Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 701

ตอนที่ 701

บทที่ 701 อารมณ์ไม่ดีถึงพันถึงฉัน

รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ซีแข็งไปทันที ผ่านไปสักพักค่อยฝืนยิ้มอีกที “พี่สะใภ้จะไม่โกรธง่ายๆแบบนี้แหละ … อีกอย่างถ้าเธอจะโกรธเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ คุณก็จะตามใจเธอแบบนี้ไม่ได้นะคะ”

มู่วี่สิงพูดอย่างไม่พอใจ” ถ้าเวินจิ้งไม่สบายใจ เธอจะทำให้ฉันไม่สบายใจไปด้วย ฉันไม่ได้ตามใจเธอ หรือจะปล่อยให้เธอทำหน้าตึงกับฉันทุกวันงั้นเหรอ”

มีคนบอกว่า ทำดีกับคุณ แต่สุดท้ายฉันก็เป็นคนมีความสุขเอง

ดวงตาของมู่ซีเบิกกว้าง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เธออดไม่ได้ที่จะพึมพำ “แต่ในช่วงนี้ เธอทำตัวไม่น่ารักกับคุณเลย ทำหน้าไม่พอใจตลอดเวลา และเธอก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับคุณปู่สักนิดเลย แล้วเอาแต่ขู่ว่าจะหนีไปด้วย”

มู่วี่สิงหรี่ตา “แล้วไง เรื่องเดียวที่คุณต้องทำที่บ้านตระกูลมู่ คืออยู่กับคุณปู่และทำให้เขามีความสุขแค่นั้น ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณไม่เหลืออะไรเลย”

มู่ซีตกตะลึงอย่างมากกับสายตาของเขา ก้มหัวลงสักพักโดยไม่พูดอะไร

“เมื่อคุณรู้แล้ว คุณก็ห้ามบอกเวินจิ้งเด็ดขาด”

ดวงตาของมู่ซีกระพริบเบาๆ เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ร่างของผู้ชายคนนั้นก็หายไปละ

เขานี่ … ช่างไม่มีความอดทนที่จะพูดกับเธอสักคำเลย

ในสายตาของเขา อย่าคิดจะพูดเทียบกับเวินจิ้งที่เขารักจนหมดหัวใจเลย เธอก็เป็นแค่คนที่ตระกูลมู่รับเลี้ยงเพื่ออยู่เป็นเพื่อนกับมู่เฉิงก็เท่านั้นเอง ฐานะของเธออาจสู้คนรับใช้ไม่ได้ด้วยซ้ำ

สิ่งที่เธออยากได้ไม่ได้มากมาย ถึงเธอจะไม่สามารถเป็นผู้หญิงของมู่วี่สิงได้ แต่เธอก็รู้สึกเพียงพอแล้วที่จะได้เป็นน้องสาวของเขา เธอคิดว่าเธอจะไม่แพ้มู่ซือซือที่เสียชีวิตไปแล้ว

แต่ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ยังไงก็ไม่ยอมให้โอกาสเธอบ้างเลย

เวินจิ้งตื่นเช้ามากในวันนี้ เธอจับที่ข้างกายตามความชิน มันเย็นมาก ไม่มีร่องรอยใดๆ เห็นได้ชัดว่าทั้งคืนไม่มีใครนอนเลย

เธอเม้มปากยิ้มไป ความเคยชินมันเป็นสิ่งที่กลัวมาก ตอนแรกเธอปฏิเสธไม่ให้มู่วี่สิงนอนข้างๆเธอ แต่พอเวลานานๆไป เธอก็ไม่ชินถ้าเขาไม่อยู่

เธอไม่ได้ถาม และก็ไม่ได้โทรหาเขา แค่ลงไปข้างล่างทานอาหารเช้าอย่างเงียบๆ จากนั้นก็เดินเล่นในวิลล่าคนเดียว บางทีก็รดน้ำต้นไม้เล็กๆกับคนสวนบ้าง

ทุกคนปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพราวกับว่าเธอเป็นคุณหญิงมู่จริงๆ แต่ท่าทีของมู่เฉิงก็ยังเย็นเยือกเหมือนเดิม ไม่ได้ใกล้มากเกินไป แต่ก็ไม่ได้ห่างกันมากไปด้วย

แต่ไม่นานมู่ซีก็หาเจอเธอ “พี่สะใภ้คะ คุณจะเบื่อหรือเปล่า เราไปซื้อของกันดีไหม พี่วี่สิงให้ฉันอยู่กับคุณมากๆ ช่วงนี้เขายุ่งมากก็เลยไม่ได้กลับมาบ่อยๆ คุณอย่าไปโทษเขาเลยนะ”

เวินจิ้งก้มหัวลงคลายดินให้ดอกเดซี่และพูดเบาๆว่า “ฉันไม่เบื่อหรอก ไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังหัดปลูกดอกไม้อยู่”

ถ้าคนคนหนึ่งมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษต่ออีกคนโดยไม่มีเหตุผล เธอจะรู้สึกไม่สบายใจ

มองผู้หญิงที่ตั้งใจปลูกดอกไม้ มู่ซีก็ค่อยๆรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย “พี่สะใภ้คะ ทำไมคุณถึงเกลียดฉันมากนักเหรอ หรือว่าคุณคิดว่าฉันชอบพี่วี่สิง แต่ฉันก็ไม่ได้ทำสิ่งที่ทำร้ายและส่งผลต่อความรักของพวกคุณเลยนะ ตอนนี้ฉันถือว่าเขาเป็นแค่พี่ชายเท่านั้นเอง”

เวินจิ้งพูดเบาๆ “พูดจริงๆ ฉันเกลียดที่คุณเรียกเขาว่าพี่วี่สิง”

ดวงตาของมู่ซีเบิกกว้าง “มันเป็นแค่การเรียกแค่เท่านั้น”

เวินจิ้งวางจอบเล็กๆไว้ข้างๆ แล้วหยิบมินิสปริงเกลอร์ขึ้นมาและรดน้ำดอกไม้อย่างตั้งใจ “ฉันคิดว่ามันดูสนิทสนมเกินไป”

มู่ซีไม่ได้สนใจคำพูดของเวินจิ้ง ยังไงเธอก็จะไม่เปลี่ยนชื่อเรียกนี้เด็ดขาด

เวินจิ้งทำต่ออย่างใจเย็น แต่มู่ซีรู้สึกอึดอัด “พี่สะใภ้คะ คุณทะเลาะกับพี่วี่สิงหรือเปล่า คุณอารมณ์ไม่ดีทำไมถึงพาลใส่ฉันล่ะ”

เวินจิ้งไม่ได้เงยหน้า ยิ้มและพูดว่า “ที่บ้านตระกูลมู่มีคนมากมาย ยกเว้นคุณปู่ ฉันโกรธใส่ใครก็ได้ ทำไมต้องโกรธคุณด้วยล่ะ คุณมู่ซี คุณคิดมากไปจริงๆ”

มู่ซีกำหมัดแน่นและยิ้มหวาน “งั้นก็ดีค่ะ พี่สะใภ้ คุณปลูกดอกไม้ต่อไปนะ ถ้าคุณเบื่อเมื่อไหร่ เรียกฉันได้ตลอดเวลา เดี๋ยวฉันมาเรียกคุณไปทานข้าวนะคะ”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

จนถึงเสียงเดินของมู่ซีหายไป เธอจึงลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้หวายที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งเมตร ทุกวันนี้นอกจากนอนและอ่านหนังสือทางการแพทย์แล้ว ที่เหลือก็คืออ่านข่าว

จนกระทั่งได้รับสายจากเวยอาน จะนัดเธอออกไปคุยเล่นกัน เวินจิ้งไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว แต่พอไปถึงสถานที่ที่นัดกันไว้ก็ไม่เจอเวยอาน ดูโทรศัพท์ถึงรู้ว่าเธอติดธุระด่วนออกมาไม่ได้แล้ว

เวินจิ้งไม่ชอบเดินเล่นคนเดียว เธอจึงตรงกลับไปที่บ้านตระกูลมู่

เธอโทรหาเวยอานตลอดทาง อยากถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีใครรับสาย

กลับไปถึงบ้าน ในเวลาตอนบ่าย เธอคิดจะไปอ่านหนังสือที่ห้องหนังสือ แต่พอบิดประตูถึงพบว่าประตูไม่ได้ปิดแน่น แค่ปิดไว้เฉยๆ เธอเพิ่งจะยกมือขึ้นเปิดประตู ก็ได้ยินเสียงอย่างกลัวของมู่ซีที่มาจากข้างใน “พี่วี่สิง ถ้าคุณจะจัดการหลินยี่ พี่สะใภ้คงต้องโกรธมากแน่ๆ”

มือของเวินจิ้งแข็งอยู่กลางอากาศ แล้วค่อยๆวางลง

เธอปรับท่ายืน และมองหน้าเย็นชาของผู้ชายจากช่องว่างประตูที่ปิดไม่แน่น นั้นเย็นมากจนแทบไม่มีอุณหภูมิเลย หัวใจของเธอเย็นลงเบาๆ และเธอก็กลัวจนสั่นไม่หยุด

มู่วี่สิงมองคอมพิวเตอร์อย่างนาน ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เม้มปากบางๆ แสดงว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี

มู่ซีพูดอย่างความกล้าหาญ “พี่วี่สิง คุณบอกฉันได้นะ ฉันช่วยคุณได้”

เมื่อเห็นผู้ชายไม่ได้สนใจเธอ เสียงของมู่ซีก็ดังขึ้นเล็กน้อย “คุณไม่กลัวว่าพี่สะใภ้รู้หรอ ถ้าเธอรู้ … เธอจะบอกหลินยี่แน่นอน”

เขากำลังจัดการพี่ชายอยู่หรอ

มู่วี่สิงและหลินยี่ไม่ได้ผิดใจอะไรกัน ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ล่ะ

หลายวันนี้เขากลับมาดึกมาก แต่ก็ไม่ยอมบอกเธอว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ หรือว่าเพื่อจัดการกับพี่ชายของเธอ

เวินจิ้งกัดปากแน่นมาก กัดอย่างแรงมากๆ ขนาดกลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่วปลายลิ้น เธอก็ไม่รู้สึกอะไร

ในที่สุดเสียงที่อย่างไม่มีความอดทนของมู่วี่สิง ก็พูดออกมาอย่างน่ากลัว “ออกไป ”

มู่ซีแค่รู้สึกว่าเธอทนทัศนคติของเขาไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ “คุณปู่ให้ฉันช่วยคุณเอง เขาบอกว่าเป็นห่วงคุณ ก็เลยให้ฉันมาดูหน่อย ไม่งั้นฉันก็ไม่มาทำให้คุณเกลียดครั้งแล้วครั้งเล่าหรอก”

“ออกไป พวกคุณแค่ช่วยฉันเฝ้าเวินจิ้งไว้ อย่าปล่อยให้เธอออกจากบ้านตระกูลมู่ก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องยุ่ง”

มู่ซีรีบพูดว่า “แต่วันนี้เธอออกไปแล้ว… ”

“พัง”

แก้วน้ำกระแทกกับพื้นและส่งเสียงแหลม มู่ซีตกใจมากจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ เธอมองผู้ชายที่เย็นชาและน่ากลัวอย่างใจสั่น เขาพูดอย่างโกรธ ว่า “เธอออกไปเหรอ เธอจะออกทำไมพวกคุณไม่ห้ามล่ะ”

ใบหน้าของเวินจิ้งซีดมาก เธอลูบท้องโดยไม่รู้ตัว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท