Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 724

ตอนที่ 724

บทที่ 724 พวกเรากลับไปไม่ได้แล้ว

สีหน้าของเวินจิ้งเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องดื่ม ฉันจะไปนอนแล้ว”

มือที่โอบเอวเธอไว้ไม่ผ่อนแรงแม้แต่น้อย เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่พอใจ “มู่วี่สิง คุณหมายความว่ายังไงกันแน่”

ดวงตาดำลึกของเขาจ้องมองเข้าในตาของเธอ แต่หลังจากนั้นก็เลื่อนลงไปมองริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ลูกกระเดือกขยับ พูดเสียงเบา “ฉันดื่มก็ได้ เธอจูบฉันสิ”

เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามียาอยู่ในชา แต่เขาก็ยังกล้าดื่ม นี่เขากำลังดูถูกเธอหรือมั่นใจในสภาพร่างกายของตัวเองมากเกินไปกันแน่

เวินจิ้งยื่นมือไปหยิบถ้วยชาขึ้นมา จากนั้นก็ส่งมันไปป้อนให้เขาถึงปาก สายตาแฝงไปด้วยการยั่วยุอยู่หลายส่วน “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ดื่มสิ”

เขามองหน้าเธอ ริมฝีปากยกยิ้ม “จูบฉันสิ”

เวินจิ้งไม่แม้แต่จะกะพริบตา “ได้”

มู่วี่สิงก้มหน้าลงตามการเคลื่อนไหวของเธอ กลิ่นชาหอมอบอวลทำให้รู้สึกสบายจมูกเป็นอย่างมาก เขาดื่มชาลงไปครึ่งถ้วยโดยไม่แม้แต่จะลังเล

ทว่าพอวางถ้วยชาลง ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ทาบทับลงมา

“อื้อ…” เธอเบิกตากว้าง มองใบหน้าของเขาที่อยู่ห่างไปไม่ถึงคืบ คำพูดทั้งหมดถูกสกัดกั้นเอาไว้ในลำคอ

เขาเลียริมฝีปากนุ่มของเธอ แววตาที่มัวเมาและพร่าเลือนดูคล้ายจะได้สติขึ้นมาทันที เขากดเธอลงบนโซฟานุ่มที่อยู่ด้านใต้

เวินจิ้งลืมตา แววตาเต็มไปด้วยความชัดเจน จนกระทั่งเขาค่อย ๆ ผละออกจากริมฝีปากของเธออย่างช้า ๆ เธอจึงสามารถเปิดปากพูดได้ “ฉันรู้ว่าคุณเป็นหมอที่สามารถแยกแยะรสชาติและผลลัพธ์ของยาที่ฉันใส่ลงไปได้ คิดจะทำให้คุณติดกับไม่ง่ายเลยจริง ๆ ”

มู่วี่สิงมองเธอ “ดังนั้นเธอก็เลยทาเอาไว้ที่ริมฝีปากอีกชั้น”

“ใช่” เวินจิ้งพยักหน้า “นี่เป็นวิธีเดียวที่ฉันคิดได้เพื่อลดการตอบสนองและการป้องกันของคุณ”

มู่วี่สิงยิ้มเล็ก ๆ วางหน้าฝากลงบนที่พักแขนของโซฟา ลมหายใจของเขารินรดอยู่ใกล้หูของเธอ “ที่แท้เธอก็รู้อยู่แล้วนี่เองว่า ต้องเป็นตัวเธอถึงจะสามารถทำให้ฉันติดกับได้”

เวินจิ้งยังคงรักษาท่าทางของเธอไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เธอหลับตาลงแล้วพูดออกมาด้วยเสียงเรียบ ๆ “ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าพวกเรากลับไปไม่ได้อีกแล้ว”

เรื่องระหว่างพวกเรา ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว

มู่วี่สิงขมวดคิ้วโดยไม่พูดอะไรออกมา ลมหายใจค่อย ๆ กลายเป็นสับสนวุ่นวาย มือของเอาโอบกอดเอวผอมบางของเธอเอาไว้ กักขังเธอไว้ในอ้อมแขน ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากนัก เขารู้ดีว่ายิ่งทำให้เลือดไหลเวียนก็ยิ่งทำให้ยาออกฤทธิ์เร็วขึ้น

“เธออยากจะไปใช่ไหม” แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงของเขากลับดูคล้ายประโยคบอกเล่า “จิ้งจิ้ง ต่อให้เธอหนีไปจนสุดขอบฟ้ามหาสมุทร ฉันก็จะไปหาเธอ”

“เด็กดี อยู่กับฉันดี ๆ เถอะนะ”

ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน เขาล้วนตามหาเธอพบ ต้องหาเธอจนพบแน่นอน

เธอพูดออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง “ทำไมคุณถึงต้องดื้อดึงขนาดนี้ มู่วี่สิง ฉันสามารถทำใจให้เชื่อได้ว่าคุณไม่ได้ต้องการจะเอาชีวิตพี่ชายฉัน แต่คนในตระกูลมู่ของคุณไม่ยอมรับฉัน คุณไม่จำเป็นจะต้องแตกหักกับพวกเขาเพราะฉัน ไม่จำเป็นเลยสักนิด”

เขาแค่นหัวเราะเสียงเย็น “เวินจิ้ง เหตุผลของเธอช่างมากมายเหลือเกิน มันก็แค่เธอไม่รักฉันแล้วก็เท่านั้น”

เวินจิ้งลืมตามองใบหน้าหล่อเหลาของเขา ถึงแม้ว่าแขนที่กอดเธอไว้จะยังคงไม่หลุดออก แต่เธอรู้ว่ายากำลังค่อย ๆ ออกฤทธิ์

น้ำชาก็เป็นเพียงแค่ฉากหน้า เธอรู้ดีว่าเขาไม่มีทางตกลงไปในหลุมพรางนี้

ยาที่เธอทาไว้บนริมฝีปาก เพียงพอที่จะทำให้เขาหลับไปจนถึงเช้า

“จิ้งจิ้ง ทำไมเธอถึงจะต้องไปให้ได้” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแนบชิดกับเธอ พูดด้วยเสียงเบา “เธอไปแล้วฉันก็สามารถตามหาเธอเจอได้ จิ้งจิ้ง ไม่มีใครรักเธอเท่าฉันหรอกนะ”

โทรศัพท์ของเขาถูกเธอเหยียบจนพังตอนที่เขาจะจูบเธอเมื่อกี้นี้ เวินจิ้งคิดว่าตอนนั้น เป็นการที่การป้องกันของเขาลดต่ำลงที่สุด แม้ว่าเขาจะเพิ่งจูบเธอไปก็ตาม

ในความจริงแล้วเธอเองก็ไม่ได้มั่นใจมากนัก ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้คำนวณอะไรถูกต้องไปเสียหมด หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขานอนอยู่บนตัวของเธออย่างเงียบ ๆ เส้นประสาทและการลมหายใจที่ตึงเครียดของเธอจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

เวินจิ้งใช้แรงจำนวนมากในการลุกออกมาจากใต้ร่างของเขา ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่น เธอย้ายเขาไปไว้บนโซฟา

เธอจ้องมองเขาอยู่หลายนาที ก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นไปบนห้อง เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปสองสามชุด หลังจากนั้นก็เดินไปที่ห้องหนังสือของเขา

เธอพิมพ์ข้อตกลงในการหย่าออกมาทีละคำ แล้วใช้เครื่องพิมพ์เอกสารพิมพ์มันออกมา

พอได้ยินเสียงของเครื่องจักร คล้ายกับว่าจะนอกเหนือไปจากการสูญเสียที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้แล้ว ตอนนี้ได้อารมณ์ของเธอสงบแล้ว

จากนั้นก็หยิบกระดาษที่ยังคงมีความร้อนหลงเหลืออยู่ขึ้นมา เวินจิ้งอ่านข้อความบนนั้นทีละคำภายใต้แสงสว่างจ้าอย่างตั้งใจ สุดท้ายแล้วเธอก็วางมันลงไปบนโต๊ะ ใบหน้าบอบบางของเธอสงบนิ่ง หยิบปากกาที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา หลังจากตัวสั่นเทาอยู่ห้านาที ปลายปากกาก็ค่อย ๆ จรดลงบนกระดาษสีขาว

เมื่อตัวอักษรตัวสุดท้ายสิ้นสุดลง เธอกะพริบตา จึงได้พบว่ามีน้ำตาไหลหยดลงบนชื่อของเธอ

ท้องฟ้าภายนอกกลายเป็นสีดำมืด แม้แต่พระจันทร์ก็มองไม่เห็น

เธอวางปากกาลง อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยล้า เธอกอดเข่า ขดตัวแล้วค่อย ๆ หลับไปบนเก้าอี้ตัวใหญ่ เธอตั้งใช้โทรศัพท์ตั้งปลุกเอาไว้ตอนตีสี่

เธอคิดว่าตัวเองไม่สามารถที่จะนอนหลับได้ ทว่าพอหลับตาเธอก็จมเข้าไปในห้วงฝันลึก

สี่โมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบที่สุด เวินจิ้งเพียงสะพายกระเป๋าสีดำและก้าวลงบันได

เดินไปได้สักพัก เท้าของเธอก็หยุดลง

นิ้วมือกำแน่น ดวงตาเบิกกว้าง ผู้ชายที่เคยนอนอยู่บนโซฟาคนนั้นไม่อยู่แล้ว

เธอแค่นยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ก้มหน้าลงอย่างหดหู่ เธอประเมินเขาต่ำไปสินะ

“ฉันคิดว่าเธอเปลี่ยนความตั้งใจแล้วเสียอีก” เสียงนั้นดังขึ้นมาจากข้างหลัง “จิ้งจิ้ง ตอนที่เธอเซ็นชื่อเธอร้องไห้ ในเมื่อร้องไห้แล้ว ทำไมถึงยังเซ็นต่อไปอีก”

เวินจิ้งกำกระเป๋าที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น เดินก้าวยาว ๆ ออกไปโดยไม่หันกลับไปมองเขา

แต่ละก้าวแฝงไปด้วยความเร่งรีบ เงาแผ่นหลังเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

เพียงแต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที แขนของเธอก็ถูกผู้ชายที่ไล่ตามมารั้งเอาไว้ “จิ้งจิ้ง ความจริงแล้วเธอต้องการอะไรกันแน่”

ดูเหมือนเธอจะคาดเอาได้ถึงการกระทำของเขามาตั้งแต่แรกแล้ว ทันทีเธอมือของเขาสัมผัสลงบนแขนของเธอมันก็ถูกสะบัดออก

เธอหันตัวกลับไป ดวงตาแดงก่ำ “คุณต้องการอะไรกันแน่! ฉันเคยพูดไว้ตั้งนานแล้วว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว คุณเข้าใจไหม ต้องให้ฉันพูดอีกสักกี่ครั้งคุณถึงจะเข้าใจ”

เธอสูดหายใจอย่างแรง นี้เป็นครั้งแรกของในช่วงเวลานี้ ที่เธอแสดงออกมาถึงความโกรธอันมากมาย เป็นความโกรธทั้งหมดที่เธอมี

“คุณต้องการให้ฉันตายใช่ไหมถึงจะยอม แม้แต่ลูกของฉันคุณก็พรากเขาไป คุณต้องการให้ฉันตายไปเลยใช่ไหมมู่วี่สิง”

กระเป๋าสะพายของเธอหล่นลงบนพื้น บรรยากาศระหว่างทั้งสองหยุดชะงัก ดวงตาของเขาที่เรียบนิ่งมาเนิ่นนานได้ระเบิดความโกรธเป็นครั้งแรก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท