Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 718

ตอนที่ 718

บทที่ 718 เธอจะยิ่งเศร้าเมื่อมองมาที่ฉัน

เวินจิ้งลืมตาขึ้นช้าๆ ขนตาอ่อนนุ่มของเธอสั่นไหว ใบหน้ายังคงซีดขาว ดวงตาสีดำขลับยังคงนิ่งสงบ

“มู่วี่สิง พวกเราหย่ากันเถอะ”

มู่วี่สิงมองเธอจากล่างขึ้นบน ก่อนจะปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดว่า “ไม่”

เวินจิ้งหลับตาลง ดูเหมือนว่าบทสนทนาครั้งนี้จะกินแรงเธออย่างมาก หรือว่าจะทำให้ฉีกทึ้งบาดแผลบนร่างกายตัวเองบ่อยๆ “คุณบอกว่าสามเดือน ถ้าฉันอยากจะไป คุณจะเซ็นให้”

“จิ้งจิ้ง” เขาตะโกนเรียกชื่อเธอ มือกดอยู่บนใบหน้านุ่มของเธอ “ผมจะไม่หย่ากับคุณ”

แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยคิดที่จะวางแผนหย่ากับเธออยู่แล้ว

เวินจิ้งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนพูดเสียงเบาว่า “ฉันไม่คิดที่จะเป็นภรรยาของคุณ แม้เพียงจะเป็นแค่ในนาม มู่วี่สิง ฉันทนไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว !”

เธอแหงนหน้าไปมองบนฝ้าเพดาน ริมฝีปากสีซีดเหยียดยิ้มเย็นชาก่อนพูดว่า “ที่คุณพูดมันถูก ฉันกลับมาเพื่อที่จะทรมานทุกคน แต่ตอนนี้ฉันรับอะไรไม่ไหวแล้ว มู่วี่สิง ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ”

ร่างกายของเธอที่เสียลูกไปทั้งสองคนนั้นทั้งอ่อนแอและซีดเซียวราวกับว่าจะพรากชีวิตเธอไปด้วย

เธอที่นอนอยู่เตียงนั้นทำให้เขารู้สึกคล้ายกับเธอกำลังปิดตาลง และจะไม่ลืมขึ้นมาอีก

ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกกลัวและทำอะไรไม่ถูก และยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น

เวินจิ้งหันหน้ากลับมา ค่อยๆยื่นมือออกมาไล้แสงยามเย็นที่สาดทอเข้ามา นิ้วมือของเธอขาวสะอาดราวกับจะโปร่งแสงได้

น้ำตาร่วงหล่นลงบนหมอนจนเปียกไปทั้งใบ

เธอพรากชีวิตลูกของเธอด้วยสองมือของเธอเอง

น้องชายของเธอตายไปแล้ว ส่วนลูกของเธอก็ไม่อยู่ตรงนี้แล้วเหมือนกัน

เธอยังเหลืออะไรอีก

ใช่ ยังมีแม่ เธอยังมีพ่อแล้วก็แม่

แต่ถ้าแม่เธอรู้ข่าวการตายของพี่ชายแล้วล่ะก็ เธอคงรับมันไม่ไหวแน่ๆ

ร่างกายของแม่นับวันจะยิ่งทรุดลงไปเรื่อยๆ เธอจะทนได้ยังไงถ้าหากได้รู้ข่าวร้ายเช่นนี้

นิ้วมืออุ่นร้อนของเขายื่นเข้าไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างช้าๆ มู่วี่สิงรู้สึกว่าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงตรงนี้ดูเปราะบางราวกับแก้วที่แตกสลายได้เพียงแค่แตะเบาๆ

“จิ้งจิ้ง” เขาไม่รู้ว่าเธอร้องไห้ทำไม ตอนที่หลินยี่ตายเธอยังไม่มีน้ำตาสักหยด แต่เขาเข้าใจว่าตอนนี้เธอเศร้ามาก เศร้าจนอยากจะตาย

เธอแค่เพียงมองตรงไปยังนิ้วของเธอเท่านั้น ไม่มีเสียงสะอื้นเลยสักนิด

ความเงียบงันนี้เผยให้เห็นความสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง

ของเหลวใสไหลลงมาจากดวงตาของเธอ ภายในห้องมีแต่ความเศร้าแผ่ขยายไปทั่ว เป็นความเจ็บที่อยู่ข้างในลึกๆ แต่กลับทำให้คนเศร้าจนแทบจะหยุดหายใจจากความเจ็บปวด

ใบหน้าที่ดูโกรธ แต่ไม่มีความเกลียด มีเพียงแค่ความเศร้า แต่กลับไม่มีคำพูดไหนที่จะบรรยายออกมาได้

ก็เหมือนกับเวินจิ้งในตอนนี้ ที่ไม่มีคำพูดไหนที่จะมาบรรยายความเศร้าของเธอได้

เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรที่จะเข้าไปแตะต้องเธอ ท่าทางของเธอแบบนี้มันทำให้เขาตกใจ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่จูบที่ใบหน้าของเธอพลางพูด “จิ้งจิ้ง เธอรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

เขาไม่กล้าถามเธอด้วยซ้ำ ว่าตอนนี้เธอรู้รึยังว่าลูกของเธอไม่อยู่แล้ว

ถ้าเธอไม่รู้ เขาก็ยินยอมที่จะไม่บอกเธอดีกว่า

อึดอัด?

ใช่ เธอรู้สึกอึดอัดตรงไหนล่ะ?

มู่วี่สิงเรียกหมอให้เข้ามาพบ เมื่อหมอเห็นเธอตื่นขึ้นมา กลับถูกชายหนุ่มจ้องเมื่อเวินจิ้งถูกตรวจร่างกาย แต่คำตอบก็ยังเหมือนเดิม อารมณ์ความรู้สึกเธอยังคงเศร้าใจเหมือนเดิม

เวินจิ้งหลับตาลง แม้แต่แรงที่ใช้เกลียดเธอก็ยังไม่มี

“มู่วี่สิง หย่าเถอะ”

เห็นได้ชัดว่าเธอดูอ่อนแรงมาก แต่ความมุ่งมั่นของเธอก็ฉายฉัดออกมา มันกลับดูตัดเยื่อใยเหลือเกิน

น้ำตายังคงหลงเหลืออยู่บนใบหน้า แต่เธอก็ยังคงหัวเราะออกมา “คุณไม่เข้าใจ ฉันแค่คิดว่าตัวเองถูกคุณใช้ให้ไปทำร้ายพี่ชาย แค่คิดว่าฉันเป็นคนที่ฆ่าภรรยาของพี่ชายคนนั้นด้วยมือตัวเอง ฉันก็เกลียดตัวเองจนแทบอยากจะฆ่าตัวเอง”

มู่วี่สิงทำได้แค่โอบกอดเธอ ถ้าหากเขาไม่กอดเธอไว้เขารู้สึกได้ว่าจะต้องได้สูญเสียเธอไปแน่ๆ

เขาแบกรับความรู้สึกว่างเปล่านี้ไม่ไหว

“ไม่ให้หย่า… ….”เขาพึมพำ “ผมไม่ได้ใช้ประโยชน์จากคุณเลย ผมจะใช้คุณได้อย่างไร… ….”

เขาพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะเหนี่ยวรั้งเธอไว้ เขาจะหลอกใช้เธอได้อย่างไรกัน

ถ้าหากว่าไม่ใช่คนพวกนั้น ……เขาและเธอคงไม่ต้องก้าวมาถึงจุดนี้

เธอตั้งครรภ์แล้ว อนาคตของพวกเขา ……ต้องมีแต่ความสุขอย่างแน่นอน

เขากอดเธอแน่นริมฝีปากของเขากดลงแนบหูของเธอ น้ำเสียงของเขาราวกับความบ้าคลั่งที่เยือกเย็น “ถ้าคุณเกลียดที่ผมทำร้ายพี่ชายคุณ ชีวิตของผม ผมยกให้คุณ”

ฟังจบ เวินจิ้งก็หยุดชะงักอยู่ในอ้อมแขนของเขา

นาทีต่อมา เธอลืมตาขึ้นมา และพูดอย่างเฉยเมยว่า “ได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นคุณเอาปืนหรือมีดมาให้ฉันสิ”

มู่วี่สิงกอดเธอ เขายิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการ รอผมจัดการทุกอย่างให้จบ ถ้าคุณต้องการมีดหรือปืนผมให้คุณได้เลย พอผมตายคุณก็สามารถไปจากผมได้ … …” เขาหยุดชั่วครู่ ก่อนจะกดริมฝีปากของเขาลงที่คางของเธอ ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นลงที่คอของเธอ “ถ้าคุณไม่ฆ่าผม คุณก็จะต้องอยู่กับผมตลอดไป”

เวินจิ้งรู้สึกเพียงว่าเส้นประสาททั่วร่างกายของเธอสั่นระริก ใบหน้าเย็นชาสงบนิ่ง เธอคิดว่ามันน่าขันนัก เขารักเธอขนาดนี้ แล้วทำไมจะต้องใช้เธอเพื่อที่จะการฆ่าพี่ชายเธอด้วย

เขาเป็นคนที่ลงมือเองด้วยซ้ำ

“พวกเรากินข้าวกันก่อนเถอะ”เขาโอบแขนรอบเอวเธอเพื่อพยุงให้ลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจัดแจงวางหมอนหนุนหลังให้เธออย่างระมัดระวังเวินจิ้งเลี่ยงสัมผัสของเขา เพราะว่าเธอขยับมากเกินไป ทำให้กระทบบาดแผลบนร่างกายของ และก็ทำให้เธอบาดเจ็บแผลบนศีรษะด้วย แต่เธอยังคงไม่แสดงความรู้สึกใดใดออกไป มู่วี่สิงไม่กล้าแตะต้องเธออีก เขาเพียงแต่หยิบซุปที่เตรียมไว้ขึ้นมาจากกล่องใส่อาหาร

มู่วี่สิงหยิบช้อนขึ้นเพื่อที่จะป้อนเธอ แต่เวินจิ้งกลับไม่ยอมให้ทำแบบนั้น ดวงตาของเธอแลดูห่างเหินเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด

เขาทำได้เพียงพูดอย่างอบอุ่นว่า “จิ้งจิ้ง คุณยังบาดเจ็บอยู่นะ ให้ผมป้อนเถอะ”

เธอหลับตาลงอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ากำลังต่อต้าน

เมื่อก่อนเธอแค่เมินเฉยใส่ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอเย็นชาเข้ากระดูกเสียแล้ว

ทั้งสองยังคงยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อกันเป็นเวลานาน สักนิดเธอก็ไม่ยอมลืมตา ตอนนี้อะไรเธอก็ไม่สนแล้ว ไม่สนความหิว ไม่สนความเจ็บปวด เหมือนกับว่าไม่หลงเหลือความรู้สึกใดใดอยู่เลย

มู่วี่สิงพูดเบา ๆ ว่า “ผมจะให้เวยอานมาอยู่เป็นเพื่อน”

เขาลุกขึ้นยืนเตรียมที่จะโทรและสั่งให้คนปล่อยเวยอานออกมา แต่ทว่าเสียงที่อ่อนแรงเรียบเฉยของเวินจิ้งกลับดังขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอก เขาเห็นฉันจะทำให้ทุกข์ใจเปล่าๆ ไม่ต้องเรียกมา”

เมื่อเวยอานเห็นเธอจะต้องนึกถึงทุกๆคน ตอนนี้ถ้าเห็นเธออยู่ในอาการแบบนี้ ต้องเสียใจแน่ๆ

ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ให้มาจะดีกว่า

“โอเค” ใจเขาคล้ายกับถูกรถบดจนละเอียด “ถ้าอย่างนั้นฉันเรียกหยูจิ่งห้วน ”

เวินจิ้งหลับตาลง “ถ้าหมอหยูมาเห็นก็ต้องเสียใจ คุณให้นางพยาบาลเข้ามาป้อนฉันก็ได้ ”

สิ้นเสียง ทันใดประตูห้องพักคนไข้ถูกเปิดออก เป็นมู่ซีที่กำลังช่วยพยุงมู่เฉิงเดินเข้ามา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท