Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 691

ตอนที่ 691

บทที่ 691 ครอบครัวเดียวกันก็ทำให้ดูเหมือนครอบครัวเดียวกัน

เวินจิ้งนิ่งเงียบ ผ่านไปสักพักแล้วจิตใจก็ยังคงเลื่อนลอย

เธอรู้ดีว่ามู่วี่สิงทำได้ เขาจะต้องปล่อยให้พี่ชายต้องโทษจำคุกต่อไป

เพียงแต่เธอไม่อยากให้พี่ชายเข้าไปในนั้นอีก

กว่าเธอจะหาเขาเจอนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ฉันก็ยังอยากจะอยู่ข้างๆพี่ชาย” เวินจิ้งพูดพึมพำ

และแล้วดวงตามู่วี่สิงก็เผยให้เห็นถึงความเยือกเย็นออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “จิ้งจิ้ง นี่คุณจะไม่มีวันหันหลังกลับมาแล้วใช่ไหม ต้องการจะจากไปกับเขาใช่ไหม”

ใบหน้าที่งดงามของหญิงสาวนั้นมีความนิ่งและมุ่งมั่น แม้แต่สีหน้าของความลังเลใจก็ไม่มีปรากฏบนใบหน้าสักนิดเดียว

เวลาที่หญิงสาวคนนี้ใจร้ายขึ้นมา ดูสงบเยือกเย็นกว่าเวลาที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจ

มู่วี่สิงหน้าถอดสี จนท้ายสุดเหลือไว้ซึ่งความเย็นชา “จิ้งจิ้ง คุณไม่กลับกับผม ผมคงต้องใช้ไม้แข็ง”

“ถ้าหากฉันขัดขืนขึ้นล่ะ คุณก็คงจะบีบบังคับฉันใช่ไหม”

เวลานั้นเงาแห่งความมืดมิดได้เข้ามาบดบังอยู่ในใจเธอ

“เพราะฉะนั้น จงเชื่อฟังผม” เขาก้มหน้าลง สีหน้าที่เข้าใจอย่างดี

เวลานี้ เสียง“ติ๊ง”ดังขึ้น ประตูลิฟต์ได้เปิดออก แต่ไม่ใช่ชั้นแปด ยังคงอยู่ที่ชั้นหนึ่ง พี่ชายที่อยู่ด้านนอกกำลังเดินเข้ามา

เมื่อเขาได้รับรายงานจากบอดี้การ์ดก็รีบมาทันที

“เสี่ยวจิ้ง” เขามองดูมู่วี่สิงที่กุมมือเวินจิ้งด้วยแววตาเย็นชา “มู่วี่สิง มีคนของคนอยู่ทุกที่ ทำไมถึงต้องพาน้องสาวผมไปด้วย”

เมื่อเห็นหลินยี่ มู่วี่สิงไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอย่างเย้ยหยันว่า “อันที่จริงคุณก็รู้ดีแก่ใจหากพาเธอไปจากผม ยังไงซะผมก็ต้องมาพอเธอกลับมาอยู่ดี”

เขาชะงัก “ ถ้าคุณต้องการให้พวกเราตัดขาดกัน อย่างนั้นคุณควรที่จะส่งเธอกลับลอนดอนให้โดยเร็ว อยู่ที่นั่น อย่างน้อยผมก็ไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้สักระยะ แต่ที่คุณต้องการให้เธออยู่ที่นี่ ก็เพื่ออยากจะใช้เธอมาควบคุมบังคับผม”

ก่อนหน้านี้แม้มือของเขาจะได้รับบาดเจ็บแต่ก็ไม่ยอมคิดที่จะปล่อยมือ เพราะเขากลัวว่าหลินยี่อาจจะพาเวินจิ้งกลับไปที่ลอนดอนจริงๆ

แต่ว่าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น

บรรยากาศเช่นนี้ทำให้รู้สึกคิดมากจริงๆ

เขาพูดขึ้น “หลินยี่ คุณเห็นเวินจิ้งเป็นน้องสาวจริงหรอ แม้แต่เธอคุณก็ยังคิดหลอกใช้”

หลินยี่เหลือบมองเวินจิ้งแวบหนึ่ง สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและสับสน จากนั้นก็ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆอีก

“เสี่ยวจิ้ง” หลินยี่นิ่วหน้าแล้วพูดขึ้น

เวินจิ้งที่ดึงสติกลับคืนมา ความจริงเธอเข้าใจในสิ่งที่มู่วี่สิงพูด เพียงแต่พี่ชายบอกว่ายังมีเรื่องทางนี้ที่ต้องจัดการ เธอเชื่อเขา ดังนั้นเธอรอให้เขาจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วค่อยกลับไปลอนดอน

“ถ้าหากว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ พี่จะส่งเธอกลับ” หลินยี่ลดสายตาลงถามขึ้นเบาๆ

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น เธอนั้นสามารถจะกลับไปได้ แต่แค่…..กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับพี่ชาย

“จิ้งจิ้ง มีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยบอกให้คุณทราบมาก่อน” มู่วี่สิงโน้มตัวลงกระซิบบางประโยคข้างใบหูเธอ

เวินจิ้งที่ตอนนี้รู้สึกมีเสียง “ตูม”ดังขึ้นในสมอง แล้วมองมู่วี่สิงอย่างตกใจ

“ถึงแม้ว่าตอนนั้นคุณตาของคุณจะบังคับให้พวกเราเซ็นใบหย่า แต่ว่าใบหย่าใบนั้นไม่มีผลทางกฎหมาย ดังนั้นคุณกับผมสถานะตอนนี้ยังคงเป็นสามีภรรยา”

“อะไรนะ เป็นไปไม่ได้” เวินจิ้งส่ายหัวฉับพลัน

ไม่จริง

“ใบหย่าที่ไม่มีผลทางกฎหมาย คุณไม่คิดบ้างหรือว่าทำไมผมตอนนั้นถึงเซ็นมันไปแบบง่ายๆ? จิ้งจิ้ง ผมเคยบอกไว้ ไม่ว่าอย่างไรคุณจะต้องเป็นคุณนายมู่ตลอดไป”

“มู่วี่สิง คุณนี่มันเลวได้ใจจริงๆ” หลินยี่ยิ้มอย่างดูแคลนด้วยสายตาที่เย็นชา

“ใช่ ผมยอมรับว่าผมมันเลว” มู่วี่สิงยอมรับอย่างเปิดเผย แต่ว่าคนที่เลวกว่าในตอนนั้นคือหลินเจิ้น

เขาก็คิดมาตลอดว่าจะบอกเรื่องนี้อย่างไรกับเวินจิ้งดี จนกระทั่งต่อมาเกิดเรื่องราวเหล่านั้นขึ้น ตั้งแต่เรื่องเซ็นใบหย่ายังไม่เกิด เขาก็เก็บเรื่องนี้ไว้ภายในใจมาโดยตลอด

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ จะพูดออกมาจนได้

“จิ้งจิ้ง ขอเวลาสำหรับพวกเราสามเดือนนะ ถ้าคุณยังคิดที่จะไปจากผม ผมจะทำการหย่าให้คุณอย่างเป็นทางการ” ฝ่ายชายแววตาเคร่งขรึมจริงจัง และดูเหมือนเป็นการวางเดิมพัน

เวินจิ้งหยุดพูดแล้วมองเขาด้วยความสงสัย “คุณพูดจริงหรอ”

เขามองเธออย่างจดจ่อ “คุณมีแค่ทางเลือกนี้ทางเลือกเดียว ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้ผมไม่มีทางให้ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาระหว่างเรานั้นสิ้นสุดลง”

เวินจิ้งกำหมัดแน่นขึ้นด้วยใบหน้าที่ขาวซีด

ผู้ชายคนนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน

เวลาเพียงแค่สามเดือน จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เล่า

เวินจิ้งกัดปากตัวเอง พูดเบาๆว่า “ตกลง แต่ว่าภายในสามเดือนนี้คุณห้ามแตะต้องตัวฉัน”

หลินยี่เลิกคิ้ว

มู่วี่สิงมองดูเธออยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า “หากคุณไม่เต็มใจ ผมก็จะไม่แตะต้องตัวคุณ”

“เสี่ยวจิ้ง?” หลินยี่เลิกคิ้วมองเธอด้วยความเป็นห่วง

เวินจิ้งยิ้มเรียบๆ “พี่คะ พี่จะไม่ก้าวก่ายการตัดสินในของน้องใช่ไหมคะ”

เธอจะต้องจบความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงให้โดยเร็วที่สุด

“ได้ หลังจากสามเดือน พี่จะมารับเธอ พวกเราจะกลับไปหาแม่ที่ลอนดอน”

ในที่สุดหลินยี่ก็ได้จากไป

มู่วี่สิงมองเธอ แล้วถามขึ้นด้วยเสียงโทนต่ำ “พวกเรากลับการ์เด้นมูเจียวานกันดีไหม”

แต่วินาทีถัดมาโทรศัพท์มู่วี่สิงได้ดังขึ้น เวินจิ้งที่อยู่ข้างๆมู่วี่สิง ได้ยินเสียงเลี่ยนๆของมู่ซีได้อย่างชัดเจน

“พี่วี่สิงขา พี่รับคุณเวินหรือยังคะ พี่รับปากกับคุณปู่ไม่ใช่หรอว่าจะพาเธอกลับบ้านใหญ่ตระกูลมู่ พี่พูดแล้วไม่ทำตามไม่ได้นะคะ”

สาวคนนี้ช่างให้ความสนใจเรื่องพวกเขาเหลือเกิน……

มู่วี่สิงพูดเบาๆ “นั่นมันคือคำรับปากของเธอต่างหาก”

เมื่อพูดจบเขาก็วางสายทันที แล้วจูงมือเวินจิ้งเข้าไปนั่งในรถ แต่เขากลับได้ยินเสียงเธอพูดขึ้นอย่างไม่แคร์ว่า “คุณปู่มู่อยากให้คุณกลับไปคุณก็กลับไปเถอะ ฉันไปได้ทุกที่แหละ”

เธอที่ไม่ค่อยชอบมู่เฉิง แต่ว่าเธอยิ่งไม่ชอบการอยู่ตามลำพังสองต่อสองกับมู่วี่สิง โดยเฉพาะสถานที่ที่เธอเคยคิดเปรียบเสมือนเป็นบ้านอย่างการ์เด้นมูเจียวาน

เธอที่กำลังยิ้มอยู่ แต่เป็นยิ้มที่ไร้ความรู้สึก

หลังจากนั้นไม่นานรถก็ได้ขับแล่นเข้าไปบ้านใหญ่ตระกูลมู่ พอดีกับเป็นเวลาอาหารเย็น บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารหลากหลาย ล้วนแต่เป็นอาหารโปรดที่เวินจิ้งทั้งนั้น

ที่โต๊ะอาหารมู่เฉิง มองดูเธออย่างอ่อนโยน แม้รอยยิ้มจะจืดชืดไปหน่อย แต่ดูแล้วจริงใจ “อันที่จริงฉันก็ไม่อยากจะพูดอะไรอีก เวินจิ้งในเมื่อเธอกับมู่วี่สิงไม่ได้อย่ากันในตอนนั้น ฉันก็หวังว่า…..สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป เธอไม่ให้อภัยฉันก็ไม่เป็นไร แต่ว่ามู่วี่สิง…..”

เขามองมู่วี่สิงแผ่วเบาแวบหนึ่ง “พักนี้เด็กคนนี้มีงานผ่าตัดพักอยู่โรงพยาบาล แม้ว่าจะได้การดูแลอย่างดีจากมู่ซี แต่ฉันก็ดูออกว่าเขานั้นไม่มีความสุข ฉันรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำไม่ดีไว้กับเธอ ถ้าหากเธอจะโกรธจะแค้นก็ขอให้ลงที่ฉันแทนแล้วกัน ฉันเชื่อว่าเด็กคนนี้ต่อไปเขาจะรักหวงแหนดูแลเธออย่างดีแน่นอน”

เวินจิ้งแข็งทื่อ เวลานี้เธอไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้ ว่าทำไมเธอถึงยอมให้มู่วี่สิงพาเธอกลับมาที่บ้านใหญ่ตระกูลมู่ ความจริงแล้วเธอแค่อยากมาเห็น……มู่เฉิงกับมู่ซีนั้นวางแผนทำอะไรกัน

เธอยิ้มจางๆ เป็นรอยยิ้มที่ไม่สดใสดุจแต่ก่อน แต่ทว่าสวยละเอียดอ่อนมาก “ท่านอย่าได้กล่าวเช่นนี้เลยค่ะ เรื่องที่ผ่านมาหนูก็มีส่วนผิด”

ดูเหมือนมู่เฉิงจะพอใจกับคำพูดเธอ เขายิ้มอย่างเบิกบานแล้วพูดขึ้นว่า “ทานข้าวกันเถอะ ต่อไปพวกเธอสองคนก็พักอยู่ที่นี่แล้วกันนะ ฉันกับมู่ซีอาศัยอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกเงียบเหงามาก เวลาที่วี่สิงไม่อยู่ หลานสะใภ้พักอยู่การ์เด้นมูเจียวานคนเดียว ก็คงไม่มีเพื่อนคุย ตอนนี้ฉันก็มาอยู่ที่เมืองหนานอย่างถาวร ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันก็ทำให้ดูเหมือนครอบครัวเดียวกัน ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท