Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 739

ตอนที่ 739

บทที่ 739 ลืมเสมอว่าตัวเองเป็นคนป่วย

คุณชายจี้ยังไม่ทันพูดอะไร สายตาของเวินจิ้งก็มองไปที่ผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเขา รอยยิ้มบนริมฝีปากยิ่งเยาะเย้ย “คุณผู้หญิง อย่าบอกฉันนะคะว่าชุดที่คุณใส่คุณชายจี้ซื้อให้ทั้งตัว”

เธอเลิกคิ้วโก่ง “ฉันซื้อไม่ได้ด้วยราคาแค่นี้”

เธอหยิบกระดาษออกมา เช็ดนิ้วของตัวเองไม่รีบร้อน “ไม่อย่างนั้นคุณชายจี้แม้แต่สร้อยคอเส้นเดียวก็ซื้อไม่ไหว ถ้าอย่างนั้นฉันคงรู้สึกลำบากใจแย่”

สายตาของหลายคนมองสร้อยคอที่เธอสวมคู่กับเสื้อผ้าวันนี้ แบบเรียบง่าย เรียบง่ายจนอาจพูดได้ว่าไม่โดดเด่น แต่บางครั้งยิ่งเรียบยิ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง

คนที่มองออกเพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่า สร้อยคอที่เวินจิ้งสวมไม่ด้อยกว่าของแบรนด์เนมทั้งตัวหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ารวมกัน

ทั้งสองคนทำสีหน้าไม่ถูก โดยเฉพาะคุณชายจี้เหมือนกับถูกคนตบหน้าอย่างจัง

เขาแทบจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงทันที ลุกพรวดยืนขึ้น “นังแพศยา…”

“โอ๊ย!” เสียงด่าทอยังไม่ทันจบ เวินจิ้งก็สาดกาแฟใส่หน้าเขาอย่างว่องไว หยดของเหลวร้อนจัดสาดลงบนใบหน้าที่ยังหยิ่งยโส ในทันใดนั้นก็กลายเป็นอับอายขีดสุด

เวินจิ้งพูด “ช่วงนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะตอนที่เห็นขยะ”

“คุณชายจี้” ผู้หญิงรีบเช็ดหน้าให้เขา โวยวาย “พนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟเล็กๆ กล้าเหิมเกริมขนาดนี้…”

แต่พูดยังไม่ทันจบเธอก็ชะงักไป เพราะสายตาบังเอิญเห็นสร้อยคอของเวินจิ้ง ตอนที่เห็นครั้งแรกมองไม่ออก แต่ก็ไม่ถึงกับตาบอดจนตอนนี้ดูไม่ออก

เป็นงานออกแบบของแบรนด์ดังจริงๆ

“ออกไปได้ยัง” เวินจิ้งไม่มองหน้า

แต่เห็นชัดว่าผู้ชายยังคงอารมณ์ขึ้น กาแฟร้อนที่ถูกสาดเต็มหน้าทำให้เขาหน้าตาดุดัน ยกมือขึ้นคิดจะสะบัดมือตบ

เวินจิ้งยังไม่ทันหลบ เสียงกระดูกหักกรอบแกรบก็ดังลั่นในหูของเธอ

เสียงร้องโหยหวนของผู้ชายทำให้สายตาทุกคู่ในร้านกาแฟหันมามอง

เวินจิ้งหันไป สายตาของเธอพบเข้ากับใบหน้าของมู่วี่สิง

เขาเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเย็นชา ทั้งตัวปล่อยรังสีอำมหิต

ขณะที่ผู้ชายเห็นมู่วี่สิง ก็แข้งขาอ่อนแรง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งตัวแทบจะทรุดลงไปคุกเข่าที่พื้น

“คุณมู่…”

คุณชายจี้เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก รังสีที่แผ่ออกมาจากผู้ชายคนนี้ดุดัน จนทำให้คนลนลานเหลือเกิน

มู่วี่สิงมองสายตาขาดความมั่นใจของเขาปราดเดียวก็มองทะลุปรุโปร่ง ถามเสียงแหบต่ำที่ฟังดูอันตราย “มันทำอะไรคุณ”

เวินจิ้งกะพริบตา ขนตาอ่อนนุ่มสีกับแก้มของเขา น้ำเสียงไม่แข็งกระด้าง “เขาด่าฉัน ดูถูกฉัน”

มู่วี่สิงจ้องมองผู้ชายที่ยืนอยู่ไม่ห่างประคองมือตัวเองที่ถูกหักใบหน้าบิดเบี้ยวสายตาเย็นชา คำรามเสียงเย็น “แกด่าเธอ”

คุณชายจี้รู้สึกว่าเสียงของผู้ชายคนนี้เหมือนมาจากนรก ตกใจจนเย็นเยือกไปทั้งตัว สองคนนี้หย่ากันแล้วไม่ใช่หรือ ผู้หญิงของมู่วี่สิงคือหลิงเหยาไม่ใช่หรือ

เขารวบรวมความกล้า ยิ้มอายๆ “คุณมู่…ผมไม่รู้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสอง…เธอตั้งใจยั่วผมก่อน”

“เธอยั่วคุณ ภรรยาผมยั่วคุณอย่างนั้นหรือ” สายตาของมู่วี่สิงเย็นชา เผยอริมฝีปากบาง “แกมีดีตรงไหนให้ภรรยาฉันสนใจ”

เวินจิ้งเหลือบมองเขา พูดเรียบๆ “เขาอยากจะเลี้ยงดูฉัน”

ชายหนุ่มก้มหน้ามองใบหน้าขาวนวลของหญิงสาวในอ้อมกอด ยิ้มเย็นยิ่งขึ้น “แต่ไหนแต่ไรฉันไม่สนใจเก็บขยะสักนิดเดียว แต่ถ้าขยะขวางหูขวางตาก็อีกเรื่องหนึ่ง”

เขาโทรศัพท์ไปหาเกาเชียน สั่งให้ตัดโครงการทั้งหมดของตระกูลจี้

ผลลัพธ์เช่นนี้ แน่นอนว่าคุณชายจี้ไม่อาจทานทนไหว

แต่ใบหน้าของมู่วี่สิงเย็นเป็นน้ำแข็ง ไม่มีใครกล้าขอร้องให้เห็นใจ

มู่วี่สิงไม่มองสองคนที่ทำให้ขวางตาอีก โอบกระชับหญิงสาวในอ้อมกอด “อย่ามาให้ภรรยาฉันเห็นหน้าอีก”

เธอแทบจะลอยอยู่ในอากาศทั้งตัว รู้สึกไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร อีกอย่างที่นี่เป็นร้านกาแฟ เธอพูดขึ้น “คุณปล่อยฉันเถอะ คุณยังบาดเจ็บอยู่นะ”

เขาลืมตลอดว่าตัวเองยังเป็นคนป่วย!

ด้านนอกร้านกาแฟ เขาโอบเธอพาเข้าไปนั่งในรถ ปิดประตูฝั่งคนขับช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัย หน้าตึง เม้มริมฝีปาก เห็นชัดว่าพยายามระงับความโกรธเต็มที่

เธอไม่รู้ว่าเขามาได้อย่างไร เธอไม่ได้บอกเขาสักหน่อยว่าอยู่ที่นี่ แต่คิดๆ ดูแล้ว ถ้ามู่วี่สิงอยากจะรู้ว่าเธออยู่ไหนก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว

เธอออกมาจากร้านกาแฟอย่างกะทันหัน เวินจิ้งเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าต้องบอกกล่าวหยีเป่ยโจว เสียหน่อย ถึงอย่างไรก็ถือว่าเธอทำงานที่นั่น

แต่เมื่อสายตาเหลือบเห็นเวินจิ้งพิมพ์ข้อความเสร็จจะส่งออกไป เขาก็ยื่นมือมาแย่งมือถือไป

เวินจิ้ง:…

“มู่วี่สิง คุณจะทำอะไร”

“ตอนอยู่กับผม ห้ามพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น”

“ฉันแค่จะบอกกล่าวเขา คุณอย่าไม่มีเหตุผลสิ” พูดจบ เวินจิ้งก็ยื่นมือไปจะหยิบมือถือ “ที่จริงฉันยังต้องทำงานต่อ ตอนนี้ถูกคุณพาออกมา คนอื่นเขาคงคิดว่าฉันไม่น่าเชื่อถือ ”

“ไม่น่าเชื่อถือก็ช่างสิ คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง” มู่วี่สิงพูดเชิงออกคำสั่ง

“ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง มู่วี่สิง คุณอย่าเข้ามายุ่ง” เวินจิ้งหน้าคว่ำ ใบหน้าฉายความโกรธบางๆ

แน่นอนว่ามู่วี่สิงสังเกตเห็น เขาจอดรถเรียบร้อย แล้วมองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ

แค่คิดถึงที่เธอถูกคนเอาเปรียบในร้านกาแฟ ความอดทนของเขาแทบถึงขีดจำกัดแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอดื้อดึงที่จะไป เขาไม่มีทางยอมตอบตกลงแน่

“ถ้าจะไม่ให้ผมยุ่งเรื่องคุณ คุณก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้” เขาพูดเสียงขรึม

“ถึงยังไงผู้ชายนั่นก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรฉัน ฉันไม่มีทางยอมให้ตัวเองเสียเปรียบอยู่แล้ว”

มู่วี่สิงไม่พูดอะไร บรรยากาศเงียบงันแผ่คลุมรอบตัวทั้งสองคน

เวินจิ้งทนบรรยากาศเช่นนี้ไม่ไหว ผลักประตูคิดจะลงจากรถ “ฉันจะกลับแล้ว คุณก็กลับบ้านเถอะ ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณเรื่องวันนี้”

ถึงอย่างไร มู่วี่สิงก็ช่วยเธอไล่ผู้ชายน่ารังเกียจคนนั้นไป

มู่วี่สิงมองตามหลังเธอจากไปอย่างรวดเร็ว มือที่จับพวงมาลัยเกร็งแน่น อารมณ์ในดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและความโกรธ

……

ช่วงเวลานี้ แม้เวินจิ้งจะย้ายออกจากบ้านตระกูลมู่แล้ว แต่เธอก็ยังแทบสลัดมู่วี่สิงทิ้งไม่ได้ เธอห้ามไม่ได้ที่เขาจะมาหาเธอทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

รหัสล็อกประตูนอกจากได้ผลครั้งแรกแล้ว หลังจากสำหรับเขาแล้วพูดได้ว่าไร้ประโยชน์ เขาอยากจะเข้ามาก็มีวิธีมากมาย

เขากดกริ่งประตู แต่ไม่มีคนตอบรับจากข้างใน เขาครุ่นคิด นึกถึงว่านับแต่มีเรื่องที่ร้านกาแฟครั้งก่อน เธอก็ไม่ได้ออกจากบ้านพักใหญ่แล้ว

เปิดประตูเข้าไป ในห้องรับแขกไม่มีคน สีหน้าเรียบเฉยก้มหน้า มองดอกกุหลาบที่ตัวเองอุ้มไว้แน่น

ลี่หนานเฉิงบอกว่าในโลกนี้แทบไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบผู้ชายให้ดอกไม้ และคนรับใช้ที่บ้านยังบอกว่าเมื่อก่อนตอนเวินจิ้งอยู่บ้านลงมือปลูกดอกไม้เอง

เช่นนั้น เธอก็น่าจะ…ชอบดอกไม้ใช่ไหม

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท