Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 721

ตอนที่ 721

บทที่ 721 เป็นคนที่รักที่สุดคนนั้น

มู่วี่สิงหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมา จากนั้นก็เดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ เธอ “เปลี่ยนชุดเถอะ อีกสักพักฉันจะพาเธอออกไป”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ จึงเอ่ยเสียงเรียบว่า “คุณหมอยังไม่ได้บอกเลยว่าฉันสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ฉันเองก็ไม่ได้อยากไป”

รอหลังจากเขาออกไปแล้ว เธอจะต้องคิดหาวิธีออกไปจากที่นี่ให้ได้

มู่วี่สิงยกมือเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วก้มตัวลงถอดชุดผู้ป่วยให้เธอ เวินจิ้งมองเขาโดยไม่แม้แต่จะขยับ

ชายหนุ่มปลดกระดุมชุดผู้ป่วยสีฟ้าขาวออก เผยให้เห็นผิวขาวใส แพขนตาของเธอขยับขึ้นลง “คุณคิดจะทำอะไร”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ลมหายใจอุ่นรินรดลงบนไหปลาร้าของเธอ “ฉันจะช่วยเธอเปลี่ยนชุด”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองเขาถอดเสื้อผ้าให้ตัวเองด้วยสายตาเย็นชา

นิ้วมือของมู่วี่สิงชะงัก เธอสวมชุดผู้ป่วย แต่ว่าข้างในก็ไม่ได้ใส่อะไรเพิ่มอีก

หลังจากเสื้อผ้าถูกลากออก เรือนร่างที่ขาวสะอาดและงดงามของหญิงสาวก็ปรากฏต่อสายตาของเขาอย่างสมบูรณ์

มือของเขาแข็งเกร็งทันที

บนร่วงกายของเธอยังมีร่องรอยของบาดแผลหลงเหลืออยู่ไม่น้อย ยังคงมีผ้าพันแผลพันอยู่บนข้อศอก แผ่นหลัง หัวไหล่ หรือแม้แต่กระทั่งบนหน้าผาก

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เวินจิ้งจึงเห็นเขาถอนสายตากลับไปอย่างแข็งกร้าว พูดเสียงต่ำ “ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม ครั้งหน้าก็อย่าได้ทำร้ายตัวเองอีก”

หลังจากนั้นก็หยิบชุดที่วางอยู่ข้าง ๆ มาสวมให้เธออย่างช้า ๆ

เธอยังคงไม่ขยับ มองเขาด้วยสายตาเย็นชาอย่างไม่แยแสตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าเธอจะไม่ได้มองเขา แต่เธอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง

คล้ายจะเจ็บปวด แต่ก็คล้ายมีอารมณ์อื่น ๆ ร่วมด้วย

การกระทำของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความงุ่มง่าม ราวกับไม่รู้ว่าควรจะสวมใส่อย่างไร

เวินจิ้งสูดหายใจลึกแล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออก

เธอสวมชั้นใน จากนั้นก็หยิบสวมสเวตเตอร์สีแดงเนื้อนุ่มที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาสวม ท่อนล่างเป็นกางเกงขายาวสีอ่อนทรงหลวม

เท้าแม้แต่ข้างเดียวของเธอยังไม่ทันได้เหยียบพื้น ก็ถูกฝ่ามือใหญ่ของเขาจับเอาไว้

เธอตกตะลึงเป็นอย่างมาก เผลอชักเท้ากลับมาโดยไม่รู้ตัว ทว่ามู่วี่สิงกลับจับเอาไว้แน่น “อย่าก้ม ฉันจะช่วยเธอสวมรองเท้า”

ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวแล้วว่าท้องของเธอบาดเจ็บ ไม่สามารถที่จะก้มลงไปได้

รองเท้าเป็นของที่เขานำมาจากคฤหาสน์ตระกูลมู่ ไม่ใช่คู่ใหม่แต่เป็นคู่ที่สวมใส่บ่อยที่สุด เพราะว่ามันสบายที่สุด

เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น เธอสามารถมองเห็นรูปหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน เพราะว่าตอนนี้เขากำลังจมอยู่ในสมาธิ ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งนั้นทำให้คนรู้สึกใจเต้นเป็นอย่างมาก

เวินจิ้งเบนสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง

เมื่อเสื้อผ้ากับรองเท้าเสร็จแล้ว เธอก็เดินไปที่ห้องน้ำในห้องพักฟื้น มีเสียงกำชับเตือนของมู่วี่สิงดังขึ้นจากด้านหลัง “ระวังด้วย มีอะไรก็ให้เรียกฉัน”

เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา เธอเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน ตอนที่เดินออกมาก็พบว่าในมือของเขามีเสื้อคลุมตัวหนึ่ง ทันทีที่เห็นเธอ เขานำมันมาคลุมตัวเธอไว้

“คุณจะพาฉันไปไหน” เธอก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่ตัวเองกำลังสวมอยู่ “ไม่ว่าจะไปที่หลุมศพของพี่ชายหรือว่าหลุมศพของลูก ฉันใส่เสื้อสีแดงแบบนี้ก็คงไม่ดี”

เส้นผมของเธอยาวขึ้นเรื่อย ๆ เขาผูกผ้าพันคอสีเข้มให้เธอ พูดด้วยเสียงเรียบ ๆ “พาเธอไปชมละคร”

เขาขับรถด้วยตัวเอง ไม่ได้บอกว่าจะพาเธอไปดูที่ไหน เธอเองก็ไม่ได้ถาม จนกระทั่งรถหรูจอดตรงหน้าประตูศาล เธอถึงได้รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร

คดีไม่ซับซ้อน เวยอานต้องการฟ้องร้องโม่ถิงเซินข้อหาลักพาตัว

เมื่อสองปีก่อนเป็นเพราะเวยอานเธอเลยได้พบโม่ถิงเซินอยู่หลายครั้ง แต่เธอไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรเขามากนัก รู้แค่ว่าเขาเป็นที่มีอิทธิพลและอำนาจ

หลังจากออกมาจากตระกูลนิ่ง เวยอานก็ไม่กล้าที่จะทำตัวแข็งข้อต่อหน้าโม่ถิงเซิน แต่ตอนนี้เธอกลับกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาแล้ว

ไม่ว่าการลักพาตัวจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ด้วยการสนับสนุนของมู่วี่สิง ทำให้เวยอานมีโอกาสในการชนะคดีนี้อยู่ไม่น้อย

เธอรู้ว่าโม่ถิงเซินเป็นหนึ่งในคนที่ผลักให้พี่ชายเธอไปสู่ความตาย ดังนั้นมู่วี่สิงเลยคิดจะลงโทษเขาอย่างนั้นเหรอ

เฮ้อ

เวินจิ้งแค่นหัวเราะเสียงเย็น ถึงกระนั้นเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ ฆาตกรตัวใหญ่ที่สุดยังคงอยู่ข้างกายเธอ

เวินจิ้งดูการพิจารณาคดีจนจบ เธอไม่แปลกใจที่โม่ถิงเซินถูกตัดสินจำคุก เวินจิ้งไม่ได้ให้ความสนใจกับบทสรุปนี้

เธอเป็นห่วงเรื่องเวยอาน เมื่อออกจากประตูศาล ทั้งสองคนคล้ายใจตรงกัน เวยอานกำลังรอเวินจิ้งอยู่

เธอแกะมือของมู่วี่สิงที่โอบเอวเธอไว้ออกทันที จากนั้นก็เดินก้าวเข้าไป

“เวยอานถอดแว่นกันแดดออก ภายใต้ผมสีดำยาว ใบหน้าของเธอดูซูบผอมเสียยิ่งกว่าเวินจิ้ง “ หมอเวิน ฉันต้องไปจากที่นี่แล้ว”

เวินจิ้งมองเธออยู่นาน อยากจะเปิดปากเพื่อพูดอะไรสักอย่างออกมาอยู่หลายครั้ง อยากเอ่ยคำปลอบโยน อยากขอบคุณ อยากแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ติดใจ แต่คำพูดทั้งหมดนั้น ท้ายที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นประโยคเรียบง่ายแค่เพียงประโยคเดียว “ดีแล้ว เดินทางปลอดภัย ระวังตัวด้วย”

เวยอานสวมแว่นตากลับไปอีกครั้ง มองไปที่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่อยู่ห่างออกไปสองเมตร เธอเอื้อมมือไปกอดเวินจิ้งแล้วพูดเสียงเบาว่า “หมอเวิน เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตของคนเราก็คือความสุข ฉันคิดว่าหลินยี่เองก็หวังว่าหลังจากนี้เธอจะมีความสุขเหมือนกัน”

ถ้าเธออยู่กับมู่วี่สิงแล้วมีความสุข เขาก็ไม่โทษเธอ

เวินจิ้งยืนมองเงาแผ่นหลังของเวยอานค่อย ๆ ไกลออกไปอยู่ตรงที่เดิม

สิ่งที่เกิดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ คือความสูญเสียและความสับสนหลากหลายส่วนที่ไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดได้

เธอรู้สึกมาตลอดว่าผู้คนและเหตุการณ์ที่ปรากฏในชีวิตของเธอค่อย ๆ พากันหายออกไป

มู่วี่สิงเดินมาหยุดที่ข้าง ๆ แล้วกอดเธอไว้ จึงได้ยินเธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “มู่วี่สิง ตอนนี้ฉันไม่ได้มีความสุขเหมือนตอนที่เรียนแพทย์อยู่ที่ประเทศFเมื่อหลายปีก่อน ถึงแม้ว่าตอนนั้น ฉันจะต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกับคนที่ฉันเกลียดที่สุดอย่างโจวเซิน แต่มันก็ยังมีความสุขกว่าตอนนี้มาก”

เพราะว่าคนที่ทำร้ายเธอไม่ใช่คนที่เธอรักที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกอะไร

แต่ตอนนี้คนที่เธอรักที่สุดคนนั้นทำร้ายเธอมาโดยตลอด

เธอพูดจบก็ผลักแขนของเขาออกไปเบา ๆ แล้วเดินออกไปที่บันได

มู่วี่สิงถูกเธอทำให้ตกตะลึง แม้ถูกผลักออกก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทันที เงาร่างสูงใหญ่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและเดียวดาย

พอกลับมาที่โรงพยาบาล เวินจิ้งเพิ่งเปิดประตูห้องพักฟื้นออก ไม่คิดว่าจะเจอมู่เฉิงกำลังรออยู่ที่โซฟา

สีหน้าของมู่วี่สิงเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบทันที เขาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปบนเตียงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จคงสบายตัวขึ้นสักหน่อย รอหลังจากพยาบาลเอายามาให้แล้ว ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”

เวินจิ้งมองมู่วี่สิง พูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “คุณปู่ของคุณมาหาคงมีเรื่องจะพูด พวกคุณไปคุยกันเถอะ ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้”

ตั้งแต่ที่พวกเขากลับมามู่เฉิงก็ถูกเมินเฉยมาตลอด ได้แต่เก็บกลั้นความโกรธเอาไว้ “วี่สิง ปู่มีเรื่องจะพูดกับแก”

มู่วี่สิงไม่แม้แต่จะมองเขา “ผมรู้ว่าปู่คิดจะพูดอะไร มันเป็นไปไม่ได้”

มู่เฉิงเพียงมองไปที่เวินจิ้ง ท่าทีอบอุ่นไม่น้อย “เวินจิ้ง ฉันมีเรื่องจะคุยกับวี่สิง เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำก่อนดีไหม”

เวินจิ้งหยิบชุดที่อยู่บนเตียงขึ้น ไม่แม้แต่จะเปิดตา “คุณกับคุณปู่ของคุณออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ ฉันนั่งเปลี่ยนบนเตียงดีกว่า”

สีหน้าของมู่เฉิงเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ แต่เวินจิ้งไม่สนใจแม้แต่น้อย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท