Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 695

ตอนที่ 695

บทที่ 695 อย่าดื้อ อย่าใส่อารมณ์

เวยอานเงยหน้าขึ้นแล้วจูบลงที่แก้มฝ่ายชาย พร้อมอธิบายว่า “คุณไม่ต้องกังวล ฉันได้ป้องกันไว้แต่แรก ไม่ได้เกิดเรื่องร้ายใดๆขึ้น”

เห็นใบหน้าหลินยี่ที่เยือกเย็นน้อยลง เวยอานยกแก้มที่นุ่มนวลของตัวเองขึ้นถูไถลูบไล้อยู่ที่คางของเขา “คุณอย่าโกรธได้ไหม”

เขาใช้มือโอบเอวบางของเธอไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งใช้จับคางเธอไว้อย่างแน่นหนา โครงรูปใบหน้าที่งดงามช่างน่าดึงดูดให้หลงใหล เป็นเสน่ห์ที่ได้มาแต่กำเนิด “รู้ไหมว่าทำไมผมถึงโกรธ”

ทันใดนั้นเธอไม่กล้าจะสบตากับเขา เพราะชายคนนี้สามารถสะกดจิตเธอได้ง่าย ครั้นแล้วการสะกดจิตเช่นนี้สามารถรุกรานหัวใจของเธอให้เต้นดังตูบๆ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อึดอัด “หลินยี่ ฉันคิดๆดูแล้ว ดูเหมือนโทษจำคุกของคุณยังไม่สิ้นสุด…..”

“ใช่ เพราะฉะนั้นถ้าตัวตนผมถูกเปิดเผยขึ้น คุณก็จะโดนข้อหาไปด้วย” เขายิ้มสัพยอกที่มุมปาก

ใบหน้าเวยอานซีดขึ้น กอดฝ่ายชายไว้อย่างแน่น “ฉันจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องขึ้นกับคุณอีก”

……

บ้านใหญ่ตระกูลมู่

เวินจิ้งท่องอินเทอร์เน็ตดูข่าวสาร เดิมทีเธอแค่ดูผ่านๆ แต่เนื่องด้วยมีใบหน้าคุ้นเคยพาดอยู่บนหัวข้อข่าว เธอจึงจดจ่ออยู่นานสองนาน

โม่ถิงเซินประธานผู้อยู่เบื้องหลังเจ้าของบริษัทในต่างประเทศ พักนี้มีเรื่องอื้อฉาวถูกตีข่าวเสียๆหายๆทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนั้นได้ตกลงตาม

ผู้ชายคนนี้ที่เวินจิ้งทราบว่าเขาคือแฟนของเวยอาน

เธอไม่ได้ติดต่อกับเวยอานนานแล้ว ไม่ว่าจะโทรศัพท์หรือวีแชทก็ไม่มีวี่แววตอบกลับ ราวกับว่าเพื่อนคนนี้ได้หายตัวไปแล้ว

ช่วงนี้เวินจิ้งก็ได้ถามข่าวคราวจากเพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาล ถึงทราบว่าเธอนั้นได้ลาออกจากงานไปแล้ว

ผู้ช่วยคนนี้ติดตามเธอมาสามปี ทั้งสองนอกจากเป็นเพื่อนร่วมงานแล้ว ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เวินจิ้งรู้สึกเป็นห่วงเธออย่างมาก

มู่วี่สิงเดินมาจากทางด้านหลัง แล้วโอบเข้าที่ร่างเอวบางของเธอ แล้วกอดเธอไว้ในอ้อมแขน เขาอาศัยจังหวะที่จิตใจเธอกำลังจดจ่อครุ่นคิดเรื่องข่าวสารอยู่ ทำการหอมเข้าไปที่แก้มเธอ เสียงทุ้มต่ำกระทบเข้าข้างใบหูของเธอ “กำลังดูอะไรอยู่ครับ”

เขาเลื่อนสายตาลง แล้วก็เห็นข่าวที่เกี่ยวกับโม่ถิงเซิน

“พี่ชายเธอนี่ก็ช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเหลือเกินจริงๆ” มู่วี่สิงพูดอย่างคลุมเครือ

เวินจิ้งไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้ทำไมถึงไปเกี่ยวข้องกับหลินยี่ เมื่อกำลังจะอ้าปากขึ้น มู่วี่สิงกลับพูดขึ้นอย่างเบิกบานว่า “จิ้งจิ้ง ดูเหมือนตอนนี้คุณจะอ้วนขึ้นนะ”

เขาที่สัมผัสอยู่ที่เอวเธอ ดูเหมือนว่าจะดูกลมขึ้นกว่าแต่ก่อน

ในมุมมองของมู่วี่สิง ความอ้วนคือสัญลักษณ์ของการน่าสัมผัส ความสมบูรณ์และความสวยงามของร่างกาย

แต่สำหรับในมุมมองของเวินจิ้งตอนนี้คือ ความอ้วนมีเพียงอย่างเดียว คืออ้วนขึ้นแล้ว! กินมากเกินไปแล้ว!

เธอรีบวางแท็บเล็ตลง แล้วเลิกคิ้วขึ้น “นี่คุณรังเกียจฉันหรอ”

ตั้งแต่เด็กเธอก็มีรูปร่างที่สมส่วนและบอบบางมาโดยตลอด แม้แต่ช่วงเวลาที่เธอชอบทานขนมขบเคี้ยวของหวานก็ตาม เธอก็ไม่เคยอ้วนขึ้น!

เธอยื่นมือไปจับเอวของตัวเอง แล้วสีหน้าก็บูดเบี้ยวขึ้นทันใด อ้วนขึ้นจริงๆด้วย…..

เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นทานมากไป ทำไมถึงอ้วนขึ้นได้…..

เวินจิ้งมองฝ่ายชายด้วยหน้าตาบึ้งตึง “เดี๋ยวฉันจะไม่ทานอาหารเที่ยงนะ”

แก้มเธอที่บูดบึ้งได้ตกไปอยู่ในสายตาของฝ่ายชายที่ดูราวกับว่ากำลังฉอเลาะออดอ้อน เขาจึงก้มหน้าไปหอมเธออีกสองสามฟอด พูดอย่างรักใคร่เอ็นดูว่า “อย่าดื้อ อย่าใส่อารมณ์สิ”

ใครใส่อารมณ์กับเขาเล่า

นิ้วมือที่หยาบกร้านของเขาแตะไปที่ใบหน้ารูปไข่อันอ่อนนุ่มของเธอ ริมฝีปากที่เกือบจะสัมผัสถึงผิวของเธอ “ช่วงนี้คุณปู่ว่างไม่มีไรทำก็เลยลงครัวบ่อยๆ ทั้งหมดก็เพราะต้องการเอาใจคุณ คุณไม่ไว้หน้าผมคุณก็ควรจะไว้หน้าท่านสักหน่อยถูกไหม”

เธอมองออกถึงความร่าเริงเบิกบานของมู่วี่สิง เดิมทีเธอไม่ควรเข้าใจด้วยซ้ำ แต่ว่าเธอกลับมองทะลุปรุโปร่งและเข้าใจทุกอย่าง

ตอนแรกที่เขาตัดสินใจยอมปล่อยทิ้งเรื่องราวของมู่ซือซือแล้วเลือกเธอ เขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความหนักใจ แต่ว่าตอนนี้เพราะมู่เฉิงยอมรับในตัวเธอแล้ว ความเครียดในตัวเขาก็ค่อยๆจางหายไป

เวินจิ้งบุ้ยปาก “ใครบอกว่านั่นเป็นฝีมือคุณปู่ ทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือน้องสาวคุณต่างหากล่ะ”

เธอยิ้มฝืดๆแล้วพูดว่า “น้องสาวคุณแค่ต้องการอยากจะเอาใจคุณ”

มู่วี่สิงที่ไม่ได้ใส่ใจในคำพูด “ใช่ คนที่มีความคิดนั้นแน่นอนเขาต้องเอาอกเอาใจผม เธอเป็นเด็กกำพร้า เมื่อก่อนเป็นผมที่ช่วยเหลือเกื้อหนุนเธอ ตอนนี้เธอยังเข้ามาอยู่บ้านตระกูลมู่ เธอจะไม่เอาใจผมรวมถึงคนที่อยู่รอบข้างผมเลยหรอ”

เวินจิ้งไม่ทราบว่ามู่ซีจะคิดอย่างไรหากเธอรู้ขึ้นมา เธออุตส่าห์ใช้วิธีลงครัวทำอาหารที่มู่วี่สิงชอบทานด้วยตัวเองเพื่อเอาอกเอาใจเขา แต่ในสายตาของผู้ชายคนนี้กลับกลายเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นการฝีมือของมู่เฉิงที่ต้องเอาอกเอาใจหลานสะใภ้อย่างเธอ

บนโต๊ะอาหารเธอแค่มองแวบแรกก็ดูออกว่าร้อยละแปดสิบล้วนเป็นอาหารจานโปรดของมู่วี่สิง แต่ว่ามู่วี่สิงกลับมองออกแค่ว่าในบรรดาอาหารทั้งหมดมีจานไหนบ้างที่เป็นจานโปรดของเธอ

เขาช่างรู้ดีในสิ่งที่เธอชอบ รู้ดียิ่งกว่าตัวเธอเองด้วยซ้ำ

“พี่วี่สิง พี่สะใภ้คะ ทานข้าวค่ะ” ถ้อยคำอ่อนหวานของมู่ซีดังขึ้น “วันนี้ฉันตั้งใจไปตลาดเพื่อซื้อปลาสดๆมาทำซุปปลา”

เวินจิ้งถูกฝ่ายชายดึงขึ้น เธอก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด การไม่ทานข้าวนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้อย่างแน่นอน

มู่เฉิงที่มองดูอยู่บนโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นพวกเขาเดินมา จึงพูดเบาๆว่า “ทานข้าวกันเถอะ”

เวินจิ้งรู้สึกว่าพักนี้การได้รับกลิ่นของเธอนั้นจะไวต่อความรู้สึก แม้ระยะห่างจะอยู่ไกลออกไปเธอก็สามารถได้กลิ่นคาวปลาได้เป็นระยะๆ

มู่วี่สิงช่วยเธอดึงเก้าอี้เพื่อให้เธอได้นั่งลง มู่เฉิงได้ช่วยเธอตักซุปปลา ยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า “ซุปปลานี้ดีต่อสุขภาพร่างกายผู้หญิง เธอทานเยอะๆหน่อย เมื่อร่างกายแข็งแรงก็จะได้ตั้งครรภ์เร็วๆ ฉันกำลังรอเหลนตัวน้อยๆ…..”

เวินจิ้งยิ้มรับ “ขอบคุณคุณปู่มู่มากค่ะ”

รอยยิ้มมู่เฉิงได้จางลง “เวินจิ้ง ในเมื่อเธอกับวี่สิงไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน เธอเรียกฉันว่าคุณปู่มู่ตลอด รู้สึกเหินห่างจังเลย”

เวินจิ้งชะงัก เธอชินกับการเรียกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว อีกทั้งเธอไม่ได้มีความรู้สึกดีๆต่อมู่เฉิงด้วย

ตอนแรกเธอรู้สึกว่ามู่เฉิงดูน่าใกล้ชิดสนิทใจ แต่หลังจากที่เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมาย เธอก็ไม่สามารถให้ความใกล้ชิดสนิทใจต่อมู่เฉิงได้อีก

มู่ซีแสยะยิ้มขึ้นทันที “พี่สะใภ้ก็ช่างเหลือเกินจริงๆ ต้องเรียกว่าคุณปู่สิ หรือว่าพี่ยังโกรธเรื่องที่เมื่อก่อนคุณปู่เคยทำไม่ดีกับพี่”

มู่เฉิงละสายตามาจากตัวมู่ซีน้ำเสียงฟังไม่ออกว่าโกรธหรือไม่ “ช่างมันเถอะ อย่างนี้แล้วกัน รอเวินจิ้งอยากจะเรียกเมื่อไรก็ค่อยเรียกแล้วกัน”

เวินจิ้งมีรอยยิ้มจางๆ เมื่อรู้ว่าชายที่อยู่ข้างๆจ้องมองเธอโดยที่ไม่พูดคำใดๆออกมา เธอก็ไม่อยากจะทำให้มู่เฉิงเสียหน้าในสถานการณ์เช่นนี้ แต่คำว่าคุณปู่สองคำนี้ติดอยู่ในลำคอ เธอเรียกไม่ลง…..

มู่วี่สิงผลักถ้วยไปที่เธอ “ดื่มซุปก่อน คุณปู่อย่าถือสาเลยนะครับ”

น้ำเสียงที่เย็นชาของเขา มือของเวินจิ้งที่ค่อยๆบีบแน่นขึ้น แล้วดื่มซุปอย่างเงียบๆ เพียงแต่ว่าของเหลวอุ่นๆที่เพิ่งดื่มลงคอไป ทำให้เกิดความรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นทันที เธอขมวดคิ้วขึ้นทันใด

ซุปบำรุงอย่างดีทำให้เธอต้องฝืนกลืนซุปนั้นลงไป เมื่อวางช้อนลง เธอก็หยิบตะเกียบขึ้นเพื่อทานข้าว

มู่ซีมองดูลักษณะท่าทางของเธอ แล้วพูดอย่างน้อยใจว่า “พี่สะใภ้ พี่ไม่ชอบทานซุปที่ฉันทำหรอ ฉันใช้เวลาครึ่งวันในการทำเลยนะคะ เพียงเพราะคุณปู่บอกว่าอยากจะบำรุงร่างกายให้พี่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท