Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 727

ตอนที่ 727

บทที่ 727 ฆ่าเขาไปแล้วครึ่งชีวิต

ตอนนี้คนในสนามบินไม่ได้เยอะ แต่เพราะลี่หนานเฉิงพาคนมามากมายขนาดนั้น เลยดึงดูดความวุ่นวายไว้ไม่น้อย

ใบหน้าของเวินจิ้งซีดขาวแต่เยือกเย็น เธอเม้มริมฝีปาก มองไปทางลี่หนานเฉิงนิ่ง ๆ “ตอนที่ฉันออกมาเขาไม่ได้บอกว่าไม่ให้ฉันไป ลี่หนานเฉิง นายไม่มีสิทธิ์มาขวางทางฉัน”

ลี่หนานเฉิงในตอนนี้กระวนกระวายคล้ายถูกไฟแผดเผา ก้าวไปข้างหน้า คว้าแขนของเวินจิ้ง จากนั้นก็พาเธอเดินออกไปโดยตรง “เวินจิ้ง ตอนนี้ฉันกำลังกังวลเรื่องของวี่สิง ไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับเธอ ดังนั้นขอพูดเลยนะว่า ถ้าตอนนี้เธอไม่ไปกับฉัน ฉันก็ไม่รับประกันว่าจะไม่ทำอะไรหยูจิ่งห้วน”

น้ำเสียงของเขาดูเย่อหยิ่งถือดี ในฐานะประมุขตระกูลลี่ วิธีการลงมือของเขาเทียบได้กับมู่วี่สิง

เวินจิ้งพูดออกมาด้วยเสียงเย็น “ทำไม ถ้าอย่างนั้นนายก็ลงมือกับฉันไปด้วยเลยสิ”

พูดจบ เธอก็ใช้แรงสะบัดลี่หนานเฉิงออกจากมือ

โทสะที่ลี่หนานเฉิงสยบเอาไว้ตั้งแต่แรก ในที่สุดก็ระเบิดออกมา “เธอทำทำร้ายเพื่อนของฉันอย่างใจจืดใจดำเพื่อผู้ชายคนนี้อย่างนั้นเหรอ เวินจิ้ง ทำไมเธอถึงได้โหดร้ายขนาดนี้!”

เวินจิ้งไม่แม้แต่กะพริบตา สีหน้าเย็นชาและเรียบนิ่ง “ฉันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ เขาใช้มีดมาบังคับฉัน อย่ามาใส่ร้ายฉัน”

ลี่หนานเฉิงยังคงโมโหอยู่มาก “เธอเป็นภรรยาของเขา คิดจะหนีไปกับผู้ชายคนอื่นแท้ ๆ ยังจะพูดอย่างเต็มปากเต็มคำแบบนี้ได้อีกนะ! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเธอเป็นคนผิด!”

เขาสูดหายใจ รู้สึกว่ายิ่งพูดก็ยิ่งเสียเวลา “ฉันไม่อยากพูดกับเธอแล้ว เธอรีบกลับไปพร้อมฉันเดี๋ยวนี้!”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว“นายอย่าให้มันมากเกินไปจะได้ไหม!”

ลี่หนานเฉิงโกรธมากแล้ว เขาถลึงตามองเวินจิ้งอย่างโมโห ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความโกรธ“วี่สิงเกิดอุบัติเหตุเพราะขับรถไล่ตามเธอ เธอยังบอกว่าฉันเกินไปอีกอย่างนั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขารักเธอ ตอนนี้ฉันก็ไม่มาสนใจหญิงโฉดชายชั่วอย่างพวกเธอสองคนหรอก!”

ตอนนี้เป็นหยูจิ่งห้วนที่นิ่งอึ้ง เวินจิ้งทำร้ายมู่วี่สิงอย่างนั้นเหรอ

มู่วี่สิง…ประสบอุบัติเหตุอย่างนั้นเหรอ

เวินจิ้งเองก็ชะงัก เธอรู้สึกมือเท้าเย็นเยียบ ไม่รู้ว่าตรงไหนของร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่เมื่อพูดน้ำเสียงที่ออกมากกลับสงบนิ่ง ดวงตามองไปยังลี่หนานเฉิง “ประสบอุบัติเหตุ…ถ้าอย่างนั้นเขาตายแล้วหรือยัง”

ลี่หนานเฉิงรู้สึกคล้ายจะหายใจไม่ออก ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเธอคือการถามว่ามู่วี่สิงตายแล้วหรือยัง

ลี่หนานเฉิงโกรธจนควันออกหัว เขากัดฟันอย่างดุร้ายแล้วพูดว่า “ตอนนี้เธอต้องรีบกลับไปกับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งเธอเข้าคุกในข้อหาพยายามฆ่า ให้เธอได้มีชีวิตอยู่อย่างไม่รู้เดือนรู้ตะวัน!”

หลังจากนั้นเขาก็ออกแรงลากเวินจิ้งออกมาจากสนามบิน เวินจิ้งไม่แม้แต่จะได้หยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนเก้าอี้ไปด้วย ก็ถูกลี่หนานเฉิงกระชากตัวออกไป

เธอไม่ได้ต่อต้าน ไม่รู้ว่าเพราะไม่มีแรงต่อต้าน หรือว่าไม่คิดจะต่อต้าน

ตอนที่เวินจิ้งถูกลี่หนานเฉิงพาตัวมาที่โรงพยาบาล มู่เฉิงก็มาถึงแล้ว

สีหน้าของเธอล่องลอย แต่ยังคงเย็นชา

มู่เฉิงใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ สีหน้าเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ความตื่นเต้นถูกสะกดเอาไว้ “เวินจิ้ง”

เขาหายใจแรงทุกครั้งที่พูดแต่ละคำออกมา “เธอเป็นคนทำร้ายวี่สิง เขาประสบอุบัติเหตุเพราะขับรถไล่ตามเธอสินะ”

แพขนตาของเวินจิ้งขยับ เธอพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “ใช่ค่ะ”

มู่เฉิงพยายามที่จะควบคุมอารมณ์เอาไว้ เขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปจัดการเรื่องระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนานแล้ว

ทว่าใบหน้าที่เรียบนิ่งไร้อารมณ์ของเวินจิ้งตอนนี้กระตุ้นความโกรธของเขาอย่างง่ายดาย เขาสูดหายใจแรง “ฉันยอมรับว่าฉันทำผิด ฉันทำผิดต่อเธอจริง ๆ เธอจะแก้แค้นฉันยังไงฉันก็ไม่ว่า แต่เวินจิ้ง…”

“วี่สิงทำผิดต่อเธอมากมายอะไรนักหนาเธอถึงอยากจะฆ่าเขา เขาทำอะไรที่ผิดต่อเธอ เธอพูดมาสิ!”

เวินจิ้งค่อย ๆ หลับตาลง เธอเพียงยืนอย่างเงียบ ๆ “เขาไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อหนู หนูก็แค่อยากจะไปก็เท่านั้น คุณเข้าใจผิดแล้ว หนูไม่ได้อยากจะฆ่าเขา”

“เธอไม่คิดที่จะฆ่าเขา แต่ตอนนี้เธอก็ฆ่าเขาไปครึ่งชีวิตแล้ว!”

ใช้เวลานานกว่าที่มู่เฉิงจะสงบลง “เวินจิ้ง ฉันขอร้องเธอไม่มาก ถ้าเขายังมีชีวิตรอด เธอหยุดทำร้ายเขาได้ไหม”

เวินจิ้งไม่ได้สนใจคำพูดของมู่เฉิง เพียงแต่หาที่นั่งนั่งลงเงียบ ๆ นั่งรอไม่ขยับเขยื้อน

ลี่หนานเฉิงเหลือบตามอง จากนั้นก็ไปหาที่นั่งรอ

ตอนที่การผ่าตัดสิ้นสุดลงท้องฟ้าก็มืดแล้ว

ทันทีที่ประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออก ลี่หนานเฉิงก็พุ่งเข้าไปคนแรก “เป็นยังไงบ้าง เพื่อนฉันเป็นยังไงบ้าง จะฟื้นได้เมื่อไหร่”

มู่เฉิงก็เดินตามไป เขาถามอย่างเป็นกังวล “วี่สิงเป็นยังไงบ้าง”

คุณหมอถอดหน้ากากอนามัยออก พูดออกมาอย่างเหนื่อยล้า “คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว ตอนนี้กำลังจะย้ายไปห้องไอซียู หากไม่เกิดปัญหาร้ายแรงอะไรก็สามารถย้ายไปห้องพักฟื้นธรรมดาได้”

แผลที่ถูกแทงไม่ได้สาหัส ส่วนเรื่องอุบัติเหตุ มู่วี่สิงรู้ดีว่าควรทำอย่างไรให้ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด ดังนั้นเขาจึงช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ได้

“เวินจิ้ง” เวินจิ้งกำลังก้มหน้า ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เสียงของมู่เฉิงดังขึ้นจากเหนือศีรษะของเธอ “ฉันอยากจะขอร้องอะไรเธอสักเรื่อง”

เวินจิ้งเงยหน้า “พูดมาสิคะ”

“ความรักความผูกพันระหว่างเธอกับวี่สิง ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่สามารถบังคับได้ ตาแก่เลว ๆ อย่างฉันเองก็ไม่มีวิธีจะไปบีบบังคับเขา ถ้าเธอไม่อยากอยู่กับเขาแล้วอยากจะไปจริง ๆ ฉันก็ไม่บังคับให้เธออยู่”

เขาถอนหายใจ น้ำเสียงในตอนนี้เต็มไปด้วยคำวิงวอน “แต่ว่านะเวินจิ้ง เธอเองก็รู้ว่าขนาดเขาบาดเจ็บขนาดนั้นก็ยังไม่ใส่ใจตัวเอง ยังคิดจะไล่ตามเธอต่อ ดื้อรั้นเสียมากมายขนาดนั้น ตอนนี้เขาบาดเจ็บหนัก…ไม่ว่าจะอย่างไร รอเขาอาการดีขึ้นแล้วค่อยคิดเรื่องหย่ากับเรื่องที่จะไปได้ไหม”

หลังจากผ่านความผันผวนของชีวิตแล้ว มู่เฉิงก็ทำได้เพียงแค่นี้

ในที่สุดเวินจิ้งที่ทำสีหน้าไร้อารมณ์มาตลอดก็รู้สึกสับสนมึนงง “อยู่ต่อเหรอคะ”

ถ้าเธอไม่ตกปากรับคำ จะดูไร้น้ำใจเกินไปไหมนะ

แต่ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะพยักหน้า

รู้สึกแค่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เธอหมดเรี่ยวแรง ทันใดนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นยืน “หนู…หนูไม่รู้ ในเมื่อเขาไม่เป็นอะไรแล้ว หนูอยาก…”

พูดจบ เธอก็หมุนตัวเตรียมเดินออกไป

เวินจิ้งเดินอยู่บนถนนเพียงคนเดียว ความจริงแล้วเธอไม่มีที่ที่จะไป จากมู่วี่สิงไปแล้ว ดูเหมือนว่าเธออยู่ที่นี่ก็เหลือตัวเองเพียงคนเดียว

แต่เธอไม่เป็นไร…ดีเหมือนกัน

เธอเดินอยู่บนถนนที่พลุกพล่านนานกว่าครึ่งชั่วโมง อยู่ ๆ ใบหน้าดำมืดของลี่หนานเฉิงก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ “ฉันไม่สนใจว่าเธอจะสมัครใจหรือเปล่า ถึงยังไงถ้ามู่วี่สิงยังไม่หายดีเธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าเธอยังกล้าที่จะวิ่งวุ่นละก็…ฉันจะไม่ปล่อยหยูจิ่งห้วนเอาไว้แน่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท