี้เธอจึงยังคงสั่นอยู่

ดวงตาที่ยาวและรีของชายคนนั้นหรี่ลงเล็กน้อย ดวงตาสีเข้มของเขา มองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่าง และมือใหญ่ของเขาก็ค่อยๆเอื้อมมือไป

ทันใดนั้นโทรศัพท์ข้างๆเขาก็ดังขึ้น และเวยอานก็ทำราวกับตื่นขึ้นมาทันที แต่เขาก็เร็วกว่า เขาคว้าโทรศัพท์ของเธอ และเอาไปรับโทรพลการ

เวินจิ้งมองไปที่ตำรวจที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ อู๋ชิงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าที่อ่อนโยนของเธอ ตอนนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา

มู่เฉิงยังไม่ยอมปล่อยเธอไปหรือ

ขนาดมู่วี่สิงยังหาที่นี่ไม่เจอ แล้วมู่เฉิงหาเจอได้ยังไง

“ทุกท่าน” อู๋ชิงยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่แปลกใจหรือโกรธ แถมยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า “ผมไม่รู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไร … เราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”

“คุณเวินจิ้ง นายโจวเซินขอให้รื้อคดี ดังนั้นเราจึงมาเชิญคุณให้มาให้ปากคำอีกครั้ง”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว โจวเซินสามารถย้อนคดีได้ด้วยหรือ

คดีของเขาตัดสินไปแล้วนี่

คนพวกนี้คงไม่ได้หาข้อจับเธอมั่วๆหรอกนะ

ในตอนนี้ใบหน้าของอู๋ชิงดิ่งลง และเมื่อเห็นว่าเวินจิ้งถูกพาตัวไป เขาจึงสามารถโทรหาเจ้านายได้เท่านั้น

ในตอนที่เธอกำลังจะเดินออกจากประตู เวินจิ้งก็หันหลังกลับ “เจ้านายของคุณต้องไม่ใช่รักแท้ของฉัน ถ้าคุณอยากเป็นคนดี ก็ช่วยบอกมู่วี่สิงให้ฉัน”

ถ้านี่เป็นการกระทำของมู่เฉิงจริงๆ มีเพียงมู่วี่สิงเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเขาได้

เธอตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้มาโดยตลอด

เมื่อเธอไปไกลระยะหนึ่ง เวินจิ้งก็ถูกพาเข้าไปในห้องลับ เธอจึงพูดเสียงเย็น “ฉันไม่ใช่พยานเหรอ ทำไมถึงขังฉันไว้”

ถูกขังในคุกสองวันสองคืนในตอนนั้นยังดีกว่าสภาพในตอนนี้เสียอีก

แต่คนที่ตามมากลับไม่ได้สนใจเธอเลย พร้อมเหวี่ยงเธอเข้ามาอย่างแรง เข่าของเธอกระแทกพื้นอย่างแรงใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบเธอเลย เขาล็อกประตูและจากไป

ที่เธออยู่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ และไม่มีเสียงใดๆ เวินจิ้งนอนขดตัวนิ่ง อากาศรอบตัวเธอหนาวเย็น และมันแทรกซึมเข้าไปในผิวหนังของเธอทุกอณู

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท