Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 730

ตอนที่ 730

บทที่ 730 ฉันยังคิดว่าเธอจะออกมาไม่ได้แล้วเสียอีก

สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที

“ที่พวกเราแต่งงานกันตอนแรกก็ไม่ใช่เพราะว่ารักกัน แต่ละคนก็ต่างทำเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ คุณต้องการภรรยา ส่วนฉันต้องรับมือกับแรงกดดันของที่บ้าน ถึงเวลาพวกเราก็แยกย้ายกัน”

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ข้างนอกยิ้มแต่ข้างในไม่ยิ้ม “เดิมทีหยูจิ่งห้วนเป็นคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของคุณ ฉันถูกออร่าของเขาดึงดูด ฉันชอบชายหนุ่มที่มีชีวิตชีวาแบบนั้น ไม่ชอบผู้ชายที่เผด็จการไม่มีเหตุผลเหมือนกับคุณ เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เล็กจนโต”

นัยน์ตาดำดั่งหินออบซิเดี้ยนของมู่วี่สิงจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ดวงตาของเขาดำลึก ผิวของเขาไม่มีแม้แต่สีเลือด

หัวใจของเธออ่อนยวบ จึงหมุนตัวไม่มองเขาอีก “ฉันจะไปเอาอาหารเที่ยงมาให้”

มองเงาแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินออกไป ความเจ็บปวดที่คุ้นเคยแพร่กระจายไปทั่วหัวใจของเขา จากนั้นมันก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกายอย่างรวดเร็ว

ตอนที่เวินจิ้งเพิ่งจะออกไป ลี่หนานเฉิงก็เข้ามา เขาสัมผัสได้ว่าบรรยากาศในห้องพักฟื้นไม่ค่อยดีนัก

เขายิ้มเยาะแล้วก้าวไปข้างหน้า “เป็นยังไงบ้าง ไม่สบายตรงไหนไหม”

หัวใจของเขาเต้นดังตึกตัก หรือว่าเวินจิ้งพูดกระตุ้นอะไรไป

มู่วี่สิงพูดออกมาอย่างเย็นชา “ผู้ชายที่เวินจิ้งชอบเป็นแบบไหน”

ลี่หนานเฉิงเกาหัว พยายามขุดสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับหยูจิ่งห้วนออกมา

“เขาเป็นคนสุภาพเรียบร้อย มีการศึกษาและวัฒนธรรม…รู้จักหักห้ามใจ คล่องแคล่วว่องไว เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ…”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วแน่น บาดแผลทั้งร่างราวกับกำลังฉีกขาด

อัจฉริยะเหรอ…

เขาก็เป็นอัจฉริยะ เขาก็มีการศึกษาและวัฒนธรรม แต่ตอนที่อยู่ต่อหน้าเวินจิ้ง…จะให้เขาทำตัวปกติได้อย่างไง จะรู้จักหักห้ามใจได้อย่างไร

หลังจากนั้นสิบนาทีเวินจิ้งก็ยกมื้อเที่ยงเข้ามา ลี่หนานเฉิงไม่อยู่แล้ว ห้องพักพื้นที่สว่างไสวเงียบราวกับจะได้ยินเสียงลงหายใจ ชายหนุ่มหลับตา ลมหายใจสม่ำเสมอ

เธอเหลือบมองเขา จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างเตียง จากนั้นก็สะกิดลงบนใบหน้าของเขาอย่างไร้ความรู้สึก “กินข้าวเถอะ เลิกแกล้งหลับได้แล้ว”

มู่วี่สิงลืมตา ถามออกมาอย่างอึดอัดใจ “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันยังไม่หลับ”

เวินจิ้งตักโจ๊กอย่างระมัดระวังพลางตอบคำถามเขา “เวลาคุณหลับไม่ได้หายใจแบบนี้”

เธอตักโจ๊กถั่วแดงป้อนเขาอย่างระมัดระวัง “กินเถอะ”

เขาไม่อ้าปากรับ ทำเพียงจ้องมองเธอ นัยน์ตาดำลึก พูดดอกมาทีละคำ ๆ “เวินจิ้ง เขาไปแล้ว ไม่สนใจว่าเธอจะรักเขามากขนาดไหน”

เธอถือโจ๊กถั่วแดงที่ยังคงเต็มช้อนเอาไว้ แล้วหลับตาลงอย่างเงียบ ๆ

ชายหนุ่มยกมือขึ้น เห็นชัด ๆ ว่าการทำอย่างนี้กินแรงเขาอยู่มาก แต่เขาก็ยังคงพยายามที่จะยกมือขึ้น กระทั่งปลายนิ้วที่แสบร้อนสัมผัสลงบนผิวของเธอ “ฉันทำให้เขาไปแล้ว หลังจากนี้ฉันจะดีกับเธอให้มากกว่าเขา”

ไม่รู้ว่าเพราะค่อย ๆ พูดช้าลง หรือเพราะว่าการที่ต้องพูดมากมากขนาดนั้นกินแรงของเขามากกันแน่ “ฉันชดใช้ให้เธอได้ จะใช้อนาคตทั้งหมดกับเธอคนเดียว ขอแค่เธอลืมเขา”

ดวงตาของเขามักจับจ้องใบหน้าเล็ก ๆ ของเธออย่างตั้งใจ ไม่ยอมที่จะพลาดสีหน้าใด ๆ ของเธอ

เธออดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม

ฉันชดใช้ให้เธอได้ จะใช้อนาคตทั้งหมดกับเธอคนเดียว

เธอหลับตาลง “กินโจ๊กเถอะ เดี๋ยวมันจะเย็น”

แววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนมืดมนอย่างรวดเร็ว เขาพูดเสียงเบา “ได้ เธอป้อนฉัน”

หลังจากที่พักอยู่ที่โรงพยาบาลกว่าหนึ่งเดือน มู่วี่สิงก็ยืนยันที่จะกลับไปพักต่อที่บ้าน

เมื่อมู่เฉิงได้ยินแบบนี้ก็มองไปที่เวินจิ้งที่นั่งเงียบอยู่บนโซฟา เขายิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “แบบนั้นก็ดี วี่สิง แกกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านใหญ่ก็แล้วกัน ที่นั่นมีคนรับใช้เก่าแก่อยู่เยอะ การดูแลไม่ต่างจากพยาบาลในโรงพยาบาลมากนัก”

เวินจิ้งอ่านนิตยสารที่อยู่ในมือเป็นพัก ๆ ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร

ทว่ามู่วี่สิงปฏิเสธ ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา “ไม่ต้องหรอกครับ ผมกับเวินจิ้งจะกลับบ้านตระกูลมู่ เธอจะดูแลผมเอง”

นิ้วมือของเวินจิ้งแข็งค้าง จากนั้นก็เงยหน้ามองเขา “มู่วี่สิง คุณปู่ของคุณบอกให้คุณกลับบ้านใหญ่ก็กลับบ้านใหญ่ ฉันไม่ชอบดูแลใคร”

มู่เฉิงรีบสอดปากทันที “แกดูสิ แต่งเมียมาเพื่อในเธอดูแลแกหรอกเหรอ มีคนรับใช้ให้กดขี่กลับไม่ใช้ จะใช้เมีย ไม่แปลกใจที่เธอจะไม่สนใจแก”

น้ำเสียงของเขาฟังดูเปิดเผย แต่กลับมีความไม่แน่ใจและการหยั่งเชิงแฝงอยู่หลายส่วนอย่างน่าแปลกประหลาด

ปลายนิ้วมือของเวินจิ้งยังคงพลิกเปิดนิตยสารต่อไป พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ใช่”

หลังจากที่เธอตกบันไดจนแท้งลูกเมื่อครั้งนั้น เธอก็ไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลมู่อีก เธอคิดว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว

ดังนั้นเมื่อเธอต้องเห็นแสงภายใต้โคมไฟหลากสีของตระกูลมู่กับบันไดสูงชันนั่นอีกครั้ง ความเจ็บปวดรวดร้าวแพร่กระจายไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจทันที

นิ้วเรียวของเธอกำแน่น พยายามสูดหายใจแรงเพื่อระงับและขับไล่ความเจ็บปวดในใจ

หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เธอก็เข้ามาในห้องนอนเพื่อทำความสะอาดที่นอน ตอนนี้มีบนเตียงมีหมอนอยู่เพียงใบเดียว

มู่วี่สิงมองหน้าเธอ น้ำเสียงหลบซ่อนความแปลกใจเอาไว้ไม่อยู่ ขมวดคิ้วแน่น “เธอไม่ได้นอนกับฉันเหรอ”

หรือว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยนอนหนุนหมอนร่วมเตียงกับเธออย่างนั้นเหรอ

สีหน้าของเวินจิ้งไม่เปลี่ยน “พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แน่นอนว่าไม่ได้นอนด้วยกัน”

สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองเล็กน้อย “ฉันไม่เคยแตะต้องเธอเลยอย่างนั้นเหรอ”

ดวงตาของเธอใสสะอาดไร้มลทิน “ใช่ ถ้าคุณกล้าแตะต้องฉัน ฉันก็จะตายไปพร้อมกับคุณ”

เหอะ ตายไปพร้อมกัน

เป็นเพราะเจ้าหยูจิ่งห้วนคนนั้นเหรอ

เขาเม้มริมฝีปาก แววตาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงของเธอก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “จิ่งห้วนออกจากเมืองหนานไปแล้ว คุณไม่ได้รับอนุญาตให้สืบหาเขาหรือส่งคนไปติดตามและแก้แค้นเขาอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณ”

นัยน์ตาดำลึกของเขาไม่สามารถคาดเดาในตัวเธอได้ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ได้ ฉันจะไม่ตามหาเขา จะไม่ส่งคนไปทำอะไรเขา แต่มีข้อแม้ เธอต้องยอมเป็นคุณนายมู่ของฉัน”

เวินจิ้งยกยิ้มเย็น “มู่วี่สิง เดิมทีข้อตกลงแบบนี้ก็ไม่ได้ต้องการความสมัครใจ แต่ฉันรอได้ ดูสิว่าคุณหรือฉันที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก่อน”

ดวงตาของเธอโปร่งใสเหมือนกระจก “ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ถ้าใช้เวลาถึงสามปีเปลี่ยนมันไม่ได้ ดังนั้นจะเวลาสิบปีหรือสามสิบปีก็เปลี่ยนมันไม่ได้เหมือนกัน”

พูดจบเธอก็เดินออกไป

มู่เฉิงยืนถือไม้เท้าอยู่นอกระเบียงทางเดิน ดูเหมือนว่าจะตั้งใจรอเธออยู่

ในเมื่อเขาไม่เคาะประตู ก็น่าจะแปลว่ากำลังรอเธอออกมา

“ฉันยังคิดว่าเธอจะออกมาไม่ได้แล้วเสียอีก เวินจิ้ง วี่สิงเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว”

“คุณปู่มู่มารอหนูถึงที่นี่ คงไม่ได้อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกใช่ไหมคะ”

มู่เฉิงจ้องมองเธออยู่นาน จากนั้นก็เปิดปากพูด “ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมให้อภัยวี่สิงจริง ๆ ใช่ไหม”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท