Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 712

ตอนที่ 712

บทที่ 712 เธอเองที่ทำผิด

เวินจิ้งนั่งในห้องรับประทานอาหารคนเดียวมาเกือบชั่วโมงแล้ว ชายหนุ่มค่อยถืออาหารออกมาจากห้องครัว

เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเช่นเคย เคร่งขรึมและเย็นชา ใบหน้าคมคายฉายแววมุ่งมั่นตั้งใจ ไหล่มีรอยเลือดซึมแต่ไม่ชัดเจนนัก แต่มองเพียงแวบเดียวก็จะสังเกตเห็น

คนรับใช้ยกอาหารที่เหลือออกไปนานแล้ว มู่วี่สิงยกกับข้าวเนื้อสัตว์ ผัดผักและน้ำแกงมาวางบนโต๊ะอย่างละจาน

แม้แต่ข้าวสวยก็เพิ่งหุงสุก “กินข้าวเถอะ อึม”

เขาตักข้าวแค่หนึ่งจาน วางลงตรงหน้าเธอ

เวินจิ้งหยิบตะเกียบ กินข้าวเงียบๆ

เธอจะปล่อยให้ตัวเองอดตายไม่ได้ ในเมื่อเธอไม่ได้กระโดดลงทะเล ก็จะปล่อยให้ตัวเองตายไม่ได้

เขาไม่คู่ควร ตระกูลมู่ไม่คู่ควรสักคน

มู่วี่สิงนั่งลงข้างเธอ มองอากัปกิริยาของเธอที่กินข้าวช้าๆ อย่างลึกซึ้ง

ขณะเธอกินข้าวอย่างเรียบร้อย อากัปกิริยาเหมือนหุ่นยนต์ คล้ายกับกำลังบังคับตัวเอง

ภายใต้แสงรำไรเหลือบมองเห็นแผลหลายแห่งบนมือของเขามีผ้าพันแผลพันไว้ มีจุดหนึ่งที่โผล่ออกมา เป็นรอยแผลที่เห็นได้ชัดเจน

น่าจะเป็นแผลบาดหรือแผลน้ำร้อนลวก

สายตามองเพียงแวบเดียว ไม่ได้หยุดมองอีก แววตาก็ไม่แสดงความรู้สึก

เหมือนเข็มเล่มหนึ่งทิ่มแทงลงบนหัวใจ มู่วี่สิงรู้สึกเจ็บปวด แต่ยังคงเอาแต่มองเธอ

เวินจิ้งบังคับตัวเองกินข้าวจนหมดชาม จากนั้นก็ลุกขึ้นกลับไปห้องนอน ชายหนุ่มยังคงตามติดเธอไม่ห่าง

ขณะเดินขึ้นบันได เธอรู้สึกเวียนศีรษะ เสียงนุ่มลึกของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหูทันที “เป็นไรไป ไม่สบายตรงไหนไหม”

เวินจิ้งขยับริมฝีปากเฉยเมยยิ้ม แล้วพูดว่า “อย่าเสแสร้งเลยค่ะ คุณแทงมีดลงในใจฉันได้แล้ว ฉันไม่สบายแล้วเป็นยังไง”

พูดไม่ทันขาดคำ เธอก็ถูกโอบเอวอุ้มขึ้น

จนถึงห้องนอนมู่วี่สิงค่อยวางเธอลง เวินจิ้งมองเขาเยาะเย้ย สายตามีแต่ความเย็นชา “มู่วี่สิง คุณคงจะไม่นอนกับฉันใช่ไหม”

เขาปิดประตูห้อง พูดเสียงเรียบ “ผมเป็นสามีคุณ เราสองคนก็ควรจะนอนด้วยกันอยู่แล้วนี่”

เขาถอดเสื้อคลุมเปื้อนเลือดโยนลงบนโซฟา น้ำเสียงเย็นเยียบยังคงราบเรียบ “ไปอาบน้ำก่อน ค่อยมาพักผ่อน”

เวินจิ้งไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเขายังแสดงออกราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

เธอยังคงนิ่งเฉย “มู่วี่สิง คุณอยากให้ฉันฝันร้ายทุกคืนถึงยอมรามือใช่ไหม”

สายตาของเขาเย็นชา ทั้งคู่ต่างนิ่งงันไปครู่ใหญ่ มู่วี่สิงพูดขึ้นก่อน “คุณไปอาบน้ำเถอะ ผมจะนอนที่พื้นเอง”

พูดจบ เขาก็ออกไปข้างนอกหยิบที่นอนชุดใหม่

เวินจิ้งมองเขาสายตาเย็นชา แต่ก็ลุกไปอาบน้ำ

หลังจากเธออาบน้ำเสร็จ ที่นอนก็ปูบนพื้นเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มนั่งบนโซฟา กล่องยาตั้งบนโต๊ะกลมเล็ก ยาทาแผลและผ้าพันแผลถูกหยิบออกมาวางเตรียมไว้

พอเห็นเธอเดินออกมา เขาก็เรียกน้ำเสียงเจือแหบพร่า “มานี่สิ ผมทายาให้”

เวินจิ้งย่นคิ้ว เธอจำได้ว่ามู่วี่สิงน่าจะยังไม่ได้กินข้าว

แน่นอน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ

ผ้าพันแผลบนมือเธอขาดแล้ว และยังแช่น้ำอีก ตอนนี้ผิวหนังเหี่ยวย่น รู้สึกปวดแปลบ

แต่เธอรู้สึกว่าความเจ็บปวดนี้เป็นของอีกคนหนึ่ง

เธอปีนขึ้นเตียง “ฉันไม่ทำ”

เพิ่งจะก้าวขึ้นเตียงได้แค่ครึ่งตัว ทั้งตัวก็ถูกมู่วี่สิงเข้ามากอดจากด้านหลังอุ้มเธอขึ้น ไม่สนใจที่เธอดิ้นรนขัดขืน เขาอุ้มเธอมานั่งที่โซฟาถึงปล่อยมือ “เด็กดี ทายาก่อน ไม่งั้นมือบวมนะ”

เวินจิ้งโกรธขว้างขวดไอโอดีนใส่เขา ตะโกนใส่เขา “มู่วี่สิง คุณไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำได้ไหม คุณเป็นห่วงมือฉันอย่างนั้นหรือ ถ้าคุณเป็นห่วงมือฉันทำไมใส่กุญแจมือขังฉันล่ะ”

เธอกัดริมฝีปากแน่น “อย่ามาแสดงท่าทางสงสารฉัน ฉันเจ็บทั้งตัวทั้งใจทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคุณทำทั้งนั้น!”

ที่จริงไม่ใช่สิ ต่อว่าเขาเป็นคนทำ สู้พูดว่าเธอทำผิดเองไม่ได้

ของเหลวสีเข้มปริมาณไม่น้อยรดใส่เสื้อของชายหนุ่ม เขาเพียงมองแวบหนึ่ง ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย หยิบขวดยาอีกขวดหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว “ส่งมือให้ผม ทายาซะ”

เวินจิ้งเกลียดที่สุดที่เธอมีทัศนคติเงียบขรึมแข็งกร้าวต่อหน้าเขาอย่างไร เหมือนกับไม่ว่าเธอพูดอะไรทำอะไรเขาก็เป็นอย่างนี้ เธออดไม่ได้ที่จะหยิบขวดยาทั้งหมดปาใส่เขา

แต่ยังไม่ทันขยับมือ เสียงต่ำที่แฝงด้วยคำเตือนของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น “จิ้งจิ้ง อย่าบีบให้ผมต้องลงมือ ยื่นมือมาเดี๋ยวนี้ ทายาซะ”

เมื่อได้ยิน เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ลงมือหรือ ทำไม คุณคิดจะลงมืออะไรกับฉันอีก หักมือฉันงั้นหรือ หรือหักขาฉันดี”

“คุณก็รู้ผมอยากทำอะไร” สายตาของเขามีไฟลุกโชนแวบหนึ่ง แต่น้ำเสียงยังคงราบเรียบ

เวินจิ้งมองเขาเย็นชา มู่วี่สิงเพียงแต่ก้มหน้า ยื่นมือมาจับข้อมือเธอที่บาดเจ็บ เธอคิดอยากจะดึงมือกลับ แต่ถูกเขาจับไว้แน่นกว่าเดิม

มู่วี่สิงเห็นข้อมือเธอขาวซีด เห็นชัดว่าผิวแช่น้ำ เช่นนี้จะทำให้แผลเป็นหนองได้ง่าย

เขาขมวดคิ้วแวบหนึ่ง เบามือลงไปมาก

จากมุมของเวินจิ้งเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเขาเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะบนใบหน้าหรือโครงหน้าของชายหนุ่มสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ท่าทางนิ่งขรึมสุขุมในเวลานี้ยิ่งทำให้ใจหวั่นไหว

เธอหลับตาลงช้าๆ ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเย็นชาและเยาะเย้ย

เธอเหลือบมองที่นอนบนพื้น “คุณอยากนอนบนเตียงไหม”

เขาไม่ได้เงยหน้า ตอบเธอเสียงต่ำ “ผมอยากนอนกับคุณ”

เวินจิ้งชะงัก ครู่ใหญ่จึงถามขึ้น “อย่างนั้นคุณช่วยฉันหาหน่อยเวยอาน อยู่ที่ไหน”

ตอนนี้เธอติดต่อเวยอาน ไม่ได้ และยังหาเธอไม่เจอด้วย

เธอเป็นห่วงว่าเวยอาน จะเกิดเรื่องเพราะพี่ชาย

“คุณวางใจเถอะ เธอปลอดภัยดี” มู่วี่สิงตอบเบาๆ

“หมายความว่าคุณรู้เธออยู่ที่ไหน” เวินจิ้งเบิกตาโต

“เธออยู่กับตระกูลนิ่ง บ้านเดิมของเธอ”

เวินจิ้งย่นคิ้ว เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ เวยอาน เคยบอกกับเธอว่าตัดสัมพันธ์กับตระกูลนิ่ง นานแล้ว และเปลี่ยนชื่อแซ่ด้วย

ทำไมตอนนี้ถึงได้กลับไปอีกล่ะ

“เธอคงไม่ได้ถูกจับกลับไปใช่ไหม”

“อึม”

“ตระกูลนิ่งอยู่ที่เมืองหนานเฉิงใช่ไหม”

“เมืองเป่ยเฉิง”

“อ้อ อย่างนั้นคุณให้ ตระกูลนิ่งปล่อยเธอได้ไหมเวยอานต้องไม่อยากอยู่ที่ตระกูลนิ่งแน่ๆ” เวินจิ้งพูดพึมพำ

มู่วี่สิงพันแผลใหม่เรียบร้อย เก็บของลงกล่องยาไม่รีบร้อน “อย่างนั้นคุณก็ทำตัวว่าง่ายหน่อย”

เวินจิ้งพึมพำ “มู่วี่สิง ทำไมไม่ว่าเรื่องอะไรคุณก็รู้วิธีจะข่มขู่ฉันยังไง”

“ในเมื่อไม่พอใจ ก็นอนเถอะ” มู่วี่สิงลุกขึ้นอุ้มเธอกลับไปวางที่เตียง

เขาช่วยเธอห่มผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว ค่อยหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำเดินไปทางห้องน้ำ

ขณะที่มู่วี่สิงอาบน้ำเสร็จเดินออกมา หญิงสาวบนเตียงนอนหลับตา หันหลังให้เขา ดูเหมือนจะหลับไปแล้วจริงๆ

ไม่ว่าเธอจะหลับแล้วจริงหรือไม่ เขาเดินเบากริบไปปิดไฟ อาศัยแสงจันทร์จากนอกหน้าต่างนอนหลับไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท