Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 736

ตอนที่ 736

บทที่ 736 เพื่อให้คุณเต็มใจกลับมา

เวินจิ้งโกรธจนขัดคำพูดของเขา “วิธีการแก้ไขปัญหาของคุณง่ายๆ แค่นี้หรือ คุณคิดว่าทำอย่างนี้แล้วจะลบเรื่องทุกอย่างได้หรือไง”

เขาไม่รู้….ถ้าหากเขาเป็นอะไรไปจริง…เรื่องที่เธอแทงเขาคงจะกลายเป็นฝันร้ายของเธอตลอดไป

“ถ้าคุณไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาที่น่าพอใจให้ผม ผมก็ทำได้แต่วิธีตื้นเขินแบบนี้ คุณยังระบายความแค้นไม่พอหรือมีปมในใจ ผมยอมให้คุณระบายโทสะตามใจ แต่อย่าไปจากผมก็พอ”

น้ำเสียงเอาแต่ใจของเขาประกาศข้างหูเธอ “จิ้งจิ้ง ผมรักคุณมากมาตลอด ฉะนั้น ห้ามหย่าเด็ดขาด”

เขาจำอดีตไม่ได้ไม่ใช่หรือ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขารักเธอมากขนาดนั้น

“คุณใช้อำนาจขังฉันไว้นี่หรือคือวิธีที่คุณรักฉัน” เวินจิ้งช้อนตามองเขา “มู่วี่สิง ถ้าคุณไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลในเมืองหนาน ตอนนี้ฉันจะยืนอยู่ตรงหน้าคุณหรือเปล่า”

มู่วี่สิงหายใจหนัก “คุณคือภรรยาผม คุณอยู่บ้านผม หมายความว่าผมขังคุณไว้อย่างนั้นหรือ”

เขาคิดว่าตัวเองให้อิสระเธอมากพอ

แต่เวินจิ้งกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น สายตาคู่นั้นบ่งบอกความหมายนี้ชัดเจน

มู่วี่สิงโกรธจัด แต่ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเอง “ให้คุณย้ายออกไปจากบ้านตระกูลมู่ แปลว่าไม่ขังคุณใช่ไหม”

เวินจิ้งหรี่ตา “ไม่ใช้อำนาจของคุณค่ะ”

เธอพูดเรียบๆ “มีความสามารถก็ตามฉัน เหมือนผู้ชายทั่วไปตามผู้หญิง แต่ไม่ใช่จำกัดสิทธิ์ฉันจะคบเพื่อนคนไหน แล้วไล่ตะเพิดผู้ชายที่ใกล้ชิดฉันไปทุกคน”

“งั้นต้องการให้ผมพา หยูจิ่งห้วน กลับมาไหม เห็นพวกคุณสนิทสนมกันแล้วก็ถูกแย่งคนรักไปอีกครั้ง”

เธอเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้อง!

ในเมื่อเขาเป็นสามี จะควบคุมนิดๆ หน่อยๆ ไม่น่าจะเกินไปไม่ใช่หรือ!

เธออยากจะพูดเติมไปอีกประโยคงั้นก็ต้องให้คุณแย่งคนรักกลับมา

ถ้าเธอชอบผู้ชายคนอื่นจริง ถึงเขามีอำนาจล้นฟ้าเธอก็ไม่ใส่ใจ

ท่าทีของเวินจิ้งครุ่นคิดอย่างจริงจัง “เรื่องหมอหยูช่างเถอะ ถึงยังไงเขาก็เคยเป็นลูกน้องคุณ เมื่อก่อนพวกคุณก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ฉันไม่อยากให้ความสัมพันธ์พวกคุณย่ำแย่”

เป็นเพราะเธอหยูจิ่งห้วนจึงทิ้งงานที่โรงพยาบาลเมืองหนานแต่แรก ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดมากพอแล้ว

“อย่างนั้น ตอนนี้คุณยอมให้ฉันย้ายออกไปแล้วใช่มั้ย” ทันใดนั้นปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าเวินจิ้ง

สีหน้ามู่วี่สิงเงียบขรึม ครู่ใหญ่ถึงจะพยักหน้าช้าๆ “อึม”

เมื่อได้ยินเสียงนั้น นัยน์ตาของเวินจิ้งเป็นประกาย ใบหน้าของชายหนุ่มกลับยิ่งนิ่งขรึม “บ้านทุกหลังของผม คุณอยากอยู่ที่ไหนผมจะช่วยคุณย้ายกระเป๋าเดินทางเอง หลังจากแผลของผมหายดี”

เวินจิ้งอึ้งไป “ให้ฉันอยู่บ้านของคุณ”

เช่นนั้นจะต่างอะไรกับอยู่บ้านตระกูลมู่…

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “คุณไม่อยู่บ้านผมแล้วอยากจะไปอยู่ไหน คิดจะไปหาหยูจิ่งห้วน หรือว่าคนชงกาแฟนั่น”

“คุณอยากอยู่โรงแรมงั้นหรือ” เขาขยับเข้ามาใกล้เธอ ขมวดคิ้วแน่น “หรือคุณอยากจะกลับไปบ้านตระกูลโจวที่ลอนดอน”

“กลับลอนดอนก็เป็นความคิดที่ไม่เลว”

เวินจิ้งพยักหน้าเห็นด้วย เธอเองก็ไม่ได้เห็นหน้าพ่อแม่นานแล้ว

แต่เรื่องของพี่ชาย เธอไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับแม่อย่างไรดี

แม่หวังว่าเธอจะนำข่าวดีกลับไป

แต่ฝันร้ายในตอนนี้ แม้แต่เธอเองก็รับไม่ไหว แล้วหลินเวยจะรับไหวหรือ

“ไม่ได้” มู่วี่สิงปฏิเสธโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น “ผมไม่อยากให้คุณอยู่ห่างผมไกลขนาดนั้น”

เวินจิ้งกลอกตา “งั้นอยู่อพาร์ทเมนท์ในเมืองของคุณที่เล็กหน่อยก็ได้ ความปลอดภัยดี สิ่งแวดล้อมก็ดี แถมยังอยู่ใกล้ร้านกาแฟด้วย”

จมูกของเขาแทบจะชนกับจมูกของเธอ “เวินจิ้ง คุณอยากใกล้ชิดผู้ชายชงกาแฟขนาดนั้นเลยหรือ”

เวินจิ้งยิ้มจนตาหยี “ฉันตกลงอยู่ที่พักของคุณแล้ว”

ตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมานับเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรอยยิ้มของเวินจิ้งเช่นนี้ จิตใจหวั่นไหว ตอบรับโดยไม่ลังเล

เวินจิ้งเก็บกระเป๋าด้วยความดีใจ ชายหนุ่มกลับสีหน้าเคร่งขรึมมองเธอเก็บข้าวของ

“ในเมื่อคุณอยากจะย้ายออก ก็รอให้ผมหายก่อนค่อยย้าย อึม”

“ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้คุณขึ้นลงบันไดได้แล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่คนใช้หรือหมอ อยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์”

ให้เธอออกไปจากบ้านตระกูลมู่ เธอรู้สึกว่าตัวเองได้ฟื้นคืนชีพแล้ว และยังมีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับเขา ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ แม้แต่อยากจะพูดกับเขาสักประโยคก็ไม่รู้สึก

“ผมปล่อยคุณไปครั้งหนึ่ง” เวินจิ้งไม่กินข้าวรีบกลับห้องมาเก็บกระเป๋า รูดซิปเส้นสุดท้าย น้ำเสียงของชายหนุ่มผ่อนคลายลงบ้าง “ก็เพื่อให้คุณเต็มใจกลับมา”

มือของเธอชะงัก เพราะกำลังก้มเอวผมจึงลู่ลง ปิดบังสีหน้าของเธอ

“โอเค”

เขาตอบเรียบๆ “งั้นผมจะรอละกัน”

ไปจากที่นี่ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องปรากฏต่อหน้าเขาทุกวัน และเธอก็ไม่ต้องเจอหน้าเขาทุกวัน หรือว่าบางเรื่อง…ก็เปลี่ยนเป็นง่ายแล้ว

“ในเมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ผมจะไปส่งคุณเอง”

“คุณเอากุญแจรถมา ฉันขับรถไปเองก็ได้”

เธอเร่งรีบจนรอไม่ไหวขนาดนี้เลยหรือ

“เวินจิ้ง ถ้าคุณยังได้คืบเอาศอกอีกผมจะไม่ใช่เหตุผลกับคุณ ลงไปกินข้าว พรุ่งนี้ค่อยไป!”

เวินจิ้งครุ่นคิด ไม่เร่งรีบอะไรขนาดนั้น จึงวางของลงไปกินข้าว

ขณะเดินลงบันได เธอมองเห็นเขาก้าวแต่ละก้าวรู้สึกหวาดกลัว เขาเพิ่งพันแผลใหม่…ซ้ำไปซ้ำมาเมื่อไหร่ถึงจะหาย…

เขาอยู่บ้านพักฟื้น คงไม่มีกำลังอะไรมากลั่นแกล้งเธอใช่ไหม…

ขณะเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร มู่เฉิงกับมู่ซีนั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว “คุณชาย แผลไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”

มู่วี่สิงไม่แม้แต่จะมองมู่ซีเดินผ่านเธอไป

อาหารมื้อนี้หนักอึ้ง มู่เฉิงรู้สึกได้ว่าบรรยากาศแปลกไป “วี่สิง เกิดอะไรขึ้น ได้ยินคนรับใช้บอกว่าหลิงเหยามาที่นี่หรือ”

เวินจิ้งกะพริบตา พูดเสียงเรียบ “พรุ่งนี้ฉันจะย้ายออกค่ะ”

มู่เฉิงประหลาดใจ มองหลานของตัวเอง “ทำไมย้ายออกล่ะ”

เขาหลุบตา “ก็แค่สามีภรรยาแยกกันอยู่ตามปกติ”

เธออยู่ที่นี่ นอกจากมู่วี่สิงแล้ว คนอื่นไม่เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งเธออยากจะไปแล้ว ดูเหมือนจะสมความปรารถนาไม่น้อย

วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งก็แบกกระเป๋าจากไปแต่เช้าตรู่ คนรับใช้สูงอายุเกลี้ยกล่อมเธอ “คุณนาย รอคุณชายตื่นก่อนค่อยไปไหมคะ ไม่อย่างนั้นคุณชายต้องโกรธแน่”

เธอยิ้มไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องหรอกค่ะ รอเขาตื่นก็จะต้องไปส่งฉันเอง ตอนนี้ร่างกายเขาจะไปๆ มาๆ ไม่ไหว เดี๋ยวฉันจะโทรหาเขาเองค่ะ”

ท้องฟ้าเพิ่งจะเริ่มสว่าง ท้องฟ้ายังคงค่อนข้างมืด แม้แต่คนรับใช้และบอดี้การ์ดตระกูลมู่เธอก็ไม่ให้ไปส่ง เรียกรถไปใจกลางเมืองเอง มู่วี่สิงบอกรหัสอพาร์ทเมนท์ให้เธอแล้ว

ห้องพักว่างเปล่า ในห้องมีคราบฝุ่นเกาะ เธอยืนตรงกลางห้องรับแขก รู้สึกว่าจิตใจสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท