Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 743

ตอนที่ 743

บทที่ 743 เขามีความมั่นใจ

เวินจิ้งหายใจแรงๆ ปล่อยให้เขากอดตัวเอง หลับตาแต่เธอก็กลับเย็นชาเหมือนเดิมอย่างรอดเร็ว”คุณก็จูบและกอดพอแล้ว ตอนนี้ฉันไปเปลี่ยนชุดและแปรงฟันล้างหน้าได้ยัง”

มือของผู้ชายแข็งไปเล็กน้อย เขายอมให้เธอโกรธหรือตบเขามากกว่า แต่ไม่ให้เหมือนตอนนี้สงบเฉยเมย พยายามทำเป็นเย็นชาเพื่อจะไม่สนใจเขา

เขาค่อยๆปล่อยมือ ยังมีรอยยิ้มที่ลูบคลำอยู่บนใบหน้าของเขา”ได้สิ”

เวินจิ้งหยิบเสื้อผ้าและเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเธอเปลี่ยนชุดเสร็จออกมา ผู้ชายไม่อยู่ในห้องนอนแล้ว เธอก้มตาและถอนหายใจอย่างโล่งอก

เธอไปห้องครัวเตรียมอาหารเช้า เมื่อทำก๋วยเตี๋ยวชามเล็กและทอดไข่เสร็จกำลังจะถือออกมา กริ่งประตูก็ดังพอดี มู่วี่สิงไปเปิดประตู

มู่ซียืนอยู่หน้าประตู ก็ไม่คิดจะเข้าไป เมื่อเห็นมู่วี่สิง เธอจึงถามอย่างระมัดระวัง”คุณมู่ คุณปู่สั่งให้ฉันมาเยี่ยมคุณและพี่สะใภ้หน่อยค่ะ… ”

เธอกัดปากและยื่นกล่องเก็บความร้อนจากมือเธออย่างระมัดระวัง”แม่ครัวที่บ้านทำให้ค่ะ ถ้าคุณและพี่สะใภ้ยังไม่ได้ทานอาหารเช้าก็สามารถทานนี่ได้นะ”

มู่วี่สิงรับมาโดยไม่การใดๆแสดงออกว่า”อืม”

เสียงคำพูดกำลังจะหลุดออกมาจากปาก เมื่อเห็นมู่วี่สิงกำลังจะปิดประตู ดวงตาของมู่ซีงก็เบิกกว้า “คุณมู่คะ.. ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วอย่างไม่มีความอดทน และถามอย่างเย็นชาว่า “มีอะไรอีก ”

“คุณปู่ให้ฉันถามคุณว่า … คุณจะกลับบ้านเมื่อไหร่คะ ”

เธอพูดอย่างประหม่าว่า”คุณไม่ได้กลับไปหลายวันแล้ว คุณปู่คิดถึงคุณมากค่ะ”

ดวงตาของมู่วี่สิงก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม “มีคุณอยู่ตระกูลมู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณอยู่เป็นเพื่อนเขาไม่ได้ งั้นคุณอยู่ต่อจะมีประโยชน์อะไรละ”

ใบหน้าของมู่ซีซีดไปทันที ดวงตาของเธอได้รับความบาดเจ็บอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่านี่จะเป็นความจริง และเป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าเจ็บใจมากก็ตาม แต่พูดออกจากปากของเขา นั่นเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด

ตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าประตู เขาไม่คิดที่จะให้เธอเข้าไปด้วยซ้ำ

มู่วี่สิงเหลือบมองเธอเบาๆ”คุณกลับไปเถอะ อย่ามาอีก”

แววตาของเขาหนักอึ้ง”เธอไม่ชอบมาก”

ทั้งๆที่เขาจำอะไรไม่ได้แล้ว แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเวินจิ้งไม่ชอบ

มู่ซีอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกไป”เธอจะไม่ชอบได้ยังไงล่ะ และเธอก็แต่งงานกับคุณแล้ว เพราะฉะนั้นตระกูลมู่ก็คืนบ้านของเธอเหมือนกัน เธอจะไม่ชอบได้ยังไง”

คิ้วของผู้ชายสงบนิ่ง เย็นชาและบริสุทธิ์ หรี่ตาสีดำเบาๆ”บอกคุณปู่ว่า ตอนนี้ฉันไม่ตรวจสอบเรื่องของเมื่อ

ก่อน รักษาสภาพที่เป็นอยู่ก็จะดีที่สุด”

ทั้งๆที่ดวงตาของเขาดูเย็นชา แต่ราวกับเข็มเย็นแทงทะลุเส้นประสาทของเธอ ทำให้ทั้งตัวของเธอหวาดกลัวไปหมด

ประตูถูกปิดอย่างเย็นชา และใบหน้าสุดหล่อก็เย็นชาเหมือนเคย

เขาถือกล่องเก็บความร้อนเข้ามา เวินจิ้งยังกินก๋วยเตี๋ยวอย่างเงียบๆ ดวงตาของเธอไม่เคยเงยขึ้น เหมือนว่า

เธอไม่เห็นเขาเลย

มู่วี่สิงหาชามและช้อนให้ตัวเองอย่างเงียบๆ และตักโจ๊กหนึ่งชามออกมา กลิ่นหอมฟุ้งเต็มไปด้วยห้องอาหาร

เล็กๆทันที ถั่วแดงและข้าวเหนียว รสชาติอร่อยมาก

เขาตักหนึ่งช้อนแล้วยื่นไปที่ปากของเธอด้วยแขนยาว”โจ๊กที่คุณชอบที่สุด ลองชิมมั้ย”

เธอเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองเบาๆ”ฉันไม่ชอบกินแล้ว”

ดวงตาของเขามืดลง แต่ก็ไม่ได้เอามือกลับ และยิ้มด้วยเสียงต่ำว่า”ฉันเคยเห็นผู้หญิงหลายๆคนปฏิเสธผู้ชาย

ตามจีบพวกเธอ คนอื่นๆต้องลองก่อนถึงจะรู้ว่าได้หรือไม่ แล้วทำไมคุณไม่ให้โอกาสฉันสักหน่อยล่ะ”

เสียงของผู้ชายแผ่วเบาและนุ่มนวล”อย่างน้อยคุณต้องให้โอกาสฉันพิสูจน์ว่า ไม่มีใครรักคุณมากกว่าฉัน”

เขายื่นช้อนเข้าใกล้ปากของเธออีกครั้ง”นะๆ คุณต้องชิมก่อนถึงจะรู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ”

เวินจิ้งมองเขาอย่างเงียบๆ”ถ้าลองแล้ว คุณจะยอมรับความจริงหรือเปล่า”

เธอวางตะเกียบลง”ถ้าลองแล้ว เราจะหย่าได้แล้วใช่มั้ย”

เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าใกล้เขา ปากแดงเข้มของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเธอจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาและน่ารักของเขา”มู่วี่สิง คุณกล้าพนันป่ะล่ะ”

เขาขยับปากบางและพูดด้วยเสียงต่ำว่า”คุณอยากจะพนันยังไง”

เขาเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเธออย่างชัดเจน เธอพูดเบาๆว่า “เวลาสองปี”

เธอยื่นมือนิ่มๆเล็กๆออกมา”มากับฉัน”

เขามองมือที่เธอยื่นมาหาเขา และหลุดสติไปเบาๆ ยื่นมือออกไปตามธรรมชาติ จับมือที่อ่อนแอของเธอไว้

เธอดึงเขาขึ้นและเดินไปที่ห้องหนังสือ เขาไม่เข้าใจว่าเธอจะทำอะไร แต่ก็ตามไปอย่างเชื่อฟัง เธอจับมือเขาไว้ เขาก็ไม่ยอมปล่อยและไม่สามารถปล่อยได้ด้วย

เวินจิ้งเดินไปที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ด้วยมือข้างเดียว ค่อยปล่อยมือของเขา

เธอปิดระบบและแป้นพิมพ์ทีละบรรทัดอย่างใจเย็น เมื่อผู้ชายเห็นชื่อเรื่องในบรรทัดแรก สีหน้าก็ตึงขึ้นทันที

ข้อตกลงการหย่าร้าง

เธอหยิบมันออกมาจากเครื่องพิมพ์และส่งให้เขาด้วยตัวเอง”วันหย่าคือหลังสองปี คุณเซ็นชื่อของคุณลงในนี้ ห้ามขี้โกงเด็ดขาด ข้อตกลงฉบับนี้จะต้องถูกกฎหมาย”

หน้าตาของผู้หญิงสดใสสวยงาม รูปร่างเพรียว ผมยาวขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาขาวดำของเธอจ้องมองเขาอย่างสงบนิ่งและมั่นคง

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมั่นคงได้ขนาดนี้

มู่วี่สิงยกปากบางขึ้นและยิ้มอย่างเกียจคร้าน แต่คิ้วของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา”ถ้าฉันเซ็นชื่อแล้ว จะได้ผลอะไรบ้าง”

เขาวางมือไว้ข้างโต๊ะทั้งสองข้าง ขังร่างเล็กๆของเธอไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนแรงมาก”ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะโกรธหรือเปล่า”

จริงๆแล้วถ้าเขาอยากให้ข้อตกลงการหย่าร้างฉบับนี้ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็แค่ต้องใช้อำนาจหน่อย แต่เขาจะไม่ทำแบบนี้อีก

เวินจิ้งยกแขนขึ้นคล้องคอเขาและยืนขึ้น เอาหน้าขาวๆของเธอทับกับหน้าของเขา สายตาที่เย็นชามาโดยตลอดก็มีอารมณ์และเสน่ห์ขึ้นทันที เธอจูบเขาไปเรื่อยๆ หยอดอยู่ข้างหูเขาว่า”ถ้าฉันแค่แกล้งคุณจริงๆ แล้วไงล่ะ”

ดวงตาสีดำสงบมาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แตกต่าง”ถ้าคุณยอมเซ็นชื่อ ฉันก็จะพยายามลองเป็นคุณหญิงมู่ของคุณ”

เธอจงใจจะทำให้เขาสับสน มู่วี่สิงกอดเอวนุ่มของเธอ มีสติมากและเข้าใจอย่างชัดเจน

“จิ้งจิ้ง … คุณใช้ตัวเองเป็นเหยื่อเพื่อบังคับให้ฉันหย่ากับคุณใช่ไหม”

เขาไม่สามารถหลีกหนีการยั่วยวนแบบนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงจูบเธอตามความรู้สึกดั้งเดิมที่สุดของเขา จูบเธออย่างเร่าร้อนไปเรื่อยๆ แขนที่รัดแน่นดูเหมือนจะหลอมเธอให้เข้าไปในกระดูก

เขาพึมพำอย่างหัวเราะตัวเอง”จิ้งจิ้ง คุณให้ฉันทั้งกายและใจ ไม่กลัวว่าหยูจิ่งห้วนจะเสียใจเหรอ”

เขาค่อยๆพูดว่า “หลายสิ่งหลายอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในสองปี”

เขามีความมั่นใจ

เธอเงยคางขึ้นเล็กน้อย แบกรับการจูบที่ร้อนแรงที่คอของเธอ ดวงตาของเธอค่อยๆปิดไว้ ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนมีความเจ็บปวดเบาๆที่ไม่พูดไม่ถูก

“มันจะไม่สมบูรณ์แบบมากหรอก อย่างนี้ได้ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ยังไงก็ตามเราก็จะไม่รู้สึกไม่เต็มใจแล้ว”

แบบนี้ใช่ไหม เราจะได้ไม่รู้สึกไม่เต็มใจแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท